24 เม.ย. 2020 เวลา 02:09 • ธุรกิจ
ประวัติ Jho Low ตอนที่ 5 : Absolute Power
แม้จะถูกปฏิเสธจากค่านายหน้า ในการนำ Mubadala เข้ามาลงทุนในมาเลเซีย โดย Low คิดว่าเขาควรได้รับผลตอบแทนที่เขาสมควรได้รับ และที่สำคัญ เขาก็ต้องการที่จะตอบแทน Otaiba ผู้มีพระคุณด้วย ด้วยความผิดหวัง เขาจึงต้องเดินหน้าหาวิธีการใหม่
ประวัติ Jho Low ตอนที่ 5 : Absolute Power
สำหรับโครงการ Iskandar ที่ถือเป็นหนึ่งในโครงการ Mega Project ของประเทศมาเลเซีย Low นั้นรู้ข้อมูลดีว่า ในแบบแปลนของโครงการ Mega Project ดังกล่าวนี้ ต้องมีการสร้างถนนสายใหม่ แหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรม
เพราะฉะนั้น ธุรกิจก่อสร้างจะกลายเป็นธุรกิจที่สำคัญมาก ๆ สำหรับโครงการ Mega Project นี้ ในตอนนั้น Low ได้ยินข่าวเกี่ยวกับบริษัทก่อสร้างของมาเลเซียสองแห่งที่กำลังจะขายกิจการอยู่พอดี และเขาสามารถซื้อได้ในราคาถูก และ หากเขามีบริษัทก่อสร้างที่สามารถเข้าประมูลงานใน Mega Project เหล่านี้ได้ นั่นคือเม็ดเงินจำนวนมหาศาล
1
ซึ่งด้วยสถานภาพของ Low ในตอนนั้น ที่เริ่มกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงมีแรงหนุนที่สำคัญจากครอบครัวของ Najib ทำให้เขาไม่มีปัญหาในการโน้มน้าวให้ธนาคารในมาเลเซียปล่อยกู้เงินหลายสิบล้านดอลลาร์
และเขาก็ได้นำเงินดังกล่าวมาซื้อกิจการบริษัทก่อสร้าง และในเวลาเดียวกัน บริษัทในเครือของ Low อย่าง Wynton ก็ได้ออกเงินกู้เพิ่มเติม เพื่อใช้ในการซื้อที่ดินในแถวบริเวณโครงการ Iskandar ซึ่งตอนนี้แทนที่เขาจะมองแค่เพียงรายได้จากค่านายหน้า เขาได้เปลี่ยนสถานะตัวเองให้กลายเป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการ Mega Project นี้ได้สำเร็จ
และเพื่อตอบแทนมิตรแท้จากตะวันออกกลาง อย่าง Otaiba Low ได้ทำการจัดตั้งบริษัท ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ที่มีชื่อว่า บริษัทการลงุทนอาบูดาบี – คูเวต – มาเลเซีย และทำการมอบหุ้นจำนวนหนึ่งให้กับ Otaiba ฟรี ๆ เป็นการตอบแทน
1
และบริษัทนี้นี่เองที่ Low ใช้มันเป็นการสร้างนิยายเรื่องใหม่ ว่า เป็นกองทุนความมั่งคั่งจากตะวันออกกลางรายใหญ่ ที่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในมาเลเซีย โดยเริ่มจากการซื้อบริษัทก่อสร้าง ซึ่งแน่นอนว่ามันสร้าง Credit ให้ Low ที่ดูเหมือนว่ากิจการของเขานั้นได้รับการสนับสนุนจากกองทุนในตะวันออกกลาง และมันทำให้สามารถดึงดูดเงินได้มากขึ้น
1
Low เริ่มลงทุนในบริษัทก่อสร้าง เพื่อเข้า Mega Project
Low ได้เรียนรู้ข้อมูลพวกนี้จากพ่อของเขา Larry Low ซึ่งเปิดบริษัทไว้มากมายในรูปแบบดังกล่าว และข้อมูลที่สำคัญก็คือเขารู้ดีว่า หากไปจดทะเบียนที่หมู่เกาะเคย์แมน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสาขาของธนาคารสหรัฐ และ เหล่ากองทุนป้องกันความเสี่ยง สถานที่แห่งนี้จะไม่ปลอดภัยเพราะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางวอชิงตัน
แต่ที่หมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ในทะเลแคริบเบียน หรือ ที่เชเชลส์ หมู่เกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย มีวิธีการที่แตกต่าง และเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย และไม่มีข้อมูลหลุดรั่วออกไปได้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้น Low ก็ได้ทำการตั้งบริษัท สองแห่งในเชเชลส์ บริษัท ADIA Investment Corporation และ KIA Investment Corporation ซึ่งการตั้งชื่อแบบนี้นั้น มันเป็นความตั้งใจของ Low ที่ทำให้ชื่อนั้นดูมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานการลงทุนของ อาบูดาบี (ADIA) และ หน่วยงานด้านการลงทุนของคูเวต (KIA) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่สำหรับบริษัท Low สร้างมานั้น แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับ อาบูดาบี หรือ คูเวต เลย
1
ถัดจากนั้น Low ก็ใช้บริษัท ต่างประเทศที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กันเหล่านี้ เข้าไปลงทุนในบริษัทก่อสร้างขนาดเล็กของมาเลเซีย รวมถึงการเอาชื่อบริษัทเหล่านี้ ไปหลอกนักธุรกิจที่ร่ำรวย แต่ไร้เดียงสาทางด้านการเงิน ในมาเลเซีย ซึ่งนักธุรกิจเหล่านี้จะมากว้านซื้อที่ดินจากกลุ่มการลงทุนที่โด่งดังของเขาในราคาสูงนั่นเอง
ความทะเยอทะยานของ Low ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เงินที่ดูเหมือนเริ่มได้มาง่าย ๆ เขาไม่ต้องการหยุดเพียงแค่นี้ เขาต้องการสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในมาเลเซีย ซึ่ง Low ได้สังเกตถึงสถานะของ Al Mubarak ผู้บริหารกองทุน Mubadala ของเอมิเรตส์ ซึ่งกองทุนแบบนี้มีเงินนับพันล้านดอลลาร์ Low จึงคิดว่า ทำไมเขาจะสร้างกองทุนความมั่งคั่งของตัวเองไม่ได้ล่ะ และแล้วเขาก็ได้ก็เริ่มมองหาว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน
2
ต้องบอกว่า กองทุนความมั่งคั่งแบบดั้งเดิมของมาเลเซียนั้น เป็นการนำเงินที่ได้จากกำไรของน้ำมันมาลงทุน เพราะฉะนั้น Low จึงเริ่มโฟกัสไปที่ รัฐตรังกานูซึ่งอุดมไปด้วยแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง
ราชวงศ์มลายูทั้ง 9 ตระกูลของมาเลเซียนั้น แต่ละตระกูลก็มีสภาพที่แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ โดยมีการปกครองแบบอยู่ร่วมกันกับรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แต่สุลต่านแต่ละรัฐนั้นก็มีอำนาจทางการเมืองที่กว้างขวางในบางกรณี ซึ่งรวมถึงการควบคุมรายได้ของรัฐในท้องถิ่น
สำหรับ สุลต่านแห่งรัฐตรังกานู คือ Mizan Zainal Abidin ผู้ที่ได้รับการศึกษาในสหราชอาณาจักร มาจากตระกูลอิสลามแบบอนุรักษ์นิยม เป็นหนึ่งในสุลต่านที่มีความรู้ความสามารถสูง และเป็นคนที่ฉลาดมาก ๆ
รัฐตรังกานู ที่มีความมั่งคั่งจากน้ำมัน
ซึ่ง Low ได้มีโอกาสได้รู้จักกับน้องสาวของ Mizan ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น Connection ที่สำคัญให้ Low นั้น สามารถเข้าไปทำความรู้จักกับ Mizan ได้สำเร็จ และเขาได้เสนอหุ้นฟรีในบริษัท การลงทุนอาบูดาบี – คู่เวต -มาเลเซีย ที่กำลังลงทุนในบริษัทก่อสร้างของประเทศมาเลเซีย
1
หลังจากนั้น Low ได้นำเสนอแผนที่มีความทะเยอทะยานสูงขึ้นไปกว่าเดิม ด้วยการเสนอให้ สุลต่าน Mizan จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง แบบเดียวกับ Mubadala ของ อาบูดาบี ที่นำเงินจากกำไรของน้ำมันมาสร้างกองทุน
2
โดยตัวละครที่สำคัญอีกคนหนึ่งก็คือ Tim Leissner นายธนาคารจาก Goldman Sachs ที่ Low นั้น บอกกับ Mizan ว่า Leissner เป็นบุคคลที่มีความสามารถสูง และสามารถที่จะให้คำแนะนำในการลงทุนทั่วทุกมุมโลกได้
Low และ Mizan ได้พูดคุยกันถึงการอนุญาติให้กองทุนความมั่งคั่งออกพันธบัตรอิสลามมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดกฏอิสลามจากการคิดดอกเบี้ย แต่ในขณะที่กองทุนกำลังเตรียมหาเงิน ในเดือนพฤษภาคมปี 2009 Mizan เริ่มรู้สึกแปลกใจกับแผนการลงทุน ของ Low ที่ไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด
1
ซึ่งมันเป็นความเสี่ยงเกินไปสำหรับ Mizan ที่จะเอาเงินจากความมั่งคั่งของน้ำมันไปลงทุน โดยที่กองทุนนั้นแทบจะไม่มีผู้บริหารแบบเต็มรูปแบบเสียด้วยซ้ำ เขาจึงสั่งให้ตัวแทนของเขาในคณะกรรมการ สั่งให้ชะลอการระดมทุน
แต่หารู้ไม่ว่า Low นั้นไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ได้ทำการผลักดันให้พันธบัตรอิสลามมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ออกไปได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่ามันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Low ที่ต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่ลำบากเสียแล้ว เมื่อ Mizan ต้องการให้ปิดกองทุน แต่มันสายไปเสียแล้ว Low ต้องหาวิธีแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน
2
แต่เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต เพราะมันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ Najib Razak ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดในการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียในเดือนเมษายน 2009 พอดิบพอดี ต้องบอกว่า Najib เป็นหนึ่งในความหวังของชาวมาเลเซียในขณะนั้นเนื่องจากพรรค UMNO มีความนิยมที่ตกต่ำอย่างหนัก ชาวมาเลเซียต้องการ ฮีโร่ อย่าง Najib ให้มากอบกู้พรรค และนำพาประเทศให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
3
และสถานการณ์นี้ก็ทำให้ Low ผู้มีความทะเยอทะยาน มีชายผู้ทรงอำนาจที่สุดในประเทศอย่าง Najib Razak คอยหนุนหลัง ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องแลกกับผลประโยชน์ที่ Najib นั้นก็ต้องการเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยฟื้นฟูความนิยมของพรรค และสถานภาพทางการเงินของ Low ในตอนนั้นก็มีเงินพอที่จะมาช่วยเหลือ Support ทางด้านการเมืองให้ Najib Razak ได้แล้วเช่นเดียวกัน
2
เรียกได้ว่า เป็นการโคจรมาเจอกันด้วยเวลาที่ลงตัวอะไรเช่นนี้ สำหรับ Najib และ Low ที่ต่างฝ่าย ต่างต้องการความสามารถของอีกฝ่ายพอดิบพอดี ในช่วงเวลาที่ Najib ต้องการนำพาประเทศให้กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้สำเร็จให้ได้ และ Low ก็พร้อมที่จะพาแหล่งเงินทุนจากตะวันออกกลางเข้ามาลงทุนในมาเลเซียพอดิบพอดี แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม
อ่านตอนที่ 6 : The First Heist
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา