บทความตามใจฉัน “Game Boy: Nintendo New Kingdom” Part 2
ในปัจจุบันเราต่างรู้กันดีว่า Game Boy ถือเป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่
ประสบความสำเร็จมาก
ยิ่งถ้าเทียบด้วยจำหน่วยเครื่องที่ขายได้แล้ว ในวันที่เขียนบทความนั้น
Game Boy มียอดขายที่สูงเป็นอันดับสามเป็นรองเพียง PS2 และ Nintendo DS เท่านั้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Game Boy ได้ชัยชนะเหนือคู่แข่งที่แสดงผลภาพสีและกราฟฟิกสวยกว่านั้นมีทั้งสิ้น 2 ปัจจัย
โดยปัจจัยแรกนั้นมีผลทำให้ Game Boy เป็นที่นิยมและเกิดความต้องการซื้อจำนวนมาก
ปัจจัยที่ 1 นั้นคือ “ความสนุกทุกเพศทุกวัย”
ในตอนที่ Game Boy กำลังจะวางขายนั้น Nintendo มีแผนที่จะให้ Super Mario Land เป็นเกมที่ติดมากับเครื่อง
แต่เรื่องราวนั้นเปลี่ยนไปเมื่อปี 1988 Henk Rogers (เฮงค์ โรเจอร์ส) ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายวิดีโอเกมนั้นได้ไปเจอเกมแนว puzzle เกมหนี่งจากบริษัทเกมของรัสเซียที่งาน Consumer Electronics Show ในลาสเวกัส มันเป็นเกมที่สนุก, เหมาะกับทุกเพศทุกวัยและเล่นติดลมได้ไม่ยาก จึงติดต่อเพื่อขอซื้อสิทธิ์จากบริษัทเกม
ต่อมาเค้าก็ได้ข่าวว่า Nintendo กำลังจะวางจำหน่าย Game Boy จึงเข้าไปติดต่อกับ Nintendo สาขาอเมริกาเพื่อนำเสนอเกมนี้ให้เป็นเกมแถมติดเครื่อง โดยโรเจอร์สชี้ให้เห็นว่า Super Mario Land จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้แต่กลุ่มเด็กเพียงเท่านั้นแต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเกมนี้แทนละก็ มันจะจะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย ส่วนแบ่งการตลาดและยอดขายของเครื่องก็จะเพิ่มขึ้น
Nintendo ตกลงว่าตามโรเจอร์สและนี่นำมาซึ่งการตบตีกันระหว่าง Nintendo กับคู่แข่งอย่าง Tengen อีกครั้งเพื่อให้ได้สิทธิ์ของเกมนี้มา
กว่าที่ Nintendo จะเอาชนะและได้สิทธิ์ของเกมนี้มาสำเร็จก็ล่วงเข้าเดือนมีนาคม 1989 แล้ว ทำให้ตลับเกมนี้ผลิตไม่ทันที่จะให้เป็นเกมแถมติดเครื่อง Game Boy ตอนออกสู่ตลาดครั้งแรกที่ญี่ปุ่น โดยเกมนี้ออกวางจำหน่ายตามมาในอีก 2 เดือนให้หลัง
ต่อมาเกมนี้นั้นได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม สามารถขายได้ถึง 30 ล้านก๊อปปี้(จำนวนรวมทั้งตลับแถมติดเครื่องและตลับเกมขายแยกต่างหาก)
นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ 1 ที่ทำให้ผู้เล่นเลือกซื้อ Game Boy และก่อให้เกิดฐานลูกค้าที่กว้างขวาง
เกมที่ว่านี้มีชื่อว่า Tetris
ปัจจัยที่ 2 ซึ่งต่อมาถูกมองว่าเป็นจุดชี้เป็นตายแก่เครื่องเกมพกพาก็คือค่าใช้จ่ายของวัสดุสิ้นเปลื้อง
หรือก็คือค่าแบตเตอร์รี่นั้นเอง
Game boy รุ่นแรกมีอัตราการใช้ไฟฟ้าโดยประมาณอยู่ที่ 1000 มิลลิแอมป์(ma) ต่อชั่วโมง ใช้ถ่านขนาด AA หรือที่เรียกกันติดปากในไทยว่า “ถ่านก้อนเล็ก” จำนวน 4 ก้อน
ในสมัยนั้นถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA ที่ขายอยู่ทั่วไปมีความจุเริ่มต้นที่ 1800ma เมื่อใช้แล้วจะทำให้สามารถเล่น Game Boy ได้นานมากกว่า 10 ชั่วโมงตามสเปกและประมาณ 7 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานจริง
ส่วนการใช้ถ่านที่ชาร์จได้นั้น ถ่านชาร์จที่ใช้แพร่หลายในช่วงต้น 90s จะใช้เซลประเภทนิเกลแคดเมี่ยม (NiCd) ที่มีความจุระหว่าง 600-1000ma
นั้นหมายความว่าถ้าใช้ถ่านชาร์จ NiCd ก็จะเล่น Game Boy ได้เพียง 2 ชั่วโมง 20 นาที(600ma) ถึง 4 ชั่วโมง(1000ma) โดยประมาณเท่านั้น แถมหมดแล้วก็ต้องแบกไปด้วยเพราะต้องเก็บไปชาร์จใหม่
ขณะที่ถ่านแบบดั้งเดิมที่ใช้เซลแบบคาร์บอนก็มีความจุอยู่ที่ 400-1700ma ซึ่งใกล้เคียงกับถ่านชาร์จ NiCd และเกือบเทียบเท่าถ่านอัลคาไลน์ระดับล่างสุดที่ความจุระดับสูงสุดที่เซลแบบคาร์บอนทำได้ เมื่อถ่านหมดก็สามารถทิ้ง
ไปได้เลยไม่ต้องเก็บไว้ให้หนักกระเป๋า
ทำให้ผู้เล่นนิยมซื้อถ่านแบบใช้แล้วทิ้งและนี่คือค่าวัสดุสิ้นเปลื้องที่ผู้ใช้ต้องแบกรับ
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง SEGA Game gear หรือ Atari Lynx ซึ่งต้องใช้ถ่าน AA ถึง 6 ก้อนแต่สามารถใช้งานได้เพียง 3-5 ชั่วโมงและ 4-6 ชั่วโมงตามลำดับแล้ว แค่จำนวนถ่านที่ใช้นั้น Game boy ก็ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าผู้เล่นได้ถึง 50% อีกทั้งเวลาที่สามารถเล่นได้ก็นานกว่าทำให้ความคุ้มค่าของเงินต่อแบตเตอร์รี่นั้นมีสูงกว่า
สาเหตุของความแตกต่างนี้มาจากการที่ Game boy ใช้จอเขียวดำ, ไม่มี Backlight และใช้ Hardware(หลัก ๆ คือชิปประมวลผล) ที่กินไฟน้อยกว่า
ค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่านี่เองทำให้ Game Boy ที่แม้จะ Low Tech ก็สามารถเอาชนะเครื่องเกมของคู่แข่งที่ Hight Tech กว่าได้
ปัจจัยประกอบอื่น ๆ ก็เช่น ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องที่เล็กและเบากว่า, ราคาขายของเครื่องที่ถูกว่า
ราคาขายตอนเปิดตัวของ Atari Lynx อยู่ที่ 180 USD (ในรูปคือลดราคาลงมาแล้ว) และ Sega Game Gear อยู่ที่ 150 USD
ขณะที่ Game Boy ขายที่ 90 USDและมีเกมที่แม้แต่ผู้ปกครองเองก็เล่นสนุกได้
จากปัจจัยหลักทั้ง 2 ข้อและปัจจัยประกอบที่กล่าวมาทำให้ยอดขายของ Game Boy พุ่งทะยาน โดยสามารถทำยอดขายทั่วโลกได้ทั้งหมด 64.42 ล้านเครื่องและถ้ารวม Game Boy Color ด้วยแล้วจะได้ยอดขายที่ 118.69 ล้านเครื่อง
แต่ก็ไม่ใช่ว่า Game boy จะไม่มีข้อเสีย ซึ่งข้อเสียที่เป็นที่พูดคุยกันมากที่สุดคือการไม่มี Backlight หรือไฟส่องสว่างจอทำให้ผู้ใช้เล่นเกมส์ในที่มีแสงน้อยหรือตอนกลางคืนไม่ได้ โดย Nintendo ได้ให้เหตุผลไว้ว่าเพื่อประหยัดแบตเตอร์รี่ เปิดโอกาสให้เหล่า Third party ต่าง ๆ ผลิตอุปกรณ์เสริมที่ช่วยส่องสว่างหน้าจอของ Game boy ร่วมถึงอุปกรณ์เสริมอีกต่าง ๆ นา ๆ ออกมาขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
หลังจากที่ Game boy ได้รับความนิยมอย่างมากและสามารถครองตลาดเครื่องเกมพกพาได้สำเร็จ Nintendo ก็ได้ออกวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Game boy ทั้งรุ่นย่อยและรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นที่โดดเด่นมีดังนี้
Game Boy Color ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเดือนตุลาคม 1998 เกือบ 10 ปีนับจากเวลาที่วางขาย Game Boy รุ่นแรก
ถือเป็น Game Boy เครื่องแรกที่แสดงผลแบบสีได้ โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญคือสามารถนำตลับเกมของ Game boy มาเสียบเล่นได้และยังสามารถใส่สีให้กับเกมเก่าเหล่านั้นได้อีกด้วย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ Game Boy Color ลดจำนวนถ่านที่ใช้เหลือเพียง 2 ก้อนแต่สามารถทำงานได้นานเทียบเท่าที่ Game Boy เดิมทำได้ ในบางแหล่งข้อมูลก็บอกว่าทำงานได้นานกว่า
ส่วนปัญหาเรื่องการเล่นในที่มืดยังไม่ได้รับการแก้ไข
Game Boy Advance ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเดือนมีนาคม 2001 รุ่นนี้ถือเป็นการก้าวกระโดดของ Game Boy จาก 8 bit สู่ 32 Bit และแสดงผลสีได้ 16 bit เลยทีเดียว โดยยังคงใช้จำนวนถ่าน AA เพียง 2 ก้อนเท่ากับ Game Boy Color และใช้งานได้นานเท่าที่เครื่องรุ่นก่อนหน้าทำได้
แต่อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการเล่นในที่มืดก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข เหล่าผู้เล่นจึงมักนิยมดัดแปลง Game Boy Advance ของตนให้มี Backlight หรือไฟส่องสว่างจอกันเอาเอง
ในภาพ เครื่องล่างคือเครื่องที่ยังไม่ดัดแปลง เครื่องบนคือเครื่องที่ดัดแปลงแล้ว
ตัวอย่างวิธีการดัดแปลงให้มี Backlight อยู่ใน Link ข้างล่าง
Game Boy Advance SP ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเดือนกุมภาพันธ์ 2003 โดยรวมแล้วก็คือ Game Boy Advance ที่ตัวเครื่องถูกออกแบบใหม่ให้เล็กกระถัดรัดและพับเก็บได้เพียงเท่านั้น แต่ความสำคัญของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ปัญหาการเล่นในที่มืดหรือแสงน้อยนั้นได้รับการแก้ไขโดย Nintendo เสียที ถ้านับจากวันที่วางจำหน่ายเครื่อง Game Boy ครั้งแรกเมื่อปี 1989 ก็คือ 14 ปีที่กว่า Nintendo จะแก้ปัญหาให้
เพิ่มเติม คุณ Vanchalerm Vatanavorakitkul ได้คอมเมนต์จาก Facebook แย้งว่า Game Boy เครื่องแรกที่มีไฟส่องจอไม่ใช่ Game Boy Advance SP แต่เป็น Game Boy Light ซึ่งพบว่าจริง เครื่องเกมนี้วางจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายน 1998 เฉพาะที่ญี่ปุ่น หลังจากนั้น Game Boy ก็ไม่เคยมีไฟส่องจออีกเลยจนกระทั้ง Game Boy Advance SP
จุดเปลี่ยนสำคัญอีกประการหนึ่งคือ Game Boy Advance SP มีแบตเตอร์รี่ที่ชาร์จได้ในตัว ทำให้ไม่ต้องซื้อถ่าน AA อีกแล้ว
Game boy Micro ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005 ซึ่งเป็น Game boy รุ่นสุดท้าย
โดยรวมแล้ว Game boy Micro ก็คือ Game Boy Advance ที่มีขนาดเล็ก เล็กยิ่งกว่า Game Boy Advance SP เสียอีก
แต่นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรใหม่
หลังจากนั้น Nintendo ก็ก้าวไปยังเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ที่ไม่ใช้แบรน์ Game boy อีกต่อไป
ในที่สุดแม้ Game Boy จะเลิกผลิตไปแล้วแต่สิ่งที่ได้สร้างและทิ้งไว้ให้นั้นเป็นคุณต่อ Nintendo อย่างมาก
โดย Game Boy ถือเป็นหัวหอกสำคัญในการบุกตลาดเครื่องเล่นเกมพกพาให้แก่ Nintendo และมันได้ก่อตัวเป็นอาณาจักรใหม่ของ Nintendo ที่แม้ต่อมาตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องเกมคอนโซลได้มีการเปลี่ยนมือแต่อาณาจักรนี้ยังคงอยู่มาได้อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งยิ่ง แม้แต่ผู้นำในตลาดเครื่องเกมคอนโซลคนใหม่ที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังอย่างมากก็ไม่สามารถตีและยึดครองอาณาจักรนี้อย่างได้เบ็ดเสร็จจนกระทั้งต้องถอยทัพกลับในปีที่เขียนบนความนี้เอง
ถ้าไม่นับ Smart Phone สำหรับเล่นเกมแล้ว Nintendo ยังคงเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรของเครื่องเกมคอนโซลพกพาต่อมาจนถึงปัจจุบันและยังไม่มีทีท่าว่าจะมีผู้หาญกล้าท้าชิงในเร็ววันนี้ (ณ ตอนที่เขียนบทความ)
REF
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
