27 เม.ย. 2020 เวลา 13:00 • ประวัติศาสตร์
เพอร์ซีโฟเน่ถูกลักพาตัว (ภาคต่อของเทพีดีมิเทอร์)
ตามที่ผมได้เล่าให้ฟังกันไปเมื่อตอนที่แล้วครับว่า เพอร์ซีโฟเน่ เนี่ยเป็นดังแสงตะวันของเทพีดีมิเทอร์เพราะฉะนั้นแล้วมันจึงค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่น้อยหากวันหนึ่งเธอดันถูกลักพาตัวไปโดยพวกโรคจิตชอบตามตื้อ
วันคืนอันแสนสุขที่จบลงอย่างรวดเร็ว
คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับตามที่ผมได้เล่าไปในตอนก่อนหน้าว่าเทพี ดีมิเทอร์ เนี่ยค่อนข้างจะหวงลูกสาวอย่างเพอร์ซีโฟเน่มากๆ (เหมือนกับขุมทรัพย์กองใหญ่ที่มีแม่มังกรเฝ้าเอาไว้) ด้วยเหตุนี้เองเทพฝ่ายชายองค์อื่นๆ จึงไม่ค่อยอยากยุ่งกับสาวน้อยคนนี้นัก เว้นแต่ ฮาเดส เจ้าแห่งนรกผู้แอบสวมหมวกล่องหนมาเฝ้าดูนางตลอดเวลาจนพูดได้ว่าเขานี่แหละคือพวกโรคจิตชอบตามตื้ออันดับต้นๆ ของโลก
.
ด้วยความที่ ฮาเดส เอาแต่เฝ้าฝันถึงเธอทั้งวันทั้งคืนจนนรกเกิดความวุ่นวายขึ้นมาด้วยเหตุนี้เขาจึงรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะไปขอเพอร์ซีโฟเน่จากซุส ซึ่งดูเหมือนกับว่ามหาเทพผู้นี้จะอนุญาตเสียด้วย
แผนการลักพาตัว
ด้วยความที่ซุสมีลูกเยอะจนเขาไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรเพอร์ซีโฟเน่เลยแม้แต่น้อยมหาเทพเลยตกลงยกลูกสาวคนนี้ให้กับฮาเดสไปแถมยังเป็นผู้วางแผนลักพาตัวให้อีกต่างหาก
.
โดยเรื่องมันมีอยู่ว่าในขณะที่ เพอร์ซีโฟเน่ กำลังวิ่งเล่นแบบไม่สนโลกอยู่นั้นจู่ๆ นางก็เหลือบไปเห็นดอกไฮยาซินธ์เข้าด้วยความสวยงามของมันนางจึงค่อยๆ ออกเดินตามดอกไม้พวกนี้ไปเรื่อยๆ แต่แล้วเรื่องราวสุดสยองก็เกิดขึ้นเมื่อฮาเดสควบรถม้าศึกขึ้นมารวบเอวนางก่อนจะดึงลงไปยังขุมนรกเบื้องล่าง
.
เหตุการณ์ต่อมานะเหรอ....ก็เป็นไปตามคาดครับ ดีมิเทอร์ ถึงกับเสียสติไปเลยน่ะสิ นางถึงกับออกเดินตามหาลูกนานถึงเก้าวันด้วยกันก่อนจะได้ข้อมูลที่น่าสนใจจากชาวเมืองเอลูซิสว่า เฮลิออส ไททันผู้ชักจูงรถม้าศึกพระอาทิตย์เนี่ยเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
.
นางจึงรีบมุ่งหน้าตรงไปหา เฮลิออส เพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าฮาเดสเนี่ยแหละคือตัวการลักพาตัวเพอร์ซีโฟเน่ไป ด้วยความโกรธดีมิเทอร์รีบตรงไปหาซุสทันทีเพื่อแจ้งเรื่องราวทั้งหมดและขอให้มหาเทพซุสช่วยจัดการกับเจ้าแห่งนรกคนนี้
.
แต่เรื่องมันกลับกลายเป็นว่ามหาเทพซุสมีส่วนรู้เห็นด้วยตั้งแต่แรกนั่นทำให้นางยิ่งปรี้ดแตกมากขึ้นไปอีก ดีมิเทอร์ ได้ประกาศต่อหน้าซุสว่าหากนางไม่ได้ลูกคืนละก็โลกทั้งใบจะต้องทุกข์ใจไปพร้อมกับนางนี่แหละ
.
ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ตอนนั้นซุสก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับแต่พอผ่านไปนานวันเข้าสรุปว่า ดีมิเทอร์ เนี่ยดันเอาจริง โดยนางทำให้พืชผลทั่วโลก (เว้นแต่เมืองเอลูซิส) ไม่เจริญงอกงามดังเช่นทุกที ผลคือมีคนตายเกิดขึ้นเป็นขโยงเลยละ
.
ซุสที่ไม่อาจทนฟังเสียงอ้อนวอนของมนุษย์ได้อีกต่อไปจึงต้องเรียกตัว เฮอร์มีส เทพแห่งการส่งสารมาเข้าเฝ้าพร้อมบอกให้ไปตามตัวฮาเดสขึ้นมาเคลียปัญหาทั้งหมด
สามฤดูบนโลก
เฮอร์มีสรีบเดินทางกลับมาจากนรกพร้อมกับเพอร์ซีโฟเน่ซึ่งนั่นก็สร้างความโล่งใจให้กับดีมิเทอร์ได้เป็นอย่างดี แต่ติดปัญหาอยู่อย่างเดียวนั่นคือฮาเดสดันเดินทางมาด้วยเสียอย่างนั้น
.
หลายๆ คนพออ่านถึงจุดนี้แล้วคงรู้สึกสงสัยใช่ไหมละครับว่าเทพจอมตื้อองค์นี้ยังจะเอาอะไรอีกแต่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ
.
ระหว่างที่ เพอร์ซีโฟเน่ ถูกจับไปอยู่นรกเนี่ยนางดันกินผลทับทิมเข้าไปถึงสามเมล็ดด้วยกัน ซึ่งตามกฏของโลกใต้พิภพเนี่ยหากเทพหรือวิญญาณดวงไหนกินอาหารของนรกแล้วละก็เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดกาล
.
เคราะห์ดี เพอร์ซีโฟเน่ กินเมล็ดทับทิมเข้าไปเพียงแค่สามเมล็ดเท่านั้นเลยทำให้นางไม่ต้องอยู่ในนรกชั่วนิรันดร์ กระนั้นปัญหาคือนางดันกินของจากใต้พิภพเข้าไปแล้ว ซึ่งแม้แต่ตัวมหาเทพอย่างซุสเองก็ไม่อาจฟืนกฏดังกล่าวได้
.
ด้วยเหตุนี้เอง เพอร์ซิโฟเน่ จึงต้องลงไปอยู่ในแดนนรกเป็นระยะเวลานานถึงสามเดือนต่อหนึ่งปี ซึ่งนั่นก็ทำให้ดีมิเทอร์รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากที่แสงในชีวิตของนางจะต้องลงไปอยู่ในนรกกับเทพจอมอึมครึมองค์นี้
.
และนี่เองที่เป็นผลทำให้เกิดฤดูหนาวขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความโศกเศร้าขององค์เทพีดีมิเทอร์ โดยมันจะกินระยะเวลานานต่อเนื่องไปเกือบสามเดือนเต็มจนกระทั่งเพอร์ซีโฟเน่กลับมาจากนรกใต้พิภพเมื่อนั้นแสงสว่างและฤดูกาลแห่งความสุขก็จะกลับคืนสู่โลกอีกครั้ง
ลิงก์: https://bit.ly/2Y8efbK

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา