เจาะประเด็น CPN
ตัวห้างจะเป็นอย่างไร หลังใกล้”เปิดเมือง”
ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่สุดแสนจะน่าเบื่อ หรืออาจจะเป็นช่วงที่สุดแสนจะอบอุ่นสำหรับใครบางคนในเวลาเดียวกันเพราะหลายๆคนมีเวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น แต่ความจริงที่พวกเราต้องยอมรับกันก็คือ
.
ยังมีคนที่เดือดร้อนจากโควิดอีกเป็นจำนวนมาก และระบบเศรษฐกิจของไทยที่คงจะต้องแย่แน่ๆหากไม่รีบเคลียร์โรคระบาดให้หมดไป
.
แต่หลังจากที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศของไทยเราได้เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเพราะยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวันนั้นน้อยลงเรื่อยๆก็ส่งผลให้ตลาดนั้นเริ่มที่จะ "มีหวัง" กันขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้การรีบาวด์ของตลาดหุ้นในครั้งนี้ก็เลยยังดูสดใสและน่าลุ้นอยู่นั่นเอง ถึงแม้โซนราคาจะไม่ได้ถูกสักเท่าไหร่นัก
.
ในวันนี้เราก็มี CPN หุ้นอีกหนึ่งตัวที่เรียกได้ว่าโดนผลกระทบไปแบบหนักสุดๆในวิกฤติและการประกาศ "ปิดเมือง" มาวิเคราะห์สถานะการณ์ที่พวกเขาจะต้องเจอในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ รวมไปถึงการพูดคุยเกี่ยวกับความน่าสนใจของการลุ้นในเรื่องการเปิดเมืองอีกด้วย
.
ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปลุยกันเลยครับ...
.
CPN หรือบมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้ทำธุรกิจพัฒนาและให้เช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าและอื่นๆเช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม อาคารที่พักอาศัย และศูนย์อาหาร นอกจากนี้ยังลงทุนและเป็นผู้บริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอีกด้วย โดยในปัจจุบัน CPN จะมี
- ห้างสรรพสินค้า 34 แห่ง
- ศูนย์อาหาร 30 แห่ง
- อาคารที่พักอาศัย 8 แห่ง
- โรงแรม 2 แห่ง
- อาคารสำนักงาน 7 แห่ง
ซึ่งเมื่อ Covid-19 ได้แพร่ระบาดนั้น สถานที่แรกที่โดนปิดเลยคือ "สถานบันเทิง" ต่างๆและต่อมาก็คือ "ห้างสรรพสินค้า" อีกทั้งโรงแรมและอาคารสำนักงานนั้นก็เช่นเดียวกัน
.
ตรงนี้ก็เป็นสาเหตุหลักเลยที่ทำให้ CPN กลายเป็นผู้รับหมัดนี้ไปเต็มๆ เพราะสถานที่บันเทิงอย่างโรงหนังหรือร้านนวดต่างก็เป็นลูกค้าที่เช่าพื้นที่ของเขาอยู่ และที่หนักสุดก็คือการที่ห้าปิดเพราะรายได้จาก "ค่าเช่าและการให้บริการ" ของพวกเขานั้นคิดเป็นอัตราส่วนถึง 80% จากรายได้ทั้งหมด โดยการปิดห้างครั้งนี้คาดว่าน่าจะกระทบกับรายได้ในส่วนค่าเช่าของ CPN ในสัดส่วนกว่า 60% เลยทีเดียว
.
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อก่อนแล้ว CPN ก็จะถือเป็นหุ้นอีกตัวนึงที่มีรายได้และกำไรเติบโตดีเลยนะครับ แต่หลังจากปีพ.ศ. 2560 มานั้นกำไรของทางบริษัทก็ได้มีการลดลงจนเริ่มที่จะไม่ไปไหนมาไหนจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมไปถึงการเข้ามาของ E-Commerce ที่ถือเป็นการแข่งขันที่ทาง CPN ต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเพื่อให้เข้ากับเทรนด์การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าที่หันไปซื้อของกันบนอินเตอร์เน็ตมากขึ้น
.
ปี 59 รายได้ 30,113
กำไร 9,243 ล้านบาท
ปี 60 รายได้ 35,455
กำไร 13,567 ล้านบาท
ปี 61 รายได้ 37,662
กำไร 11,215 ล้านบาท
ปี 62 รายได้ 39,930
กำไร 11,738 ล้านบาท
.
เรียกได้ว่ากำไรลดลงเรื่อยๆจนมาหยุดเอาในงวดสิ้นปีพ.ศ. 2562 ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง ซึ่งถ้าเรามองแค่่งบจาก 1-2 เดือนแรกหรืองบไตรมาสแรกของ CPN นั้นก็จะยังไม่สามารถเห็นผลกระทบได้ชัดเจนเท่าไหร่ เพราะคำสั่งปิดห้างจริงๆก็เพิ่งจะมาเริ่มได้เมื่อราวๆวันที่ 22 มีนาคมนี่เอง แถมตอนนี้ยังได้มีการประกาศเพิ่มระยะเวลาของพรก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือนด้วย
.
โดยไตรมาส 1 ผลกระทบที่เราคาดว่า CPN จะได้รับนั้นก็น่าจะมาจากการ "ลดค่าเช่า" ให้กับทางลูกค้าที่ยังเปิดร้านได้และที่ไม่สามารถเปิดร้านได้เลย รวมไปถึงยอดการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าน่าจะทำได้ไม่ดีสักเท่้าไหร่ ซึ่งรายได้ในส่วนนี้จะถูกคิดเป็น 7% จากรายได้ทั้งหมดของทางบริษัท และในส่วนนี้กำไรของทางบริษัทก็น่าจะลดลงไปที่ราวๆ 26% ในไตรมาสแรก
.
ดังนั้นเชื่อเลยว่าถ้าหากตัวเลขในไตรมาส 2 ของ CPN ได้ออกมาแล้ว เราอาจจะมีโอกาสเห็น "จุดต่ำสุด" ของธุรกิจพวกเขาในรอบหลายๆปีเลยก็เป็นได้ เพราะว่าห้างสรรพสินค้านั้นก็ถือว่ายังเป็น "พื้นที่สีแดง" อยู่ดีถึงแม้ว่าในอนาคตจะมีการประกาศผ่อนปรนเพิ่มเติมอะไรออกมาจากทางรัฐบาล เรียกได้ว่าแทบจะเป็นคิวสุดท้ายเลยก็ได้ในการเปิดเมือง แต่ถึงอย่างไรหลายๆคนก็ยังคาดไว้ว่าห้างใหญ่ๆนั้นก็น่าจะได้กลับมาเปิดกันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
.
แต่ถึงอย่างไร CPN ก็ยังถือว่าเป็นหุ้นที่มีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งกับเงินสดในมือกว่า 3,000 ล้านบาทและวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้กู้อีกกว่า 14,200 ล้านบาท ทำให้วิกฤติในรอบนี้ที่ถึงแม้จะทำให้ CPN สูญเสียกระแสเงินสดในการดำเนินงานไปเกือบๆสองพันล้านก็ยังไม่น่าจะเป็นปัญหาหนักสักเท่าไหร่กับพวกเขา ซึ่งถ้าหากห้างสรรพสินค้าจะกลับมาเปิดได้ในสิ้นเดือนพฤกษาคมจริงๆนั้น อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนหรือ D/E ของพวกเขาก็ยังจะอยูที่ 0.46 เท่า
.
หากมองในด้านของหุ้นแล้วนั้น จากการที่ราคาของ CPN ได้ร่วงลงมาตลอดจากจุดสูงสุดในปีพ.ศ. 2560 ที่ 85.25 บาทจนล่าสุดวันนี้ราคาปิดตลาดคือ 48.75 บาท ดังนั้นราคาหุ้นที่ตตรงนี้เราจะสามารถมองว่า CPN นั้นตอบรับ "เรื่องร้ายๆ" ไปมากแล้วได้หรือยัง ? ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่เพื่อนๆทุกคนจะต้องไปตัดสินใจกันเอง
.
เพราะถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดและสถานะการณ์ Covid-19 ได้ดำเนินเดินตามเหตุการณ์ต่างๆที่เราได้คาดกันไว้นั้น เชื่อว่า CPN และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงหรือการท่องเที่ยวก็น่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หรือจะเอาชัวร์ที่สุดก็น่าจะเริ่มได้เดินหน้ากันแบบเต็มสูบกันใหม่ในช่วงต้นปีพ.ศ. 2564 ที่กำลังจะมาถึง
.
Covid-19 จะหายไปจากประเทศไทยได้จริงๆ หรือคนไทยจะสามารถรับมือและปรับตัวกับมันได้ดีขึ้นกันมากแค่ไหน ???
.
การเปิดเมืองที่กำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนหน้าจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น หรือเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การแพร่ระบาดรอบที่สอง (Second Wave) ที่ไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้นได้อีกครั้งหรือไม่ ??
.
ยังไงก็ต้องมาเอาใจช่วยกันต่อไปนะครับกับวิกฤติที่เรียกว่าเข้ามาอย่างรวดเร็ว แถมยังสร้างบาดแผลได้อย่างรุนแรงให้กับหลายๆธุรกิจ หลายๆระบบ และหลายๆชีวิตกับการแพร่ระบาดของโควิดในครั้งนี้
สำหรับในวันนี้พวกเราก็คงจะมีสาระมาฝากกันไว้เพียงเท่านี้ ขอตัวลากันไปเลยแล้วกันนะครับ ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะทุกคน
สวัสดีครับ...
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ BLOCKDIT
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
