25 เม.ย. 2020 เวลา 16:11 • กีฬา
6 นักเตะราชันชุดขาวที่อาจจะโดนเขี่ยทิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่า เรอัล มาดริด จะทำการปฎิวัติทีมครั้งใหญ่ด้วยการโละนักเตะส่วนเกินออกจากทีมเพื่อระดมทุนในการเสริมทัพครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ว่าแล้ววันนี้ เราเลยมาทำการวิเคราะห์ว่ามีแข้งคนไหนบ้างที่ เรอัล มาดริด พร้อมจะเขี่ยทิ้งออกจากทีม และสถานีต่อไปของพวกเขาเหล่านั้นมีความเป็นไปได้สำหรับที่ไหนบ้าง
มาเรียโน่ ดิอ๊าซ
หัวหอกวัย 26 ปี เติบโตขึ้นมาจากทีมอคาเดมี่ของ เรอัล มาดริด ก่อนที่จะย้ายไปพัฒนาฝีเท้ากับ โอลิมปิก ลียง เมื่อช่วงซัมเมอร์ ฤดูกาล 2017-18 ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร ซึ่งที่นี่เองเจ้าตัวจะรังสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมซัดไปถึง 21 ประตู จากการลงสนาม 45 นัด ซึ่งด้วยฟอร์มที่เข้าขั้นโคตรโหดทำให้บอร์ดบริหาร ราชันชุดขาว ยอมควักเงิน 21.5 ล้านยูโร ในการดึงตัวกลับมาเป็นอะไหล่ของ คาริม เบนเซม่า
 
แต่ว่าด้วยอาการบาดเจ็บ บวกกับโอกาสในการลงสนามที่จำกัดทำให้เจ้าตัวไม่อาจโชว์ผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ โดย 2 ฤดูกาลมานี้ มาเรียโน่ ลงสนามให้ทีมไปเพียง 26 นัดเท่านั้น พ่วงกับยิงประตูเพียงหยิบมือ 5 ลูก ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ไม่แปลกที่ทีมต้องการที่ปล่อยออกจากทีม เพราะขืนอยู่ต่อไปก็ดูเหมือนจะเปลืองตังสโมสรไปเปล่าๆ ฉะนั้นทางออกที่ดีคือการปล่อยตัวออกทีม เพราะมันคงจะ วิน-วิน ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
 
สถานีต่อไปที่คาด : ด้วยผลงานในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาสิ่งสำคัญที่ มาเรียโน่ ต้องเรียกกลับมาให้เร็วที่สุดนั้นก็คือความมั่นใจ เพราะฉะนั้นแล้วการกลับไปยังลีก เอิง ฝรั่งเศส สถานที่แจ้งเกิดของเขาดูเหมือนที่เป็นเรื่องที่น่าสนใจพอควร หรือการหาทีมระดับกลางๆ ได้รับโอกาสลงสนามแบบต่อเนื่อง ก็น่าจะพอเรียกบรรยากาศเก่าๆ ของเจ้าตัวให้กลับมาระเบิดฟอร์มอีกครั้ง
ฮาเมส โรดริเกซ
แข้งชาวโคลอมเบียถูกปักป้ายว่ามีสถานะในรัง ราชันชุดขาว เป็นเพียงส่วนเกินของทีมเท่านั้น ทำให้โอกาสในการลงสนามของเจ้าตัวนั้นมีเพียงหยิบมือไม่ค่อยถูกกุนซืออย่าง ซีเนดีน ซีดาน เรียกใช้บริการมากเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งเพราะเป็นสไตส์การเล่นที่ไม่เหมาะกับแท็คติกของผู้เป็นโค้ชนั้น
 
โดยในซีซั่นนี้นอกจากโอกาสจะถูกจำกัดแล้ว ฮาเมส ยังมีอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ลงสนามไปเพียง 13 นัดในทุกรายการ และเมื่อมาบวกกับสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ 2021 นี้ ทำให้ทางต้นสังกัดต้องหาวิธีปล่อยดาวเตะคนนี้ออกจากทีมให้ได้ เพราะไม่งั้นอาจจะเสียออกไปแบบฟรีๆ
 
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นมันอาจเป็นผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย ตัวนักเตะได้ออกไปหาความท้าทายใหม่ และได้ลงสนามลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เป็นเพียงอะไหล่เบอร์สุดท้ายที่ถูกเลือกใช้ ส่วนฝั่งสโมสรก็ได้เบาภาระเรื่องค่าเหนื่อย บวกได้เงินมาเสริมทุนในการเลือกซื้อนักเตะคนต่อไป
 
สถานีต่อไปที่คาด : ในช่วงที่ผ่านมาชื่อของ ฮาเมส ดูจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับหลายทีมในยุโรป โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีแคนดิเดตให้เลือกมากพอควรไม่ว่าจะเป็น เอฟเวอร์ตัน ที่มี คาร์โล อันเชล็อตติ เจ้านายเก่ากุมบังเหียนอยู่ หรือ วูล์ฟแธมป์ตัน ที่เข้ามามีเอี่ยวสนใจด้วย และอีกหนึ่งตัวเลือกนั้นก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดูท่าทีว่าสนใจในตัวดาวเตะชาวโคลอมเบียนี้อยู่เหมือนกัน หรือล่าสุดที่มีข่าวออกมานั้นคือ อินเตอร์ ไมอามี่ ของ เดวิด เบ็คแฮม ที่สนใจสตาร์ผู้นี้เข้าไปเป็นสมาชิกของทีม
แกเร็ธ เบล
ถ้าถามว่าในรอบ 2-3 ปีหลังสุดนักเตะคนไหนของ เรอัล มาดริด ที่มีข่าวจะย้ายออกจากทีมหนาหูที่สุดนั้นก็คงต้องยกให้ แกเร็ธ เบล นี่แหละ แต่ทว่าสุดท้ายเจ้าตัวก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ได้ย้ายหนีไปไหน จนกระทั่งตลาดนักเตะซัมเมอร์ 2020 ที่กำลังคืบคลานเข้ามา และแน่นอนชื่อของ เบล ได้รับการคาดหมายอีกครั้งว่าจะเก็บกระเป๋าออกจากถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
 
ซึ่งดูเหมือนครั้งนี้กระแสจะพุ่งแรงมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะด้วยหลายๆ เหตุผล อย่างเช่นการที่ตัวนักเตะดูเหมือนจะไม่ทุ่มเทให้กับสโมสรมากเท่าที่ควร แต่กลับสนใจสิ่งนอกสนามมากกว่าอย่างเช่นการตีกอล์ฟ หรือแสดงความไม่เป็นอาชีพออกมาด้วยการหนีกลับบ้านก่อนในศึกโกปา เดล เรย์ ที่ เรอัล มาดริด พ่าย เรอัล โซเชียดัด 3-4 หรืออาการบาดเจ็บที่ เบล พบหน้าตาของคุณหมอ มากกว่าเพื่อนร่วมทีมเสียอีก
 
และที่สำคัญเลยก็คือการที่ เบล ไม่ค่อยลงรอยกับตัวกุนซือมากนัก ถึงขนาดที่ ซีดาน เคยหลุดปากให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2019-20 นี้ว่า เบล ไม่ได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องเพราะเขากำลังจะย้ายทีม และเราก็หวังให้มันเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และมันก็คงดีสำหรับทุกๆ ฝ่าย แน่นอนคำพูดดังกล่าวมันแสดงให้เห็นถึงแก้วที่มันร้าวระหว่างทั้งคู่อย่างชัดเจน
 
สถานีต่อไปที่คาด : ด้วยชื่อเสียง และความสามารถของ เบล แน่นอนว่ายังคงสร้างมูลค่าในตลาดนักเตะได้อย่างแน่นอน ซึ่งสถานีต่อไปของเขาก็น่าจะยังคงเป็นสโมสรชั้นนำของยุโรป ยกตัวอย่างเช่นการกลับไปที่ สเปอร์ส ถิ่นแจ้งเกิดของเขา หรือทีมที่มีข่าวมาตลอดอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังตามหานักเตะในตำแหน่งของ เบล อยู่แบบพอดิบพอดี รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสอย่าง เปแอสเช ก็ดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนไม่น้อย แต่ในวงเล็บที่ว่าอาจเป็นเพียงอะไหล่ข้างสนามเพราะที่นั้นแข้งแผนกเกมรุกนั้นดุดันเหลือเกิน
ลูก้า โมดริช
ดูเหมือนผลงานของเจ้าของรางวัลบัลง ดอร์ เมื่อปี 2018 จะดร็อปลงไปนับตั้งแต่ที่ขึ้นไปรับรางวัลดังกล่าว ทำให้สถานะของเขาในทีม เรอัล มาดริด ในตอนนี้กลายเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ บวกกับอายุที่เข้าสู่วัย 34 ปี และทีมก็ได้ตัวแทนของเขามาแล้วเป็นที่เรียบร้อยนั้นก็คือ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และเมื่อมาบวกกับสัญญาที่กำลังจะหดลงในช่วงปี 2021 ทำให้ทีมไม่ขัดขว้างที่จะปล่อยมิดฟิลด์ชาวโครเอเชียนี้ออกจากทีมไปตั้งแต่ในช่วงซัมเมอร์นี้
 
โดยในฤดูกาลนี้ โมดริช ได้โอกาสลงสนามในทุกรายการไปแล้วทั้งสิ้น 30 นัด แบ่งเป็นตัวจริง 19 นัด ซัดไป 5 ประตู ซึ่งด้วยฝีเท้าเจ้าตัวยังคงไว้ลายเช่นเดิม แต่การที่ต้องตกเป็นตัวสำรองนั้น คงไม่ใช่สิ่งที่ โมดริช นั้นปราถนามากเท่าไหร่นัก
 
สถานีต่อไปที่คาด : ถึงแม้จะเข้าสู่วัย 34 ปี แล้ว แต่ผลงาน ประสบการณ์ และฝีเท้า ยังคงโลดแล่นอยู่ในลีกใหญ่ของยุโรปได้อย่างแน่นอน ด้วยชื่อระดับ โมดริช เมื่อมีข่าวจะย้ายทีมแน่นอนว่ามีทีมเข้ามาขายจีบไม่ขาดสายอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาที่ดูเป็นข่าวหนักสุดคงหนีไม่พ้น อินเตอร์ มิลาน ที่ต้องการคว้ามิดฟิลด์ผู้นี้ไปบัญชาเกมในแดนกลาง รวมไปถึงคู่แข่งร่วมลีกอย่าง ยูเวนตุส ที่แอบเหล่ๆ อยู่เหมือนกัน
ลูก้า โยวิช
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วชื่อของ
ลูก้า โยวิช ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก จากผลงานที่พุ่งพรวดขึ้นมาซัดประตูให้กับ แฟร้งเฟิร์ต ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมพาทีมกรุยทางเข้าถึงสู่รอบรองชนะเลิศศึกยูโรปาลีก จบฤดูกาล 2018-19 หัวหอกวัย 22 ปี ซัดไปมากถึง 27 ประตู จาก 48 นัดในทุกรายการ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นมีหรือ เรอัล มาดริด จะพลาดในการลงทุนเพื่อคว้าแข้งอนาคตไกลเข้ามาสู่ทีม เงินจำนวน 60 ล้านยูโร ถูกควักออกมาพร้อมความหวังในการตอบแทนเป็นประตูในสนาม
 
ถ้าว่าดูเหมือนสิ่งที่คิด กับความเป็นมันต่างกันแววล้มเหลวของ โยวิช ฉายออกมาตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่น จนมีข่าวออกมาว่าทีมจะปล่อยยืมออกไปก่อน แต่สุดท้ายทีมก็เก็บ โยวิช ไว้กับทีมต่อไป รวมแล้วเมื่อถึงตรงเจ้าตัวเพิ่งผลิตสกอร์ช่วยทีมไปเพียง 2 ประตู จากโอกาสลงสนามทุกรายการ 24 นัด เรียกได้ว่าล้มเหลวแบบไม่เป็นท่าเลยทีเดียว
 
สถานีต่อไปที่คาด : สโมสรถัดไปของ โยวิช แน่นอนว่าต้องการันตีตำแหน่ง 11 ตัวจริงให้กับตัวเขาให้ได้ ซึ่งอย่างน้อยก็เพื่อที่จะดึงความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง เพราะฉะนั้นการกลับไปยังเยอรมันอีกครั้งคงเป็นตัวเลือกที่ดูจะเข้าท่ากับเจ้าตัวมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาเคยระเบิดฟอร์มกับลีกแห่งนี้มาแล้ว คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าจะเป็นทีมไหนที่กล้าเสี่ยงเอาหัวหอกคนนี้ไปร่วมทีม
บราฮิม ดิอ๊าซ
อีกหนึ่งดีลแห่งความผิดพลาดของ เรอัล มาดริด อย่างแท้จริง โดยย้อนกลับไปเมื่อช่วงตชาดนักเตะเดือนมกราคม 2018 ราชันชุดขาว ยอมควักเงินจำนวน 17 ล้านยูโร ให้กับ แมนฯ ซิตี้ เพื่อคว้าตัวแข้งแห่งอนาคตวัย 19 ปี อย่าง บราฮิม ดิอ๊าซ เข้ามาร่วมทีม แน่นอนว่าการมาในครั้งนั้นคือการลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ อย่างน้อยๆ ก็เสริมสร้างเริ่มจากการเป็นตัวสำรอง
 
แต่ทว่าดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นจะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับ บราฮิม สักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ชื่อของเขาจะหลุดออกจากทีมแทบจะทุกสัปดาห์ ยกตัวอย่างเช่นในลาลีกา สปเน ฤดูกาลนี้ เจ้าตัวมีชื่อติดทีมเพียง 5 นัดเท่านั้น และได้โอกาสลงสนามเป็นตัวสำรอง 3 นัด รวมเป็น 23 นาที
 
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะวัยแบบเขาก็จะหยุดลง บวกกับทีมต้องการผองถ่ายแข้งส่วนเกิน บราฮิม จึงเป็นหนึ่งในตัวแคนดิเดตในการที่สโมสรต้องปล่อยออกไป แบบไม่ลังเลใจเลยทีเดียว
 
สถานีต่อไปที่คาด : ด้วยอายุที่เพียง 20 ปี เส้นทางในวงการลูกหนังยังคงอีกยาวไกล ซึ่งด้วยความที่เป็นแข้งชาวสเปน การได้ที่คงได้ค้าแข้งอยู่ในประเทศบ้านเกิดคงเป็นตัวเลือกที่สวยงามไม่น้อย ถ้าเกิดทีมในระดับกลางๆ มารับไปดูแลต่อ หรือจะโยกกลับสู้อีกครั้งที่อังกฤษก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน
โฆษณา