Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A lalala long
•
ติดตาม
26 เม.ย. 2020 เวลา 02:00 • กีฬา
10 แข้งดีฟรีเอเยนต์ ที่ผลงานโคตรคุ้มค่า
ว่าแล้ว เราเลยจะพาย้อนกลับไปดูกันว่าที่ผ่านมามีดีลฟรีเอเยนต์ครั้งไหนที่โคตรคุ้มกันบ้าง
สตีฟ แม็คมานามาน หมดสัญญาจาก : ลิเวอร์พูล ย้ายไปอยู่กับ : เรอัล มาดริด
ภาพจำของแฟนบอลส่วนตัวคือการที่
แม็คมานามาน ลงเล่นภายใต้เครื่องแบบ
ตรา หงส์แดง เพราะเจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับทีมนานถึง 9 ปี ก่อนที่จะหมดสัญญา และโยกย้ายไปค้าแข้งในศึกลาลีกา สเปน กับ เรอัล มาดริด ซึ่งการไปวาดลวดลายที่แดนกระทิงดุครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของเจ้าตัวไม่ใช่น้อย
เพราะตลอด 4 ปี ที่ มาดริด เขาสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ได้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ลาลีกา สเปน 2 สมัย สแปนิช คัพ 2 สมัย และยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ อีก 1 สมัย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะสัญชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จที่สเปนสูงสุดคนหนึ่งเลยทีเดียว ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกันเมื่อปี 2003 ทิ้งสถิติลงสนามให้ ราชันชุดขาว ไว้ที่ 158 นัด ซัด 65 ประตู
เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ หมดสัญญาจาก : เรอัล มาดริด / อินเตอร์ มิลาน ย้ายไปอยู่กับ : อินเตอร์ มิลาน / เลสเตอร์ ซิตี้
กัมบิอัสโซ่ ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะฟรีเอเยนต์ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากซึ่งมันเกิดขึ้นกับเขาถึง 2 ช่วงเวลา ครั้งแรกคือเมื่อปี 2004 ที่เจ้าตัวหมดสัญญากับ เรอัล มาดริด และเลือกข้ามฝากไปค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน พร้อมกวาดแชมป์ทุกรายการกับสโมสรรวมแล้วมากถึง 14 โทรฟี่ จนกระทั่งปี 2014 ที่เจ้าตัวหมดสัญญากับทางฝั่ง งูใหญ่ ก็เลือกที่จะมาหาความท้าทายที่อังกฤษกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถือว่าเซอร์ไพรส์มากพอสมควร
ถึงแม้จะค้าแข้งกับ เลสเตอร์ เพียงฤดูกาลเดียว แต่ก็พาทีมรอดตกชั้นได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับนำทั้งเรื่องของประสบการณ์ และคำสอนที่คอยตักเตือนรุ้นน้อง มาวางรากฐานความแข็งแกร่งให้ทีมต่อยอดความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกฤดูกาลถัดมา
โซล แคมป์เบลล์ หมดสัญญาจาก : ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ย้ายไปอยู่กับ : อาร์เซน่อล
นี่คือหนึ่งในดีลที่สะท้านวงการแบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เพราะการที่ แคมป์เบลล์ เลือกที่จะย้ายข้ามฝากจาก สเปอร์ส ไปร่วมทัพอริคู่แค้นตลอดกาลอย่าง อาร์เซน่อล และมากไปกว่านั้นคือการย้ายไปร่วมทัพแบบฟรีๆ ยุติความสัมพันธ์ 12 ปี กับทัพ
ไก่เดือยทอง ไปแบบเจ็บแสบ
โดยตลอดการค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล อดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้ถึง 2 สมัย พ่วงด้วยแชมป์เอฟเอ คัพ อีก 3 ครั้ง ซึ่งด้วยความสำเร็จที่กล่าวไปไม่แปลกที่ แคมป์เบลล์ จะถูกจดจำในฐานะปราการหลังตำนานของ ไอ้ปืนใหญ่
อันเดรีย ปีร์โล่ หมดสัญญาจาก : เอซี มิลาน ย้ายไปอยู่กับ : ยูเวนตุส
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ ปีร์โล่ บัญชาเกมแดนกลางให้กับทัพ ปีศาจแดง-ดำ เจ้าตัวถือว่าพาทีมประสบความสำร็จอย่างมากมาย แต่ทว่าเมื่อเจ้าตัวอายุครบ 32 ปี สัญญาฉบับสุดท้ายก็ได้หมดลง ตัวนักเตะต้องการสัญญาระยะ 3 ปี แต่ทาง เอซี มิลาน
มองว่าด้วยอายุที่มากขึ้นต้องการต่อ
ให้แบบปีต่อปีเท่านั้น ซึ่งนั้นจึงทำให้
ปีร์โล่ กลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์
และเป็น ยูเวนตุส สอยไปร่วมทัพ
โดยตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี กับทัพ ม้าลาย ปีร์โล่ แสดงให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข เพราะผลงานในสนามนั้นยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเช่นเดิม พร้อมกับกวาดแชมปืเซเรีย อา กับทีมไปได้มากถึง 4 สมัย และโคปปา อิตาเลียอีก 3 ครั้ง รวมแล้ว ปีร์โล่ ลงสนามให้ทีมไปทั้งสิ้น 164 นัด ซัดไป 19 ประตู กับอีก 38 แอสซิสต์ ก่อนที่จะแยกทางกันเมื่อช่วงปี 2015
เจมส์ มิลเนอร์ หมดสัญญาจาก : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้ายไปอยู่กับ : ลิเวอร์พูล
หนึ่งในดีลที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะ มิลเนอร์ ได้ย้ายร่วมมาร่วมทัพพวกเขาแบบฟรีๆ เมื่อปี 2015 ก่อนที่จะกลายเป็นแข้งสารพัดประโยชน์ของทีมไม่ว่าจะเป็น มิดฟิลด์, แบ้กซ้าย, แบ็กขวา เจ้าตัวรับบทบาทหน้าที่มาหมดแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นแข้งระดับซีเนียส์ที่เป็นค่อยถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับรุ่นน้องในทีม รวมไปถึงความเป็นผู้นำที่ มิลเนอร์ มักแสดงออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
รวมแล้วถึงตรงนี้ มิลเนอร์ ลงสนามให้ทัพ หงส์แดง ไปแล้วทั้งสิ้น 210 นัด ยิง 26 ประตู กับทำอีก 40 แอสซิสต์ กวาดแชมป์กับทีมาแล้ว 3 รายการทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, สโมสรโลก และยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังไล่ล่าอีกหนึ่งความสำเร็จนั้นก็คือแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
มิชาเอล บัลลัค หมดสัญญาจาก : บาเยิร์น มิวนิค ย้ายไปอยู่กับ : เชลซี
ภายหลังประสบความสำเร็จในประเทศบ้านเกิดอย่างเยอรมันมาแล้วอย่างมากมายมันก็ถึงเวลาแล้วที่ บัลลัค จะต้องออกมาหาปะสบการณ์ และไขว้คว้าความสำเร็จนอกแผ่นดินเกิด ซึ่งเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2006 เจ้าตัวถือว่าเป็นแข้งเนื้อหอมเป็นอย่างมาก มีหลายสโมสรยื่นความต้องการที่อยากได้ตัวเขาไปเสริมทัพแบบฟรีๆ ก่อนที่จะเป็น เชลซี ที่คว้าตัวมาบัญชาเกมแดนกลาง
โดยตลอด 4 ถิ่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริจด์ บัลลัค กวาดแชมป์เอฟเอ คัพ ไป 3 สมัย รวมด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1 สมัย รวมแล้วลงสนามให้ทีม 167 นัด ยิง 25 ประตู ก่อนที่จะย้ายกลับไปเล่นที่เยอรมัน ในปี 2011 กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ปอล ป็อกบา หมดสัญญาจาก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายไปอยู่กับ : ยูเวนตุส
ย้อนกลับไปสมัยเป็นเยาวชนของทัพ
ปีศาจแดง ป็อกบา ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อย่างแท้จริง แต่ด้วยการที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ ทำให้เมื่อสัญญาหมดลงเจ้าตัวเลือกที่จะไม่ขยายออกไป และย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส แบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ก่อนที่จะสถาปนาตัวเองกลายเป็นยอดมิดฟิลด์เบอร์ต้นๆ ของลีก พร้อมช่วยทีมกวาดแชมป์ไปมากถึง 8 โทรฟี่ ตลอด 4 ปี ที่อิตาลี
ก่อนที่ช่วงซัมเมอร์ปี 2016 เจ้าตัวจะย้ายกลับมาที่ ยูไนเต็ด อีกครั้งด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์ กลายเป็นสถิติโลก ณ ตอนนั้น แต่ทว่าดูเหมือน ป็อกบา ยังไม่อาจโชว์ผลงานได้คุ้มค่าเงินที่ลงทุนไปซะเท่าไหร่ ทำให้อนาคตของเขากับทัพ ปีศาจแดง ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะย้ายทีม หรืออยู่สู้ต่อไปในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ดานี่ อัลเวส หมดสัญญาจาก : ยูเวนตุส ย้ายไปอยู่กับ : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
หนึ่งในนักเตะฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวงการ โดยตลอดเส้นทางการค้าแข้งของ อัลเวส กลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์อยู่หลายครั้ง แต่ที่ดูได้ไปแล้วคุ้มค่ามากที่สุดคงหนีไม่พ้น เปแอสเช ที่คว้าตัวไปร่วมทัพเมื่อซัมเมอร์ปี 2017 ซึ่งการย้ายไปฝรั่งเศสครั้งนี้ของเจ้าตัวก็คว้าแชมป์มาประดับบารมีได้มากถึง 6 โทรฟี่ แบ่งเป็นลีก เอิง 2 สมัย เฟร้นช์ คัพ กับเฟร้นช์ ลีก คัพ อย่างละ 1 สมัย และโทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ อีก 2 สมัย
รวมแล้ว 2 ปี กับ เปแอสเช เจ้าตัวลงสนามรับใช้ทีมไปทั้งสิ้น 73 นัด ยิง 8 ประตู ก่อนที่จะหมดสัญญาไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2019 และย้ายกลับไปค้าแข้งในประเทศบ้านเกิดกับ เซา เปาโล
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หมดสัญญาจาก : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ย้ายไปอยู่กับ : บาเยิร์น มิวนิค
หนึ่งในหัวหอกที่ดีที่สุดคนหนึ่งแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน และยังคงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นในสีเสื้อของ ดอร์ทมุนด์ หรือกับบาเยิร์น มิวนิค ในตอนนี้ โดย เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาแจ้งเกิดกับ
เสือเหลือง เมื่อช่วงปี 2010 ก่อนที่ในอีก 4 ปีต่อมาสัญญากับทีมจะหมด ลง และเจ้าตัวเลือกเดินข้ามฝากไปค้าแข้งกับทัพ เสือใต้
รวมแล้วจนถึงตอนนี้ดาวยิงชาวโปแลนด์ซัดประตูให้ บาเยิร์น ไปแล้วทั้งสิ้น 230 ประตู จากการลงสนาม 275 นัด กวาดแชมป์บุนเดสลีกาไปแล้ว 4 สมัย พ่วงด้วยเดแอฟเบ โพคาล 2 สมัย นอกจากนั้นยังถือครองสถิติดาวซัลโวตลอดกาลอันดับที่ 2 ของ บาเยิร์น เรียกได้ว่าโคตรแห่งคุ้มค่าอย่างแท้จริง
ไมเคิ่ล โอเว่น หมดสัญญาจาก : นิวคาสเซิ่ล ย้ายไปอยู่กับ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้าถามว่าดีลนี้มีความคุ้มค่ายังไงก็คงเป็นในเรื่องของการเป็นอะไหล่ และประสบการณ์ยอดเยี่ยม เพราะตลอด 3 ปี ในสีเสื้อ ปีศาจแดง โอเว่น คือสุดยอดอะไหล่คนหนึ่งของทีม รวมไปถึงตัวพลิกเกมที่พอไว้ใจได้ในยามที่ทีมต้องการความแตกต่างในสนามเฉกเช่นเหตุการณ์ประตูชัยในช่วงวินาทีสุดท้ายในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้
รวมแล้ว เบบี้ โกล คว้าแชมป์กับทีมทั้งสิ้น 3 รายการ ประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลีก คัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลล์ อย่างละสมัย ก่อนที่จะแยกทางกันไปหลังจบซีซั่น 2012-13 ทิ้งสถิติการลงสนามกับทีมไปสิ้น 52 นัด ยิง 17 ประตู ทำให้ โอเว่น กลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์อีกครั้ง และไปสร้างตำนานอีกหนึ่งบทกับ สโต๊ค ซิตี้
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย