24 เม.ย. 2020 เวลา 16:11 • ธุรกิจ
ชาวยิว เลี้ยงลูกยังไง ให้กลายเป็น “เศรษฐี” ?
“ยิว” เป็นชนชาติเล็ก ๆ ที่อพยพหนีสงครามไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งนับเป็น 0.25% ของประชากรโลก 
แต่รู้ไหมว่า 20% ของชาวยิวเป็นมหาเศรษฐี และ 40% เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ นอกจากนี้ 1 ใน 3 
มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ ยังเป็นชาวยิว!
ไม่เว้นแม้แต่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของ Facebook ที่เรากำลังใช้กันอยู่นี้ ก็ยังมีเชื้อสายยิว!
แล้วอะไร ที่ทำให้ชาวยิวร่ำรวย และประสบความสำเร็จมากกว่าชนชาติอื่น ๆ คงเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน วันนี้เราเลยจะพามาดู วิธีการเลี้ยงลูกให้กลายเป็น “เศรษฐี” ในแบบฉบับชาวยิวกัน
#การหาเงินไม่จำเป็นต้องรอตอนโตแล้ว
“แกเป็นเด็กโตแล้ว! ทำไมไม่ช่วยแม่ทำงาน! อย่าทำตัวเหมือนขยะไร้ค่า!” เพื่อนบ้านชาวยิวพูดขณะชี้หน้า
ตำหนิลูกชายคนโตจากครอบครัวชาวจีนที่ย้ายมาอยู่ในอิสราเอล พร้อมเอ่ยกับแม่เขาว่า “อย่าเอารูปแบบผิดๆที่พกพาจากเมืองจีนมาเผยแพร่ที่นี่” เพราะชาวยิวมีภาษิตที่ว่า “ถ้าไม่สอนอาชีพให้ลูก ก็เหมือนสอนลูกให้เป็นโจร” แตกต่างจากคนจีนที่มักคิดว่า "เด็กมีหน้าที่ศึกษาหาความรู้อย่างเดียว"
#ทุกอย่างต้องตีค่าเป็นเงิน
ในครอบครัวชาวยิว ไม่มีอาหารฟรี ไม่มีบริการฟรี ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ เพราะทุกอย่างนั้นถูกตีค่าเป็นเงินหมด ทำให้เด็กยิวทุกคนต้องเรียนรู้วิธีหาเงินเพื่อมาแลกกับสิ่งที่ตนอยากได้ แม้จะฟังดูเป็นวิธีที่โหดร้ายแต่สิ่งนี้กับทำให้ชาวยิวเป็นคนขยัน และคิดวิธีหาเงินได้อย่างแยบยลตั้งแต่เด็ก ๆ
#หุ้นคือของขวัญสำหรับเด็ก
พ่อแม่ชาวยิวจะให้ “หุ้น” เป็นของขวัญวันเกิด และของขวัญในวาระต่าง ๆ ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ เพราะชาวยิวให้
ความสำคัญเรื่องการศึกษาด้านการเงินมาก หลังจากเด็ก ๆ ได้หุ้นจากพ่อแม่ไปแล้ว ก็จะมีการพูดคุยกันถึงผลการลงทุน พร้อมสอนวิธีวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้ลูกอย่างละเอียด
#ขายสิ่งมีค่าที่เก็บง่าย
ในอดีตฐานการเงินของชาวยิวไม่มีความมั่นคง เพราะต้องคอยหลบหลีกหนีสงครามอยู่ตลอด คนยิวส่วนใหญ่จึงนิยมขายของมีค่าที่เก็บง่าย และเคลื่อนย้ายได้เร็วที่สุด อาทิ เพชร ทอง เงิน และอัญมณีต่าง ๆ โดยจะเน้นขายให้กลุ่มคนรวย และผู้หญิง เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเยอะ เด็กยิวส่วนใหญ่จึงถูกสอนให้ค้าขายสิ่งที่ทำกำไรได้ดี ต่างจากชาวจีนที่นิยมขายสินค้าราคาถูก ให้ได้ในจำนวนมาก ๆ
#ไม่ทิ้งสมบัติไว้ให้ลูกหลาน
ชาวยิวส่วนใหญ่ไม่นิยมทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน แต่จะทิ้งสมบัติอันล้ำค่าที่มีเงินทองมากมายก็หาซื้อไม่ได้
ก็คือ “สติปัญญา” และ “แนวคิด” ในการดำรงชีวิต หาเลี้ยงชีพ เหมือนกับที่ชาวยิวครอบครัวหนึ่ง 
เคยบอกลูกว่า 1 + 1 = 2 ลูกต้องหาทางคิดให้มากกว่า 2 ให้ได้! ซึ่งปัจจุบันเด็กคนนี้ คือ ประธานบริษัท McCall ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของอเมริกา
เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ชาวยิว ถึงเลี้ยงลูกให้กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับต้น ๆ ของโลกได้ 
เราจึงหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนไทยหลายคน ๆ ได้นำไปปรับใช้ ไม่แน่ในอนาคตคุณอาจจะมีลูกเป็นเศรษฐี เหมือนชาวยิวก็เป็นได้!
#TheLuxuryProjects
#LuxuryProjects
โฆษณา