27 เม.ย. 2020 เวลา 02:30 • ประวัติศาสตร์
ตำนานประหลาดเด็กตัวเขียวแห่งเมืองเบอร์รี่เซ็นต์เอ็ดมันส์
นับตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมาอาจกล่าวได้ว่ามันมีตำนานหลายเรื่องเลยละครับที่ยังคงได้รับการกล่าวขานสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน (จนกลายเป็นนิทานไปเลยก็มี) ยกตัวอย่างเช่น 'ตำนานประหลาดเด็กตัวเขียวแห่งเมืองเบอร์รี่เซ็นต์เอ็ดมันส์' ที่ค่อนข้างจะน่าแปลกและชวนให้ฉงนมิใช่น้อย
เด็กประหลาดในหลุมหมาป่า
เรื่องเล่าของเราเริ่มต้นขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ณ บริเวณเมืองเบอร์รี่เซ็นต์เอ็ดมันส์ โดยในวันนั้นว่ากันว่าชาวบ้านซึ่งกำลังเก็บเกี่ยวพืชผลกันที่หมู่บ้านอยู่นั้น จู่ๆ พวกเขาก็ได้พบกับเรื่องราวอันแสนจะน่าประหลาดใจ เมื่อหนึ่งในชาวบ้านวิ่งมาแจ้งข่าวว่าเขาพบกับเด็กสองคนโผล่ออกมาจากหลุมซึ่งชาวบ้านช่วยกันขุดเอาไว้เพื่อดักหมาป่า (ต่อมาสถานที่ดังกล่าวได้กลายมาเป็นสถานที่ชื่อเรียกของหมู่บ้านวูล์ฟพิต)
.
ชาวบ้านต่างก็เร่งรีบพากันเดินทางมายังบริเวณดังกล่าว โดยภาพที่พวกเขาเห็นนั้นก็คือเด็กชายหญิงคู่หนึ่งกำลังอยู่ในอาการหวาดกลัวแถมเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่อยู่ก็ดูไม่คุ้นตาเอาเสียมากๆ แถมนอกจากนี้ก็เห็นจะเป็นตรงผิวสีเขียวเด่นซึ่งชวนให้รู้สึกแปลกตามิใช่น้อย ด้วยเหตุนี้เองชาวบ้านจึงได้นำเอาเด็กทั้งสองคนนี้ไปพบกับท่านเจ้าของที่ดินผู้มีนามว่า เซอร์ ริชาร์ด เดอร์ คาล์น ณ เมืองไวค์ส
เมื่อไปถึงเด็กทั้งสองต่างก็อยู่ในอาการหวาดกลัวและปฏิเสธไม่ยอมกินอาหารที่ชาวบ้านนำเอามามอบให้ แต่น่าแปลกเด็กทั้งสองกลับยินยอมที่จะกินถั่วฝักยาวด้วยวิธีการอันสุดแสนจะแปลกประหลาด (ว่ากันว่าเด็กทั้งสองกินเข้าไปทั้งฝักเลย)
.
เหตุการณ์ผ่านไปได้ซักระยะหนึึ่งเด็กทั้งสองเริ่มที่จะคุ้นเคยกับอาหารซึ่งมีผู้นำมามอบให้และเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านมากยิ่งขึ้น
เรื่องเล่าจากในอดีต
อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะตัวเด็กชายนั้นดันจากไปก่อนที่ชาวบ้านจะได้ถามอะไรเขาเพิ่มเติม คงเหลือแต่เด็กหญิงเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่โดยเธอได้รับการฝึกสอนให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ก่อนเข้ารีตเป็นคริสต์ศาสนิกชน
.
โดยเธอได้เล่าถึงเรื่องราวในอดีตว่า ตัวเธอนั้นมาจากเมืองที่ไม่มีแสงและมีแม่น้ำสายใหญ่กั้นอยู่ โดยในวันก่อนที่จะเจอกับชาวบ้าน เธอและพี่ชายได้ออกมาเลี้ยงสัตว์ตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อและแม่ และในช่วงระหว่างที่เธอกำลังดูแลฝูงสัตว์อยู่นั้นพลันเด็กหญิงก็ได้ยินเสียงของระฆังดังกังวานขึ้นจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
.
ด้วยเหตุนี้เองเธอและพี่ชายจึงตัดสินใจเดินตามเสียงระฆังเข้าไปในถ้ำ โดยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในถ้ำนั้นเธอและพี่ชายได้เดินผ่านความมืดไปเรื่อยๆ จนมาโผล่ ณ บริเวณที่เธอได้เจอกับกลุ่มของชาวบ้าน อย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวนั้นยังคงเป็นเรื่องคลุมเครืออยู่ เช่น เมืองที่ไม่มีแสงนั้นคือที่แห่งใด เป็นต้น
ทฤษฎีสมคบคิดที่น่าสนใจ
มีการตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ของเด็กผิวเขียวแห่งเมืองเบอร์รี่เซ็นเอ็ดมันส์กันอยู่หลายทฤษฎีเลยละครับ ไม่ว่าจะเป็นเด็กทั้งสองคนเป็นมนุษย์ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณเมืองใต้ดิน หรือ แม้กระทั่งเด็กทั้งสองนั้นอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้
.
แต่ทฤษฎีที่เห็นจะได้รับการยอมรับกันมากที่สุดก็คือทฤษฎีของ พอล แฮริส ซึ่งกล่าวว่าแท้จริงแล้วเด็กทั้งสองนั้นคือชาวเฟลมิชที่เข้ามาเป็นทหารรับจ้างในช่วงยุคสมัยของกษัตริย์ สตีเฟ่น โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นได้มีการขับไล่ชาวเฟลมิชออกจากประเทศอังกฤษเป็นจำนวนมาก ส่วนดินแดนที่เด็กทั้งสองคนจากมาก็คือเมืองที่มีชื่อว่าเซนต์มาร์ตินและแม่น้ำใหญ่ที่เด็กทั้งสองคนกล่าวอ้างถึงนั้นก็คือแม่น้ำลาร์ค ซึ่งเมืองเซนต์มาร์ตินนั้นเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับวูล์ฟพิต
.
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เด็กทั้งสองมีผิวสีเขียวก็คือผลมาจากอาการขาดเม็ดเลือดแดงนั้นเอง แต่ทฤษฎีดังกล่าวนั้นก็ยังมีผู้ที่เห็นแย้งอยู่อีกหลายคนตรงที่ว่าถ้าหากเด็กทั้งสองคนเป็นชาวเฟลมิชจริงก็น่าจะมีคนที่รู้จักภาษานั้นอยู่บ้างเป็นต้น เพราะในช่วงนั้นมีชาวเฟลมิชหลายคนที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ
.
เรื่องของเด็กผิวเขียวแห่งเมืองเบอร์รี่เซ็นต์เอ็ดมันส์นั้นยังคงเป็นตำนานที่ดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพิสูจน์ความจริง ณ สถานที่แห่งนี้อีกเป็นจำนวนมากและเป็นอีกหนึ่งปริศนาแห่งศตวรรษที่ 12 ที่จะยังคงเป็นเรื่องเล่าไปอีกนานจนกว่าจะมีผู้ที่เข้ามาพิสูจน์ความจริงในเรื่องดังกล่าว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา