4 พ.ค. 2020 เวลา 23:13 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
วันนี้นึกมุกเก่าได้ล่ะ....สมัยก่อนถ้าไม่มี Drive A , B จะปิด เครื่องแมคอินทอช (Macinthosh) ไม่ได้นะครับ
ทำ 5 ส.จนเจอ ดีใจๆ
เจอะเอา3แผ่นนี้ทำให้นึกถึง ..พระราชดำรัชที่ว่า.“เดี๋ยวนี้เด็กๆ อายุ 10 ขวบเล่นคอมพิวเตอร์เป็น อย่างนี้ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่ามีปมด้อยขึ้นมาว่าเล่นคอมพิวเตอร์ไม่เป็น…แล้ววันหนึ่งก็มีคนหนึ่งเอาคอมพิวเตอร์มาให้ บอกว่าอันนี้เขียนดนตรีได้ ก็เลยรับเอาไว้ ที่จริงรับเอาไว้ เขาไม่ได้ให้ เพราะว่าไปซื้อมาก็เงินของเราเอง เราซื้อเราก็ยังกลัว มองดูแล้วไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่ถึงตอนปีใหม่ ก่อนปีใหม่นิดหนึ่งก็เอาคอมพิวเตอร์ไปตั้งในห้องทำงานแล้วก็จิ้มไป เขาบอกว่าเขียนหนังสือได้ เขียนรูปได้ ก็เริ่มลองเขียนหนังสือ เขียนสำหรับอวยพรปีใหม่ เป็นบัตร ส.ค.ส. แล้วก็เขียนๆไป เอ้อ…ออกมาได้ เขียนออกมาเป็นตัวได้ ก็แปลกดี”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่นักศึกษา มศว. วิทยาเขตสงขลา เมื่อ 28 กันยายน 2530...
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าคอมพิวเตอร์ส่วนพระองค์เครื่องแรกของในหลวงเรา คือ Macintosh SE ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าสนใจ สำหรับพระอัจฉริยภาพในการใช้อุปกรณ์ไฮเทคอย่างคอมพิวเตอร์
พระองค์ทรงใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ทั้งการประดิษฐ์ฟ้อนต์ไทยด้วยพระองค์เอง, การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ทั้งยังทรงประดิษฐ์ ส.ค.ส. ส่งถึงปวงชนชาวไทยด้วยพระองค์เองหลายปี
Macintosh SE เป็นคอมพิวเตอร์ Macintosh รุ่นแรกของแอปเปิลที่มีให้เลือกระหว่างฟล็อปปี้ดิสก์ไดรฟ์ที่สอง(Drive A ,B) หรือฮาร์ดดิสก์ในตัว โดย Macintosh SE วางขายในช่วงเดือนมีนาคม 1987 ถึงเดือนตุลาคม 1990
แล้วตอนนี้..Drive A , B หายไปไหนทำไมไม่มีใน My Computer ล่ะครับ... สำหรับในยุคนั้น Mac แพงครับผมใช้อยู่สักพัก พอมาตอนนี้ผมเลยหันเอาดีทางWindowsแทน555
หากใครยังอยู่ในยุคที่ Floppy Disk ยังรุ่งเรือง เราคงเคยได้ยินคำว่าไดร์ A เพราะไดร์นั้นถูกจองไว้ให้กับไดร์ของ Floppy Disk นั้นเอง ลักษณะของไดร์ A คือที่เสียบ Driver ที่มีขนาด 1.44 นิ้ว นั้นเองส่วนไดร์ฟ B ก็จะคล้ายๆ ไดร์ฟ แต่ ไดร์ฟ B มีขนาดใหญ่กว่า ไดร์ฟ คือ 8 นิ้ว
แผ่นดิสก์ยุคแรก มีขนาด 8 นิ้ว สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เพื่อใช้กับเครื่อง System/370 ของบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) สร้างโดย เดวิด โนเบิล ในทีมงานของ อะลัน ซูการ์ต
ซึ่งต่อมา ซูการ์ตแยกตัวออกไปตั้งบริษัททำวิจัยเกี่ยวกับหน่วยความจำ ชื่อบริษัทซูการ์ต ในปี ค.ศ. 1973 แต่เพียงหนึ่งปีต่อมา บริษัทก็ขาดทุนและซูการ์ตก็ถูกไล่ออกจากบริษัทตัวเอง... อ้าว..
นักวิจัยของบริษัทซูการ์ต ชื่อ จิม แอดคิสสัน ได้รับการติดต่อจาก An Wang เพื่อให้ลดขนาดแผ่นดิสก์ให้เล็กลง การติดต่อเกิดขึ้นที่บาร์ในบอสตัน และขนาดแผ่นดิสก์ใหม่ที่คุยกันคือขนาดเท่ากระดาษเช็ดมือในร้าน ซึ่งมีขนาด 5¼ นิ้ว
ต่อมาไม่นาน บริษัทซูการ์ต ก็ผลิตแผ่นดิสก์ขนาดนี้ได้และได้รับความนิยม ในตอนแรก แผ่นมีความจุ 110 กิโลไบต์ ต่อมา บริษัท Tandon พัฒนาให้ความจุสูงขึ้น โดยใช้วิธีเก็บข้อมูลสองหน้า (double density) ทำให้สามารถเก็บได้ 360 กิโลไบต์
แผ่นดิสก์เป็นที่นิยมในท้องตลาดอย่างสูง ทำให้หลายๆ บริษัททุ่มทุนวิจัยทางด้านนี้. ในปี ค.ศ. 1984 บริษัทแอปเปิล ผลิตเครื่องที่ใช้แผ่นดิสก์ขนาด 3½ นิ้วของบริษัทโซนี่ และผลักดันให้แผ่น 3½ นิ้ว เป็นมาตรฐานในวงการอุตสาหกรรมของอเมริกา ความจุเริ่มแรกของแผ่นดิสก์ขนาด 3½ นิ้ว คือ 360 กิโลไบต์ สำหรับหน้าเดียว (single density) และ 720 กิโลไบต์ สำหรับสองหน้า
และต่อมาก็สามารถเพิ่มความจุเป็น 1.44 MB โดยการเพิ่มความจุต่อหน้า (high-density) ต่อมา ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ก็พบวิธีทำให้มีความจุเป็น 2.88 MB (extended-density) โดยการเปลี่ยนวิธีการเคลือบแผ่น
แต่รุ่นสุดท้ายนี้ไม่ได้รับความนิยม เพราะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในขณะนั้น ต้องการความจุที่สูงกว่านี้ แผ่นดิสก์จึงถูกแทนที่ด้วยหน่วยจัดเก็บข้อมูลแบบอื่นไป เช่น ซีดีรอม และ ดีวีดีรอม
แผ่นดิสก์เป็นที่นิยมในท้องตลาดอย่างสูง ทำให้หลายๆ บริษัททุ่มทุนวิจัยทางด้านนี้. ในปี ค.ศ. 1984 บริษัทแอปเปิล ผลิตเครื่องที่ใช้แผ่นดิสก์ขนาด 3½ นิ้วของบริษัทโซนี่ และผลักดันให้แผ่น 3½ นิ้ว เป็นมาตรฐานในวงการอุตสาหกรรมของอเมริกา ความจุเริ่มแรกของแผ่นดิสก์ขนาด 3½ นิ้ว คือ 360 กิโลไบต์ สำหรับหน้าเดียว (single density) และ 720 กิโลไบต์ สำหรับสองหน้า และต่อมาก็สามารถเพิ่มความจุเป็น 1.44 MB โดยการเพิ่มความจุต่อหน้า (high-density)
ต่อมา ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ก็พบวิธีทำให้มีความจุเป็น 2.88 MB (extended-density) โดยการเปลี่ยนวิธีการเคลือบแผ่น แต่รุ่นสุดท้ายนี้ไม่ได้รับความนิยม เพราะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในขณะนั้น ต้องการความจุที่สูงกว่านี้ แผ่นดิสก์จึงถูกแทนที่ด้วยหน่วยจัดเก็บข้อมูลแบบอื่นไป เช่น ซีดีรอม และ ดีวีดีรอม
ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะใช้ Windows อะไร จะถูกจอง Drive 2 Drive นี้ไว้สำหรับ สองอย่างที่กล่าวมาข้างต้น คงจะทราบแล้วนะครับว่าทำไม ไดร์ฟของเราถึงขึ้นต้นด้วย C , D , E , F ฯลฯ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา