2 พ.ค. 2020 เวลา 08:15 • การศึกษา
เมื่อจับสาวเอ็กซ์หนุ่มล่ำนับสิบมาอยู่รวมกัน...ด้วยกฎสำคัญว่าห้ามมี “SEX”
ในซีรีย์ Too hot to handle (ฮอตนักจับไม่อยู่)
Credit: Capitalfm.com
ซีรีย์สุดฮอตชวนน้ำลายสอจาก Netflix ในพลอตที่ว่า...เมื่อจับ “สาวเอ็กซ์” และ “หนุ่มล่ำ” นับสิบมามัดรวมอยู่กันบนเกาะสวาทหาดสวรรค์ที่บรรยากาศน่าเสียตัวสุดๆ พวกเขาจะทนกันได้สักกี่น้ำ (ผมว่าต้องหลายน้ำแล้วละครับ 555)
แต่กฎเหล็กของงานนี้คือ “ห้ามมี SEX กัน” หรือแม้แต่จูบกัน หรือช่วยให้อีกฝ่ายสุขสมกัน เพราะแต่ละครั้งที่แหกกฎ เงินรางวัลรวม USD100,000 ที่ถูกตั้งเอาไว้จะค่อยๆ ถูกลดลงไปเรื่อยๆ
1
โดยถ้าเกิดเผลอไปซั่มกันถูกหักเงิน USD20,000 เผลอไปจูบกัน USD3,000 หรือเผลอไปกินไอติมกัน USD6,000 ซึ่งตอนเปิดตัวแนะนำซีรีย์ของแต่ละคนที่มาจากหลากหลายชาตินั้น เรียกได้ว่าทุกคนล้วนดูหิวโซอดอยากกันมาทั้งสิ้น
Credit: Netflix
ทั้งๆ ที่รู้ว่าซีรีย์เดินเรื่องไปตามสคริปท์ที่จัดไว้สไตล์ Reality แต่ด้วยความแซ่บของเขาและเธอ บวกกับบรรยากาศของรีสอร์ทในเกาะที่ผ่อนคลายอารมณ์ประหนึ่งได้ไปพักผ่อนในโรงแรม 6 ดาวในวันหยุดยาวแถวหัวหิน ทำให้ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก (มีทั้งหมด 8 EP)
ความเก๋ไก๋อีกอย่างของ Too hot to handle ก็คือ “ผู้คุมกฏ” (หรือจะเรียกว่าผู้ควบคุมกิจกรรมก็น่าจะได้) ในครั้งนี้คือ “Lana” หุ่นยนต์เพศหญิงทรงกรวยคล้ายโคมไฟที่จะคอยบอกว่าต้องทำกิจกรรมอะไรต่อไป…ห้ามทำอะไร...เพราะอะไร...และที่สำคัญ เธอคือผู้ลงโทษ และหักเงินของผู้ร่วมเกมในครั้งนี้หากใครเผลอทำผิดกฎ
"Lana" / Credit: Netflix
นอกจากซีรีย์จะเล่นกับความต้องการพื้นฐานด้านอารมณ์ของผู้เข้าร่วมเกมแล้ว ซีรีย์ยังเล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคนดู ที่ในใจก็จะแอบลุ้นแอบเชียร์ว่าเมื่อไรจะมีสักคู่ที่ยอมแหกกฎแอบไปซั่มกันสักที รวมถึงระหว่างที่ดูอยู่เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องมโนว่า “ถ้าเราเป็น 1 ในเกมนี้...เราจะเลือกใครดี” คนนี้ก็แซ่บ คนนั้นก็ฮอต 555
Credit: Netflix
แล้วความต้องการทางเพศที่ผู้ผลิตซีรีย์เรื่องนี้เอามาเป็นจุดเด่นมันมีกี่ระยะกัน?
ผู้ที่ทำให้โลกรู้จักถึงวัฏจักรการตอบสนองทางเพศ ก็คือ 2 นักวิจัย ดร.วิลเลียมส์ มาสเตอร์ส และ ดร.เวอร์จิเนีย จอห์นสัน (ศึกษาใน ค.ศ. 1950 – 1960) โดยทั้งสองได้ลองสังเกตการณ์ปฏิบัติกามกว่า 10,000 ครั้ง (OMG!) ในห้องปฏิบัติการทดลองผลงานของเขา (สังเกตกันจนตาแฉะเลยนะครับ ทนดูไปได้ไง 555)
Credit: Unilad
โดยได้ข้อสรุปว่า นอกเหนือจากการเป็นตากุ้งยิงแล้ว (อันนี้ล้อเล่นนะครับ อิอิ)
วัฏจักรการตอบสนองทางเพศของมนุษย์นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ และเมื่อเวลาผ่านไป ดร.เฮเลน ซิงเกอร์ แคปแลน (นักบำบัดโรคทางเพศชาวอเมริกันเชื้อสายออสเตรีย และยังเธอเป็นผู้ก่อตั้งคลินิกแห่งแรกใน USA สำหรับความผิดปกติทางเพศ) ก็นำแบบจำลองมาขยายเพิ่มเติมและแบ่งเรื่องนี้ออกดังนี้
1. ระยะความกระหายอยากทางเพศ (Sexual Desire Phase) หรือพลังขับทางเพศ (libido) ซึ่งจะเกิดก่อนมีการกระตุ้นทางกายหรืออารมณ์ ดร.แคปแลน เพิ่มระยะนี้ขึ้นมาเพราะเธอเชื่อว่าอารมณ์ทางเพศจะไปกระตุ้นสารเคมีและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกาย ให้มนุษย์มีความคึกคัก ปึ๋งปั๋ง และตื่นตัวทางเพศนั่นเองครับ
Credit: Netflix
2. ระยะตื่นตัว (Excitement Phase) อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ ช่วงเวลาที่น้องชายแข็งตัวเต็มที่ โดยจะเกิดอาการที่เรียกว่า “วาสโกคอนเจสชัน” (Vascocongestion) หรืออาการที่มีเลือดไหลเอ่อเข้ามาในเนื้อเยื่อจนบวมเต่ง
ฝั่งผู้หญิงอวัยวะเพศจะบวมเต่งและมีการขับสารหล่อลื่นในช่องคลอด เต้านมบวมเต่ง และหัวนมตั้งแข็งชูชัน ส่วนอาการทางกายภาพอื่นๆ ก็เช่น หายใจถี่รัว ร่างกายมีการเกร็ง โดยระยะนี้เกิดจากการกระตุ้นทางกาย ร่วมกับการกระตุ้นทางอารมณ์ ซึ่งเกิดได้ทั้งจากทำด้วยตนเอง หรือให้อีกฝ่ายทำให้ก็ได้
Credit: Netflix
3. ระยะคึกคักเข้มข้น (Plateau Phase) ในระยะนี้การตื่นตัวจะไต่ระดับที่สูงขึ้น คึกคัก เข้มข้น และต่อเนื่องเหมือนปีนขึ้นที่ราบสูง ผู้ชายก็จะมีปฏิกิริยาทางร่างกายก็คือ อาการไหลหยาดเยิ้มที่ปลายน้องชาย โดยสิ่งที่ออกมานั้นจะทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นตัวอสุจิ รวมถึงอัณฑะจะขยายใหญ่ และรั้งมาชิดร่างกายมากขึ้น
Credit: Explore-share.com
4. ระยะบรรลุจุดสุดยอด (Orgasm) ชื่อระยะก็บ่งบอกชัดเจนว่าคืออะไรนะครับ เป็นระยะที่การตอบสนองทางเพศถึงจุดสูงสุด เป็นช่วงที่น้อยที่สุด และเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที โดยมีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งตัวอย่างอัตโนมัติ การเต้นของหัวใจ การหายใจ และความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้นสูงที่สุด และสูดอากาศเอาออกซิเจนเข้าไปอย่างรวดเร็ว
กล้ามเนื้อที่เท้ากระตุกหรือชา ความตึงเครียดจากการมีเพศสัมพันธ์ถูกปลดปล่อยผ่อนคลายลงในทันที ในบางคนอาจมีผื่นแดง หรือตุ่มมีเลือดฝาดปรากฏทั่วร่างกาย (Sex Flush) ในเพศหญิง กล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดเกร็งและบีบตัว มดลูกก็หดเกร็งตัวเป็นจังหวะด้วยเช่นกัน ส่วนในเพศชาย กล้ามเนื้อองคชาตจะเกร็งตัวเป็นจังหวะ และหลั่งน้ำอสุจิออกมา
Credit: Health and Trend
จริงๆ แล้วผมว่าเรื่องเพศศึกษาควรถูกหยิบเอามาพูดคุยกันแบบที่ไม่ต้องกล้าๆ กลัวๆ หรือเขินอายอีกต่อไป อยากให้คิดว่ามันเป็นเรื่องทางกายภาพ และเป็นวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์ควรต้องศึกษา และเรียนรู้ให้ลึกเพื่อจะได้ดำรงชีวิตกันได้อย่างถูกต้อง และถูกสุขอนามัยนะครับ
กลับมาที่ซีรีย์เรื่องนี้...หากลองดูให้ลึกในหลายมิติแล้ว ผมเชื่อว่าคุณจะได้อะไรมากกว่าความบันเทิงทางสายตาแน่นอน ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ การอยู่ร่วมกันในสังคม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ แล้วคุณละครับคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องพรรค์นี้ ???
ขอบคุณที่ติดตามอ่านบทความนี้ รบกวนกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ
โฆษณา