CPTPP คืออะไร เดี่ยววันนี้ เพจยากย่อยง่าย จะมาสรุปให้ฟัง CPTPP ย่อมาจาก Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership แปลเป็นไทยคือสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก เข้าใจยากเนาะ ภาษาชาวบ้านคือ "ข้อตกลงกลุ่มตลาดทะเลแปซิฟิก" นั่นล่ะ ประมาณนั้น ข้อตกลงนี้เป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมในเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุนเพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศ ทั้งในประเด็นด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม ฯลฯ และอื่นๆอีกมากมาย ภายในกลุ่ม เอาเป็นว่าคือข้อตกลงเยอะมาก แล้วถ้าเกิดประเทศไทยเข้าร่วมกลุ่ม "ตลาด" (ขอเรียกตลาดนะครับจะได้เข้าใจง่ายดี) จะได้รับผลประโยชร์หรือผลเสียอะไร เราลองมาดูกัน
ข้อดี
1.การส่งออก ถ้าหากประเทศไทยได้เข้าร่วม "ตลาด" แล้วแน่นอนล่ะ ฐานลูกค้าของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะมีอัตราการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% ซึ่งคาดว่าสินค้าที่มีโอกาสส่่งออกมากขึ้นจะเป็นพวก อาหารทะเลแปรรูป ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์
2.การลงทุนจากต่างประเทศ แน่นอนล่ะเนื่องจากเข้าร่วมในกลุ่ม "ตลาด" จะสามารถให้สมาชิกในตลาดเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกไปยังต่างประเทศที่ดีเลย
3.ความสามารถในการแข่งขัน หากเข้า "ตลาด" ประเทศไทยก็จะต้องปรับมาตรฐานต่างๆให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานของ "ตลาด" ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กฎหมายแรงงาน การรักษาสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนอย่างเท่าเทียมระหว่างธุรกิจท้องถิ่นและชาวต่างชาติ เป็นต้น
ข้อเสีย
1.สมาชิกในกลุ่ม "ตลาด" ต้องเข้าสัญญา UPOV ซึ่งสัญญานี้เปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถที่จะนำเอาพืชประเทศไทยไปวิจัยและสามารถจดสิทธิบัตรออกมาได้ หากเกษตรนำพืชพันธ์เหล่านี้มาปลูก จะไม่สามารถเก็บเมล็ดมาปลูกต่อได้ ต้องไปขอซื้อเมล็ดของเจ้าของสิทธิบัตรเท่านั้น
2.ประเทศในกลุ่ม "ตลาด" สามารถระบุหมวดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องการเปิดเสรีได้ แปลว่าส่วนที่ธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้เลือกไว้ในข้อตกลง จะต้องเปิดเสรีต่อนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด แปลว่า การเปิดเสรีนี้อาจทำให้ธุรกิจบริการมีการแข่งขันสูง เนื่องจากต้องแข่งกับนักลงทุนต่างชาติด้วย
3.เรื่องการขึ้นสิทธิบัตรของยาเช่น บริษัท A มียาพารา ยี่ห้อ A รักษาอาการปวดหัว บริษัท B จะมาขอจะขึ้นสิทธิบัตรมเพื่อไปใช้ผลิตยาพารา ยี่ห้อ B ไม่ได้เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท A ทำให้เกิดการผูกขาดราคายา ส่งผลให้ราคายาแพง