25 เม.ย. 2020 เวลา 07:35 • ข่าว
FOCUS : ประเด็นน่าสนใจวันนี้
1. FED อาจคงดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0% ไปจนถึงปี 2023
สำนักข่าว Bloomberg เปิดเผยผลสำรวจคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งระบุว่า FED อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ ๆ 0 ไปอีกประมาณ 3 ปีหรือมากกว่านั้น และ Balance Sheet จะเพิ่มขึ้นสูงกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์
ตั้งแต่วันที่ 20-23 เม.ย. 2020 มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 31 คน และกว่า 50% ระบุว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% อย่างน้อยจนถึงในปี 2023 และมีอีก 22% ที่ระบุว่า FED จะคงไว้อย่างน้อยจนถึงปี 2022
งบดุลของ FED ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 6.57 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 1.64 ล้านล้านดอลลาร์ โดยการซื้อพันธบัตรและหลักทรัพย์อสังหาฯ (MBS) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2020
แน่นอนว่า FED กำลังเตรียมประกาศตัวเลขการปล่อยกู้เพิ่มเติมสำหรับสินเชื่อภาคเอกชน และท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้สามารถกู้ยืมเงินได้อีกหลานล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว โดยเป้าหมายครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวก็คือ
"ช่วยพยุงภาคเศรษฐกิจ ทั้งในทางตรง และทางอ้อม"
ในวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา FOMC กล่าวว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำจนกว่าเศรษฐกิจจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไป และจะรักษาอัตราการจ้างงาน รวมถึงราคาให้มีเสถียรภาพที่สุด
หลังจากนั้น ในวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา FOMC ได้ประกาศอีกครั้งว่าจะทำการเข้าซื้อพันธบัตรและ MBS ในปริมาณเท่าที่จำเป็นสำหรับจะช่วยพยุงตลาดให้เดินหน้าต่อไปได้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Unlimited Q.E. นั่นเอง
ส่วนประเด็นเรื่องการควบคุมผลตอบแทน (Yield-Curve Control) ในสินทรัพย์ต่าง ๆ นั้น นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า FED จะไม่ซื้อสินทรัพย์ตัวใดมากขึ้นเป็นพิเศษเพื่อที่จะเพิ่มผลตอบแทนให้แก่สินทรัพย์นั้น พูดง่าย ๆ ก็คือจะซื้อแค่ให้เพียงพอกับที่ตลาดจะไม่ล้มละลายนั่นเอง
โดยผลสำรวจกว่า 90% ระบุว่า FED ได้ทำในสิ่งที่สมควรทำแล้ว และมีอีก 24% ที่กล่าวว่า FED ควรเพิ่มการซื้อสินทรัพย์ให้มากขึ้นไปอีก ซึ่งรวมถึงการซื้อ Junk Bonds ทั้งหลาย เพราะมันจะช่วยประกันความเสี่ยงให้กับนักลงทุนในอนาคต
Comment : จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ประกันความเสี่ยงนะครับ อย่าลืมว่ายิ่งอุ้มไว้มากเท่าไหร่ เวลาเอาออกไปมันจะมากกว่านั้นเสมอครับ ในตลาดหุ้นมันต้องมีคนขาดทุนเสมอ มองเกมตรงนี้ให้ออกครับ
2. การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เป็น 3.7 ล้านล้านดอลลาร์
การปิดตัวลงของภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั่วประเทศ และการใช้จ่ายของรัฐบาล จะทำให้การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่า สู่ระดับ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์
สำนักงบประมาณสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า GDP ของสหรัฐฯ จะลดลงเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในไตรมาสที่ 2 และจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ส่วนอัตราการว่างงานจะสูงสุดที่ระดับประมาณ 16% และจะเป็นตัวเลข 2 หลักไปจนถึงสิ้นปี 2021
"หากกฎหมายเกี่ยวกับการใช้จ่ายและรายได้ยังคงเดิม และไม่มีการจัดหาเงินทุนฉุกเฉินเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021"
นอกจากนี้ CBO ยังได้คาดการณ์ว่า Real GDP ของสหรัฐฯ จะติดลบ 5.6% ในปีนี้ และจะกลับไปขยายตัวที่ 2.8% ในปี 2021 และอาจมีการปรับคาดการณ์ขาดดุลเพิ่มเติมเป็นมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลครั้งล่าสุด
หนี้รัฐบาลกลาง (หรือหนี้สาธารณะ) ในปัจจุบันสูงเกือบ 110% ของ GDP และคาดกว่าจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยจำนวนหนี้สาธารณะทั้งหมดในปัจจุบันอยู่ที่ 23.2 ล้านล้านดอลลาร์
1
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา