25 เม.ย. 2020 เวลา 03:41 • ไลฟ์สไตล์
เบียร์ในโลกนี้หลักๆมีแค่ 2 สไตล์
ภาพจาก pinterest
จริงเบียร์ที่เราดื่มทุกวันนี้มี 2 สไตล์หลัก เลเกอร์เบีย(Lager) และ เอลเบียร์(Ale ) แล้วจึงแตก ออกลูกออกหลาน ไปสไตล์ย่อยๆอีกมากมาย มาดูรายละเอียด2สไตล์กัน
1.เลเกอร์เบียร์ นิยมทำในเยอรมัน แต่ถ้าทำในประเทศเชค(แถบแคว้นโบฮีเมียน) จะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าพิลสเนอร์(Pilsner) และเบียร์ตลาดในไทยจะเรียกว่าเบียร์ประจำชาติไทย ทุกวันนี้ก็มีแต่ลาเกอร์เบียร์นี่แหละ ไม่ว่าเบียร์สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ก็ลาเกอร์ทั้งนั้น 55555
มอลต์ที่ใช้ทำจะเป็นพิลสเนอร์มอลต์เป็นส่วนประกอบหลัก การหมักเบียร์ยีสต์ที่อุณหภูมิต่ำ(12-14 องศาเซลเซียส) ยีสต์จะใช้ลาเกอร์ยีสต์ โดยตัวยีสต์จะทำงานที่ก้นถัง(bottom fermentation)หมักประมาณ 1 เดือนจากนั้นนำไปเก็บ(lagering) ที่อุณหภูมิต่ำ( 2-4 องศาเซลเซียส)อีก 1-3 เดือน เพื่อเบียร์ตกตะกอนและใส ส่วนมากในยุโรปจะลาเกอร์ริ่งในถ้ำใต้ดิน ถ้ำน้ำแข็ง
สีของเบียร์จะอ่อนคือ ระดับแอลกอร์ฮอลไม่สูงมาก(4-6%) สีเบียร์เหลืองอ่อนไปจนเหลืองทอง เนื้อเบียร์(body) จะบางเบา กินง่าย ลื่นปรื้ด กระดกทีเดียวหมดแก้วได้ กินแล้วไปฉี่ กลับมานั่งต่อกินต่อสบาย เหมาะกับอหารมันๆรสจัดจ้าน มันถึงนิยมในบ้านเราไงล่ะ
เป็นเบียร์ที่นิยมที่สุดในโลก ยี่ห้อเบียร์ทั้งเบียร์ตลาดและเบียร์แบบดั้งเดิมมากมาย อาทิ Miller ,Budweiser ,Heineken ,Asahi ,Sapporo ,Kirin Pilner Urquell และที่ขาดไม่ได้ Singha และ Chang😝😝😝
แต่เบียร์ลาเกอร์ตลาดทุกที่ในโลกเค้าไม่ทำ lagering กันเป็นเดือนนะจ๊ะ มันเสียเวลา เสียต้นทุน ส่วนมากจะใช้เครื่องกรองให้เบียร์มีความใส แล้วใส่ขวดให้คุณกินเลย อย่างว่าละค้าบเดียวต้นทุนเบียร์มันจะสูง(เพราะภาษีเบียร์บ้านเรามันแพ้ง...)😭😭😭
ถาพจาก 52brews.com
2.เอลเบียร์ เป็นเบียร์ที่มีมานานมาก นิยมกันมากแถบอังกฤษ และกินยากในไทย 5555
มอลต์ที่ใช้เป็นเพลมอลต์และอาจใส่มอลต์อื่นๆเช่น เพลมอลต์ที่สีเข้มขึ้น วีท(wheat)มอบต์ ไรย์(Rye)มอลต์ เฟลค(flake)มอลต์ต่างๆ ทำให้แตกลูกหลานไปได้มากมายกว่าสายลาเกอร์เบียร์
ใช้เอลยีสต์ในการหมัก โดยอุณหภูมิหมักจะสูงกว่าลาเกอร์ ที่ 18-22 องศาเซลเซียส ยีสต์จะทำงานด้านบนถัง(top fermentation) หมัก 3-4 อาทิตย์ เป็นอันเสร็จ
สีของเบียร์ส่วนมากจะเข้ม ออกเหลืองเข้ม ไปจนน้ำตาล (ถ้าใส่มอลต์ดำก็จะกลายเป็นเบียร์ดำ(stout)ไปเลย) เนื้อเบียร์จะมีบอดี้มากขึ้น กลืนแล้วรู้สึกเป็นคำเป็นลูกในคอ มีรสชาดของคาราเมลจากมอลต์ เวลาดื่มจะรู้สึกอิ่ม ดื่มมากมากจะแน่นยิ่งไปเจอที่ใส่วีทมอลต์นี่กินแทนข้าวได้เลย 5555 กินกับอาหารทั่วไปได้ แต่ไม่เหมาะกับอาหารรสจัด เพราะมันจะจุกคร้าบ
เอลเบียร์เป็นเบียร์ที่นิยมมากในโลก(แต่ไม่ใช่ในไทย เหอๆๆ) เพราะแตกย่อยไปอีกมากมาย ที่นิยมมากๆ คือ เบียร์ไอพีเอ(IPA) ที่เริ่มเข้ามาให้คนไทยรู้จักกันละ เดียวค่อยๆมาทำความรู้จักกับแต่ละประเภทของเอลเบียร์กันนะครับ
ภาพจาก beer hwak
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไทยเราถึงมีแต่ลาเกอร์เบียร์ เพราะเริ่มแรกที่คนผลิตคิดกัน คือ มันดื่มง่าย เหมาะกับอากาศร้อน อาหารบ้านเรา ทำให้คนไทยคุ้นชินกับเบียร์ลาเกอร์มากมากว่า 80 ปี จนเหมือนเราไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากเบียร์ประเภทนี้ ก็น่าเศร้าเหมือนกัน
อย่างว่าละครับจะหาเบียร์อะไรที่ดื่มได้คนนึงเป็นลัง กินทั้งวันทั้งคืน ใส่น้ำแข็ง ทำเบียร์วุ้นดื่มได้ ก็ยากนะ 55555 มันก็กลับไปที่ผลประโยชน์กำไรของบริษัท นั่นแหละถ้าผลิตเบียร์มามีคุณภาพ ต้นทุนสูง อร่อยกว่า มีรสชาดกว่า แต่คนกินได้ 3 ขวด พอละเมา อิ่ม แน่น เฮ้อ.....พูดไปคนไทยก็น่าสงสาร
1
เริ่มออกทะเลละ ขอจบบทความนี้เพียงเท่านี้นะครับ
ศึกษากันต่อไป
เพราะความรู้ในโลกไม่มีที่สิ้นสุด
ปล.สงสัยอะไรสอบถามกันได้นะครัช
โฆษณา