✨ วิธีการเล่นหุ้นวัฏจักร : Commodity (สินค้าโภคภัณฑ์)
สินค้าโภคภัณฑ์หมายถึง สินค้าที่ตัวสินค้ามีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ผลิตก็ตาม เช่น เมื่อพูดถึง “ข้าวหอมมะลิ” ผู้ที่บริโภคข้าวทั่วโลกจะเข้าใจทันทีว่าหมายถึงอะไร มีลักษณะอย่างไร พูดถึงน้ำมัน ก็หมายถึงน้ำมันดิบตามตลาดตลาดต่างๆเป็นต้น โดยปัจจัยที่กำหนดราคาของสินค้าโภคภัณฑ์จะเป็น อุปสงค์-อุปทาน ความต้องการใช้และความต้องการที่จะขาย โดยยกตัวอย่างเช่น น้ำมันดิบเราจะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นน้ำมันดิบในโลกมีการสวิงตัวขึ้นลงเป็นอย่างมาก เป็นเพราะมีการผลิตที่ออกมาเยอะ(อุปทานสูง) ทำให้ราคาของน้ำมันดิบได้ดิ่งลงมาจากระดับกว่า 100 เหรียญ/บาเรล มาสูงระดับ 40เหรียญ/บาเรล เป็นต้น
สินค้าโภคภัณฑ์ มีอะไรบ้าง
✨ สินค้าโภคภัณฑ์โดยทั่วไปแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. สินค้าด้านพลังงาน (Energy) ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น 2. โลหะอุตสาหกรรม (Industrial Metals) ได้แก่ อลูมิเนียม ทองแดง ตะกั่ว เป็นต้น 3. โลหะมีค่า (Precious Metals) ได้แก่ ทองคำ และ เงิน 4. สินค้าเกษตร (Agricultural) ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง กาแฟ น้ำตาล เป็นต้น 2. สินค้าปศุสัตว์ (Livestock) ได้แก่ Feeder Cattle, Live Cattle, Lean Hogs เป็นต้น
ในตลาดบ้านเรามีหุ้นหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์โดยจะแบ่งเป็นหุ้นกลุ่มต่างๆดังต่อไปนี้
หุ้นกลุ่มขุดเจาะและจำหน่ายน้ำมัน ประกอบไปด้วยหุ้น PTT, PTTEP ตัวแปรสำคัญคือ ราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันลดลงจะส่งผลลบโดยตรง โดยอาจทำให้เกิดผลขาดทุนจาก Stock Loss (ราคาสินค้าที่สต๊อกเก็บไว้ต่ำกว่าราคาในตลาด)
✨ หุ้นกลุ่มโรงกลั่น ประกอบไปด้วย TOP, BCP ตัวแปรก็คือราคาน้ำมันเช่นกัน แต่หากราคาน้ำมันไม่สูงมากจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มนี้เนื่องจากจะได้ค่าการกลั่นที่ดีขึ้น กำไรจะสูงขึ้น
✨ หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ประกอบไปด้วย PTTGC, IRPC, IVL ตัวแปรคือ ราคาน้ำมันเช่นกัน ถ้าหากราคาน้ำมันลดลง ต้นทุนการผลิตปิโตรเคมีจะลดลง ทำให้ผู้ประกอบการมีอัตรากำไรดีขึ้น
✨ หุ้นกลุ่มเหล็กและโลหะ เช่น SSI, TSTH,CEN ต้องจับตาราคาเหล็กในตลาดโลก รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ หากมีการเติบโตดีก็จะมีความต้องการเหล็กที่มากขึ้น จะส่งผลให้ราคาเหล็กปรับตัวดีขึ้น
หุ้นกลุ่มเดินเรือ เช่น TTA, PSL มีดัชนีชี้วัดคือ ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) หากปรับตัวสูงขึ้นก็จะทำให้อัตรากำไรของผู้ประกอบการเดินเรือสูงขึ้น ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงก็คือ เศรษฐกิจโลกหากมีการเติบโตก็จะมีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมากขึ้น ดัชนีค่าระวางเรือก็จะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
✨ หุ้นกลุ่มยางพารา เช่น TRUBB, STA ถือเป็นหุ้นกลุ่ม Soft Commodity หรือสินค้าเกษตร การเปลี่ยนแปลงของราคาขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจรวมไปถึงสภาวะอากาศ เนื่องจากมีผลต่อการเพาะปลูก
✨ หุ้นกลุ่มปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง เช่น TVO, UPOIC, CPI, LST, UVAN ถือเป็นหุ้นกลุ่มสินค้าเกษตรด้วยเช่นกัน
✨ สิ่งสำคัญในการลงทุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์คือ ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด รู้ว่าดัชนีชี้วัดของหุ้นแต่ละกลุ่มคืออะไร และต้องลงทุนในช่วงที่เป็นขาขึ้นในลักษณะของการเก็งกำไรเท่านั้น โดยเราสามารถดูราคาและแนวโน้มของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆได้ที่ http://www.cnbc.com/commodities/ เพื่อติดตามแนมโน้มเพื่อตัดสินใจในการลงทุนได้