มุมมองของชีวิตและความสำเร็จจากข้อความของ Jim Rohn
ความสำเร็จคืออะไร แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเราประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง ? สำหรับผม ผมคิดว่าความสำเร็จคือการที่เราได้อิสระภาพในบางเรื่อง อย่างเช่น อิสระภาพทางด้านการเงิน หรืออิสระภาพทางด้านการใช้ชีวิต ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ผมว่านั้นแหละคือความสำเร็จสำหรับตัวผม แต่เส้นทางไปสู่ความสำเร็จก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนที่พยายามเข้าหามันจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ ซึ่งการที่จะฝ่าฟันสิ่งเหล่านั้น เราจะต้องพัฒนาตัวเอง เสริมทักษะตัวเองด้านต่างๆเพื่อที่จะข้ามผ่านสิ่งต่างๆเหล่านั้นไป และแน่นอนว่าเส้นทางในการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุดและเร็วที่สุด คือการเรียนรู้จากคนที่สำเร็จแล้ว
วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมารู้จักกับ Jim Rohn
Jim Rohn เป็นกูรูด้านการพัฒนาตัวเอง เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจที่มีชื่อเสียงและโด่งดังคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
Jim Rohn ได้ฝากผลงานไว้มากมาย และมีคำพูดมากมายที่ค่อยกระตุ้นความคิดของผู้คน ที่ถ้าคุณได้อ่านอาจจะทำให้คุณมีมุมมองที่ต่างไปจากเดิม ผมขอยกตัวอย่างบางประโยคเพื่อให้เพื่อนๆได้เห็นถึงคำที่มีความหมายลึกซึ้งของ Jim Rohn
“Discipline is the bridge between goals and accomplishment.”
วินัยคือสะพานระหว่างเป้าหมายและความสำเร็จ
อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เราได้ยินมานาน ไม่ว่าจะช่วงวัยไหน เรามักจะได้ยินคำว่าวินัยเสมอ แต่การสร้างวินัยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันมักต่างผ่านการฝึกฝน การตั้งเป้าหมาย การจดจ่อต่อสิ่งที่เราต้องการทำ เพื่อให้สิ่งต่างๆเหล่านั้นติดตัว
“Failure is not a single, cataclysmic event. You don’t fail overnight. Instead, failure is a few errors in judgment, repeated every day.”
ความล้มเหลวไม่ใช่เหตุการณ์หายนะครั้งยิ่งใหญ่ คุณไม่ได้ล้มเหลวในชั่วข้ามคืน ความล้มเหลวคือความผิดพลาดเล็กน้อยที่ซ้ำเดิมทุกวัน
อันนี้ผมค่อยข้างชอบเลยครับ ผมรู้สึกว่าความล้มเหลวมันคือเรื่องธรรมชาติ เรื่องที่เกิดจากส่วนที่เราผิดพลาดที่เราคอยๆพลาด ซึ่งแม้ว่าเราจะล้มเหลวให้เรื่องใดสักเรื่องหนึ่ง ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญเลยคือแม้ว่าวันนี้เราจะล้มเหลว แต่จงนำความล้มเหลวนั้นเป็นบทเรียน เพราะการที่เราเรียนรู้จากความล้มเหลวเราจะได้มองตัวเองมากขึ้น เห็นภาพของตัวเองมากขึ้น เห็นถึงภาพรวมของสิ่งที่ทำ และจะไม่ไปซ้ำรอยมันอีก
“You are the average of the five people you spend the most time with.”
คุณเป็นค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด
ข้อความนี้ของ Jim Rohn ผมมีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ผมรู้สึกว่าการที่เราดำรงอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะมีนิสัยบางอย่างที่เป็นตัวตนของเราซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในทุกๆคน ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว แต่ที่ผมเห็นด้วยก็คือนิสัยของเราบางส่วนก็มาจากคนรอบตัวที่เราสนิทหรือมีความสัมพันธ์ด้วย เพราะนิสัยบางอย่างเราก็ได้มาจากคนอื่น
“Learn how to be happy with what you have while you pursue all that you want.”
เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี ระหว่างตามหาสิ่งที่คุณต้องการ
อันนี้คือเรื่องที่ผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเลย การที่เราอยากมีแบบคนอื่น หรือไม่พอใจกับสิ่งที่เรามีอันนี้ มันจะทำให้เราเป็นทุกข์เมื่อเรานำสิ่งต่างๆรอบตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ดังนั้นเราจงใช้ชีวิตแบบพอใจกับสิ่งรอบตัวระหว่างที่คุณต่างหาสิ่งที่คุณต้องการจริงๆในชีวิต การที่ทำแบบนั้นคุณจะมีมวลความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ
“Get around people who have something of value to share with you. Their impact will continue to have a significant effect on your life long after they have departed.”
อยู่กับผู้คนที่มีคุณค่ามาแบ่งปันกับคุณ คุณค่าที่คุณได้มาจะมีผลกับชีวิตของคุณ
การที่เราอยู่กับคนที่แบ่งปันสิ่งต่างๆมันย่อมเป็นผลดีกับตัวคุณ จะมีผู้นำครอบครัวที่ดีได้อย่างไร หากไม่มีภรรยาที่ดี และจะมีภรรยาที่ดีได้อย่างไร หากไม่มีผู้นำครวบครัวที่ดีคอยช่วยเหลือ ผมเห็นด้วยมากๆว่าการที่จะสร้างเรา หรือเราจะไปสู่เป้าหมายหรือความสำเร็จที่เราตั้งไว้ ดังนั้นจงอยู่กับคนที่มีคุณค่าแห่งการแบ่งปัน
“Days are expensive. When you spend a day you have one less day to spend. So make sure you spend each one wisely.”
วันเวลานั้นราคาแพง เมื่อคุณใช้ชีวิตไปหนึ่งวัน คุณมีวันเหลือน้อยลงอีกหนึ่งวัน ดังนั้นใช้แต่ละวันให้ดี
ข้อนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เรื่องเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นสิ่งที่เราต้องใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียดายวันเวลาเหล่านั้น และใช้วันเวลาเหล่านั้นให้คุ้มค่าที่สุด
คำจะสร้างคนหรือทำลายคน อยู่ที่จุดประสงค์ที่ต้องการสื่อสาร คำบางคำอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นหรือส่งผลกระทบต่อผู้อื่นได้อย่างมาก ดังนั้นก่อนที่จะพูดสิ่งใด จงคิดก่อนพูดและคำนึกถึงสิ่งที่ตามมา เพราะคำพูดเป็นสิ่งที่จะติดตัวเราไปตลอด และเป็นสิ่งที่เราจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราแสดงออกไป สุดท้ายนี้เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกับข้อความที่ Jim Rohn เคยกล่าวไว้ มาแบ่งปันกันนะครับ
เขียนโดย : aspect
- 21
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
