กรณีศึกษา Pomelo ร้านเสื้อผ้าไทย ไปไกลในอาเซียน
Pomelo เป็นแบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่ ที่มาแรงบนโลกออนไลน์
ซึ่งดำเนินธุรกิจทั้งในไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฮ่องกง
แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่า Pomelo กำเนิดและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศไทย
จุดเริ่มต้นมาจาก คุณเดวิด โซฮยอง จู ลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน
เขาเรียนและเติบโตที่สหรัฐฯ
แต่ถูกคนรู้จัก ชักชวนให้มาทำธุรกิจ E-Commerce ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งเขาก็เห็นโอกาสเติบโตของตลาด E-Commerce ในภูมิภาคนี้
จึงได้เก็บข้อมูลและพบว่า ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มธุรกิจ
เพราะมียอดผู้ใช้สมาร์ตโฟน และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูง
ช่องทางการชำระเงินก็ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จึงตัดสินใจมาร่วมก่อตั้ง Lazada ประเทศไทยขึ้น
อย่างไรก็ตาม พอผ่านไปปีครึ่ง ธุรกิจ Lazada เริ่มมีความมั่นคง
ด้วยความต้องการส่วนตัว ที่คุณเดวิดอยากทำธุรกิจในรูปแบบ
Vertical E-commerce หรือ ขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม
มากกว่าธุรกิจแนว General E-commerce หรือ ขายสินค้าหลากหลาย
เลยตัดสินใจอีกครั้ง คือการลาออกจาก Lazada ประเทศไทย
โดยร่วมกับคุณเคซี่ เจิ้งซี เหลียง และคุณวีรธิป ธนาภิสิทธิกุล
มาก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ “Pomelo”
Pomelo ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 แต่สินค้าปล่อยสู่ตลาดตอนต้นปี พ.ศ. 2557
อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ คุณเดวิด มองว่า
ประเทศไทยมีศักยภาพพอที่จะเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของภูมิภาค
“ผมพบว่ากรุงเทพฯ มีคนเก่งด้านแฟชั่นอยู่มากมาย
กรุงเทพฯ ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงด้านแฟชั่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไม่ว่าคนสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ก็มากรุงเทพฯ เพื่อชอปปิง และศึกษาเทรนด์แฟชั่น”
Cr. Forbes Thailand
Pomelo จะเน้นขายเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงในวัยทำงาน ที่ชื่นชอบสไตล์เกาหลี
และขายในราคาที่เอื้อมถึงได้
โดยเริ่มแรก บริษัทจะนำเข้าเสื้อผ้าจากเกาหลีใต้มาจำหน่าย เพื่อทดลองตลาด
ก่อนจะหันมาดีไซน์ และผลิตเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ตัวเองทั้งหมด
ด้วยความที่อยู่ในธุรกิจ Fast Fashion
Pomelo จึงต้องแข่งขันกับตลาดและคู่แข่ง
โดยการออกคอลเล็กชันใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งแพลตฟอร์มของ Pomelo จะมีการอัปเดตสินค้าใหม่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
Cr. Promotions
และลูกค้าของ Pomelo ที่สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
สามารถขอคืนสินค้าได้ ภายในระยะเวลา 1 ปี
โดยเลือกส่งคืนได้ทั้งจุดบริการ 7-Eleven, ไปรษณีย์ไทย, หน้าร้าน Pomelo และจุดบริการ Pomelo Pick Up ทุกสาขา
มาดูรายได้ย้อนหลังของ บริษัท โพเมโล แฟชั่น จำกัด
ปี 2559 มีรายได้ 134 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 163 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 409 ล้านบาท
ในช่วงแรกๆ Pomelo วางตำแหน่งธุรกิจของตัวเองเป็นร้านค้าออนไลน์
เน้นขายผ่านเว็บไซต์ และแอปอย่างเดียว
จึงทำตลาดบนโลกออนไลน์เป็นหลัก
โดยจ้างคนดัง หรือดาราต่างๆ ให้สวมใส่เสื้อผ้าของแบรนด์
เป็นพรีเซนเตอร์บนโซเชียลมีเดีย
Cr. JEAB
แต่คุณเดวิด กลับรู้สึกว่า ช่องทางออนไลน์อย่างเดียวไม่พอ
ธุรกิจแฟชั่นต้องมี “หน้าร้าน” เป็นของตัวเองด้วย
การมีหน้าร้านจะช่วยเสริมจุดที่ Pomelo ขาดหายไป
เพราะหลายคนยังอยากลองสวมใส่ ลองสัมผัสเนื้อผ้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
เขาจึงวางกลยุทธ์บริษัทใหม่ โดยย้ำจุดยืนด้านการเป็น Omni-Channel
ขยายช่องทางจัดจำหน่ายจากทางออนไลน์ สู่ช่องทางออฟไลน์
ซึ่งเริ่มเข้าสู่โมเดลธุรกิจนี้ในปี พ.ศ. 2561
โดยปัจจุบัน Pomelo มีร้านสาขาของตัวเอง 12 แห่งในประเทศไทย
ซึ่งข้อดีของการมีหน้าร้านอีกอย่างคือ
หน้าร้านจะช่วยสร้างการรับรู้ในแบรนด์แก่ผู้บริโภค
จากคนที่ไม่เคยรู้จัก Pomelo มาก่อน เวลาไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า
ก็จะเห็นแบรนด์นี้ผ่านๆ ตา และรับรู้แบรนด์ไปโดยปริยาย
Cr. Whitespace Bangkok
หน้าร้าน จึงเปรียบได้ดั่ง ป้ายโฆษณาชั้นดี
นอกจากนี้ Pomelo ยังเปิดให้บริการลองเสื้อผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ
โดยลูกค้าเพียงเลือกไอเทมที่อยากลอง ผ่านแอปหรือเว็บไซต์
และเลือกสถานที่ที่จะไปลองชุด
ไม่ว่าจะเป็น ที่หน้าร้านของ Pomelo
จุดบริการ Pomelo Pick Up ที่สีลม และ BTS อารีย์
หรือจุดบริการของพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ เช่น ช็อป SABINA, ร้านคาเฟ่, ร้านเสื้อผ้า
ซึ่งถ้าเราลองแล้วชอบตัวไหน ก็เลือกจ่ายเงินเฉพาะตัวนั้น
Cr. Pomelo
จากข้อมูลของ Crunchbase
Pomelo ได้ระดมทุนจากนักลงทุนไปแล้วมากถึง 2,640 ล้านบาท
ถ้าถามว่าต่อไปในอนาคต Pomelo จะมีโอกาสได้เป็นยูนิคอร์น
หรือสตาร์ตอัปที่มีมูลค่า 32,000 ล้านบาท ของเมืองไทยหรือไม่
คำตอบคือ มีลุ้น
แต่ที่แน่ๆ
ความตั้งใจแรกของคุณเดวิด ที่อยากให้ Pomelo เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่ประสบความสำเร็จ
คุณเดวิดอาจได้บรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว
แต่ตอนนี้คุณเดวิดบอกว่า เขามีเป้าหมายใหม่
นั่นคือการทำให้ Pomelo เป็นแบรนด์ระดับโลกเลยทีเดียว..
- 101
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
