27 เม.ย. 2020 เวลา 14:05 • ความคิดเห็น
ต่างคนต่างมุมมอง
เรื่องราวหลายเรื่องบนโลกใบนี้ ถ้าพูดคุยด้วยเหตุและผล เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน โลกก็คงจะไม่มีสีสัน หลากหลายเช่นทุกวันนี้
แตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้ ย่อมดีกว่าการต้องลุกขึ้นมาทำร้ายกันเอง เหมือนที่ผ่านๆมา
บางครั้งถูกและดีของเราก็ไม่ใช่จะถูกและดีสำหรับทุกคนเสมอไป
เคยสะท้อนความรู้สึกตัวเอง ตอนคุยกับเด็ก ผู้ใหญ่มักชอบสอนให้เด็กรับรู้ ในแบบของผู้ใหญ่ เช่นการแบ่งปันกันเป็นสิ่งดี จนบางครั้งเราลืมนึกไปว่าเด็กจะรู้สึกอย่างไร
เคยเจอเหตุการณ์ที่เด็กก่อนวัยเรียน ได้รับการแจกขนมเท่ากัน บางคนกินหมดเร็วบางคนกินหมดช้า
คนที่ค่อยๆกินทีละนิดก็มีขนมเหลืออยู่เยอะ เพื่อนที่กินเร็วหมดก่อนก็จะมาขอขนมกินเพิ่ม เคยคิดเช่นกันว่าก็น่าจะแบ่งให้เพื่อนที่มาขอได้ แต่พอเห็นปฏิกิริยาของเด็กที่ถูกขอขนม หันตัวและขนมหนีเพื่อน
รับรู้ได้ทันทีว่าดีของผู้ใหญ่กับเด็กมันต่างกัน เด็กก็ควรได้รับการยอมรับในการตัดสินใจด้วย ไม่ควรเอาความดีในแบบเราไปหยิบยื่นให้เด็ก
ถ้าเราหมั่นทำความรู้สึก สะท้อนกลับไปมาระหว่างคนที่เราสื่อสาร คงไม่ต้องมามีปัญหาในการสื่อสาร ต่างคนต่างมุมมอง จึงต้องแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง
โดยเฉพาะพื้นฐานด้านการเมือง ศาสนาและความเชื่อ ห้ามแตะจริงๆ ถ้าเราไม่อยากให้บรรยากาศการสนทนามีปัญหา
ที่ผ่านมามทั้งปัญหาเรื่องการแต่งชุดนักเรียน งานไหว้ครู งานวันพ่อวันแม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่า การแต่งชุดนักเรียน การปฏิบัติตามกฎโรงเรียน
สามารถฝึกเรื่องวินัย การอยู่ร่วม เพื่อเตรียมพร้อมเด็ก ให้อยู่กับผู้อื่นได้
ในส่วนงานไหว้ครูเห็นด้วยว่าควรมีต่อไป เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญู กตเวทิตา ต่อครูผู้มีพระคุณ แต่งานวันพ่อวันแม่ สงสารจับใจกับเด็กที่ขาดเสาหลักของบ้าน ถ้าจะให้มีต่อไป ต้องมีวิธีเยียวยาดูแลเด็กที่ขาด ไม่ให้บอบช้ำมากเกินไป
นึกถึงเรื่องอคติ 10 เลย เชื่ออย่า 10 อย่าง ต้องพิสูจน์แล้วว่าจริงจึงเชื่อ
บุญรักษา
โฆษณา