อาการไม่อิ่มเซ็กส์ เช็คแล้วไม่ใช่ ฮิสทีเรีย
อาการไม่อิ่มเซ็กส์หรือ หรือที่รู้จักของคนทั่วไป คือโรค ขาดผู้ชายไม่ได้ ชื่อทางการแพทย์ เรียกว่า มาลาเรีย (มันใช่ที่ไหนล่ะ) เรียกว่า "ฮิสทีเรีย" อธิบายเพื่อให้เข้าใจง่าย ตามภาษาบ้าน ๆ คืออาการขาดเรื่องอย่างว่าไม่ได้ หรือมีความต้องการ เรื่องบนเตียงเกินกว่าปกติ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการ เซ็กส์จัด แต่อย่างใด
แต่ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา ผู้เขียนขอขัดจังหวะสามช่า ซักนิดก่อน เรามักเข้าใจผิดว่าโรค ฮิสทีเรีย คือโรคขาดเรื่องอย่างว่าไม่ได้ ทั้งที่แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่ ฮิสทีเรีย เป็นเพียงโรคชนิดหนึ่ง ที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่เราก็มักเหมารวม ขายยกแข่ง
ความเป็นจริง Histeria คือ โรคที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง กับความต้องการทางเพศแต่อย่างใด อาจดูคล้าย ๆ กันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถูกต้อง หากถูกรวมไว้ในหม้อเดียวกัน ฮิสทีเรีย ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก ๆ อันได้แก่ บุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย และโรคประสาทฮิสทีเรีย
กลุ่มอาการบุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย คือกลุ่มผู้ป่วย ที่มีลักษณะนิสัยความเป็นเด็กสูง เรียกร้องความสนใจเกินกว่าเหตุ บางราย มีทีท่าเชื้อเชิญ ยั่วยวน ผู้คนรอบข้าง อันเป็นผลมาจากชีวิตในวัยเด็ก ซึ่งขาดความอบอุ่น ขาดการดูแลเอาใจใส่
ส่วนอีกกลุ่มคือ โรคประสาทฮิสทีเรีย กลุ่มนี้จะถูกย่อยออกเป็นอีกสองกลุ่มย่อย ได้แก่ แบบคอนเวอร์ชัน รีแอคชั่น แสดงอาการชัดเจน หลังจากเกิดความขัดแย้ง ทางความรู้สึกขั้นรุนแรง ในบางรายมีอาการ เอามาพาด เอ้ย ..!!! อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนกำลัง พูดไม่มีเสียง เป็นต้น
กลุ่มย่อยอีกกลุ่มคือ แบบดีสโซซิเอทีฟ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ จะแสดงออกในบุคลิคภาพ ที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เช่น จากเป็นคนเรียบร้อย ก็จะเปลี่ยนเป็นคนก้าวร้าว ในบางราย มีอาการความจำเสื่อมรวมอยู่ด้วย ในทางวิทยาศาสตร์ ยังคงไม่พบสาเหตุ ที่ทำให้แสดงอาการดังกล่าว
ทีนี้เรามารู้จักกับ โรคขาดผู้ชายไม่ได้ กันบ้างครับ สำหรับโรคโหยหาเพศชาย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "โรคนิมโฟมาเนีย" เป็นการนำเอา คำสองคำ ที่นำมารวมกัน คือ นิมโฟ แปลว่า ผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูง และ มาเนีย แปลว่า ความคลั่งไคล้ เมื่อรวมกัน จึงหมายถึง ผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศ สูงเท่าตึกคิงดอมทาวเวอร์
ถ้าพูดกันตามหลัก โรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งหญิงและชาย ทว่าในบุรุษ มันกลับถูกเรียกว่า โรค "สไตเรียซิส" ในเหล่าชายชาตรี กลับไม่เป็นที่ถกเถียงกันซักเท่าไหร่ ต่างจากอิสตรี ที่มักถูกคุกคามทางสังคม อันนำมา ซึ่งความไร้เกียรติและการประนาม อย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคชนิดนี้ มีหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ความผิดปกติในการหลั่งสาร เซโรโทนิน, นอร์เอพิเนฟริน, โดปามีน ของสมอง รวมไปถึง ฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ในการคอนโทรล อารมณ์ทางเพศ
นอกจากนี้ การได้รับยามากเกินไปอย่าง แอมเฟตามีน หรือสารเสพติด ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว นั่นยังไม่รวมถึง บาดแผลทางจิตใจ, ความสมดุลของอารมณ์, พันธุกรรม, สภาพแวดล้อม และความเครียด
สำหรับพฤติกรรมของผู้ป่วย Nymphomania มักจะแสดงอาการ ที่ไม่ค่อยดีนัก เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ แสดงออกถึงความต้องการทางเพศ แบบโจ่งครึ่ม พูดจาหรือแสดงท่าทางอันสื่อถึงเรื่องใต้สะดือ ชอบโชว์ .. เข้าใจตรงกันนะ ว่าโชว์นี้ มีเฉพาะบนเวที ไทยแลนด์ก็อด ทะเล้น เท่านั้น
ลักษณะอาการดังกล่าว เป็นลักษณะที่เป็นภัยต่อสังคม และต่อตัวผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ผู้เขียนเชื่อว่า เพศชายที่เห็นแก่ตัว มักจะหยิบฉวยโอกาส เพื่อตักตวงและตอบสนองอารมณ์ตัวเอง ทั้งที่ไม่ควร ซึ่งจะเป็นจุดก่อเกิดของโรคร้าย และปัญหาสังคมตามมา
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ผู้ป่วยที่ต้องเผชิญอาการนี้ มักถูกสังคมประนาม ทั้งที่แท้จริงแล้ว ตัวผู้ป่วยเอง ที่ต้องแบกรับ กับความผิดปกติของร่างกาย แรงกดดัน จากหลายด้าน ทั้งตัวเอง ครอบครัว สังคม ซึ่งหากขาดการดูแล รักษาที่ถูกต้องแล้ว เชื่อว่าทุกอย่าง จะยิ่งเลวร้ายขึ้น
เราลองมาจินตนาการ ถึงตัวของเราเอง หากวันนึงเราควบคุมมือตนเองไม่ได้ มันมักจะไปตบคนอื่น ๆ ที่เราชังเสมอ ลองจินตนาการถึง การบังคับตัวเองไม่ได้ ซึ่งมักจะเข้าไปจูบ คนที่เรารู้สึกชอบอยู่เสมอ (โดยไม่รู้จักกัน) หากเป็นเราเอง เราจะทำเช่นไร เราจะรู้สึกอย่างไร นั่นเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่ง ซึ่งวัดไม่ได้เลยกับผู้ป่วยในกลุ่มโรค นิมโฟมาเนีย
สุดท้ายผู้เขียนได้แต่หวังว่า ทุกคนจะช่วยกันดูแลสุขภาพ ของตัวเอง และคนที่เรารัก อย่างดีที่สุด เพราะไม่มีสิ่งใด จะมีค่าเท่ากับสุขภาพ การเอาใจใส่สุขภาพ รับประทานอาการที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรู้จักทำจิตใจให้เบิกบาน คือพื้นฐานแห่งความสุขที่แท้จริง
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
สัมผัสเบา ๆ จากปลายนิ้วท่าน สามารถให้กำลังใจผู้เขียนได้ง่าย ๆ
กดไลค์ = ชอบ
กดแชร์ = เห็นว่ามีประโยชน์
คอมเม้นต์ = เพื่อติชม และเป็นกำลังใจ
Subscribe บน YouTube
- 16
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
