27 เม.ย. 2020 เวลา 03:29 • บันเทิง
ใครที่คิดถึงผลงานจากค่าย #MARVEL ห้ามพลาดหนังล่าสุดเรื่อง #Extraction ซึ่งเป็นหนัง Netfilx Original ที่มันส์มาก ภาพ 4K Dolby Vision ระบบเสียง Dolby Atmos
พระเอกคือพ่อเทพบุตร #Thor นักแสดงชาวออสเตรเลี่ยน Chris Hemsworth นั่นเอง หลายคนสงสัยว่าทำไมจึงปลีกเวลามาแสดงได้ ก็เพราะสองพี่น้องผู้ยิ่งใหญ่มาเขียนบทให้เรื่องนี้นั่นเอง เขาคือ Joe Russo และ Anthony Russo ผู้เขียนบทให้แฟรนไชส์หนังตระกูล Avengers ซึ่งสนิทชิดเชื้อกับ Sam Hargrave สตั้นแมนหล่อเก่งระดับที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสตั้นแมนยอดเยี่ยม ผลงานเด่นๆคือเป็น Captain America ให้ Chris Evans มาตั้งแต่ Infinity War, Infinity War และ End Game // พี่น้อง Russo จึงเขียนบทเพื่อให้ Sam มากำกับหนังเรื่องนี้ให้กับ Netflix
ต้องบอกตรงๆว่าหนังเรื่องไม่ได้ตั้งใจขายเนื้อเรื่องเพราะก็แค่พระเอกอดีตทหารที่มารับจ้างไปช่วยเหลือเด็กที่ถูกลักพาตัวไปโดยแก๊งค์ค้าเด็กหฤโหด ช่วงเวลา 30 กว่านาทีเป็นอะไรที่โคตรน่าเบื่อ จะมีก็แต่ไฮไล้ท์ตอนเปิดตัวพระเอกที่กระโดดจากหน้าผาลงไปนั่งสมาธิใต้น้ำที่เหมือนซูเปอร์ฮีโร่มาก มีการยืมเทคนิคถ่ายทำให้เหมือนอยู่ใต้น้ำผมสะบัดเหมือน Aquaman จากค่าย DC ขอบ Warner Brothers
แต่นาทีที่ 37-47 นี่คือที่สุดแห่งการถ่ายทำ ตั้งแต่ฉากขับรถไล่ล่าที่ทำ CG ออกมาได้เนียนมาก มองจากในรถออกไปแล้วเหมือนจริงมาก จุดเด่นของฉากไล่ล่าเรื่องนี้ทำเหมือนอารมณ์ James Bond ยุค Daniel Craig มากคือดิบๆปะทะกันในที่ชุมชนคนเดินถนน สู้ๆอยู่ต้องหลีกทางให้แม่ค้า เทคนิคการถ่ายมุมรถยนต์ที่ไล่ล่ายืมมาจาก Christopher Nolan จากแฟรนไชส์ Batman Trilogy จากค่าย DC อีกแล้ว ความคิดส่วนตัวผมคือทีมค่าย Marvel นี้สู้ซีรี่ส์ของ DC จากช่องทีวี WB ไม่ได้ จึงมาประกาศศักดาที่แพลตฟอร์มค่าย Netflix นี้ว่า เทคนิคของ DC เขาก็ทำได้และเทคนิค Marvel heroes เขาก็ทำได้ดีไม่แพ้ซีรี่ส์ตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ส์ต่างๆที่ Netflix ซื้อลิขสิทธิ์มาทำอย่าง Daredevil, Jessica Jones, Iron Fist ฯลฯ
เรื่องนี้มีฉากต่อสู้กันทั้งเรื่อง ไปจนถึงฉาก
แอ้คชั่นจัดโหด 15-20 นาทีสุดท้ายโคตรมันส์ ฉากแอ็คชั่นสมจริง ยิงกันเลือดสาด แต่ฉากที่เป็น signature ของเรื่องนี้เลยก็อย่างที่บอกคือฉากที่ถ่ายทำแบบ Long Take ที่วิ่งไปสู้กันช่วงนาทีที่ 37-47 ในตึกจนลงมาตลาด ระบบเสียง Dolby Atmos อัดมาโคตรดี (จะเกินจริงคือเสียงปืน ผมว่าเสียงปืนมันเพราะเกิน ปืนสั้นปืนยาวดสียงทะลึ่งดังเท่ากันหมด และตั้งใจทำไฟแลบทุกนัด ดูเหมือนเอาใจคอเกม e-sport เกินไป อันนี้อยากฟังคำติชมของนักยิงปืนเหมือนกันครับ) ภาพก็คมชัด ใช้มือกล้องวิ่งนำหน้า วิ่งข้างๆ และวิ่งตามหลัง ทำงานกันเหนื่อยหนักแน่ๆ เขาใช้กล้องตัวเดียวถ่ายเทคเดียวแบบที่เราเห็นกันในหนัง Birdman ฉากเดินกันหลังเวทีโรงละคร แต่นี่คือวิ่งไล่ล่า ยื้อฉุด และไล่ยิงกันบนตึก ฉากตกตึกพุ่งจากที่สูงลงล่างดูเหมือนยืมมาจาก Quantum of Solace และ Skyfall ส่วนศิลปะการต่อสู้ยืมจิวจิ้ตซุมากจาก John Wick บ้างเล็กน้อย แต่ยังคงความเป็นศิลปะการต่อสู้ของทหารตะวันตกอยู่ สำหรับท่ายิงหรือการจับปืนของคริสนั้นผมไม่แน่ใจว่าเป็นยังไง แต่การจับอาวุธอย่างกระบองหรือมีดดูสมจริงดี เรื่องนี้ Chris Hemsworth แจ้งเกิดในการเป็นพระเอกหนังแอ้คชั่นเต็มๆ ชอบตอนจบๆเรื่อง นี่มัน Jason Bourne ชัดๆ รับรองว่าได้มีหนังแฟรนไชส์ของตัวเองไปอีกนานหลายเรื่อง
ผมให้ 7.5/10 เพราะเนื้อเรื่องอ่อนไปไม่มีมุมหักเลย เอาเวลาเป็น 10 นาทีที่พระเอกไปนั่งคุยและใช้เวลากับ David Harbour (จากซี่รี่ส์ Stranger Thing) มาสร้างปมหรือคลายปมอะไรไม่ดีกว่าเหรอ? เรื่องนี้คริสผ่านด้านแอ้คชั่นถูกตลาดใหญ่สายอเมริกันฮีโร่ แต่ขาดความลึกด้านอื่น ตัวละครอื่นจืดไปไร้ความสมดุลย์ คนที่แจ้งเกิดคือดาราสาย Bollywood ชื่อ Randeep Hooda ที่เก่ง หน้าเหี้ยม หน้าตาท่าทางเหมือนนักฆ่าจริงๆ เชื่อได้ว่าจะแจ้งเกิดใน Hollywood ต่อไป
Extraction จึงกลายเป็นหนังที่ hard sell เทคนิคการถ่ายทำ ทำมาเพื่อประกาศศักดาของมือทองของ Marvel แต่ถือว่าดีมากสมกับการที่ผู้กำกับเป็นสตั้นแมนคิวทองระดับโลก
โฆษณา