2 พ.ค. 2020 เวลา 09:09 • ไลฟ์สไตล์
สีเขียวสร้างสวรรค์บนดิน
เช้าตรู่ของวันเสาร์ ฉันเดินชมบ้านสวนรักษ์ธรรมเช่นเคย สวนเล็กๆบนพื้นที่ ๓ ไร่ที่พยายามจะจัดสรรให้ใช้พื้นที่ทำการเกษตรให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด
สี่ปีกว่าๆมาแล้วที่ฉันและสมาชิกในครอบครัว พวกเรามีกันแค่ ๓ คนเท่านั้นเอง คือพ่อ แม่ และลูกชายเพียงคนเดียว สามแรงแข็งขันจะมาที่บ้านสวนได้เพียงวันหยุด เพราะวันจันทร์ - ศุกร์ ต้องทำงาน แต่สัปดาห์นี้โชคดีที่ได้หยุดถึง ๓ วัน พวกเราจึงรีบเก็บสัมภาระมาพักที่บ้านสวนตั้งแต่ตอนสายๆ ของวันศุกร์
ฉันชอบมาพักอยู่ที่บ้านสวนเพราะ "สีเขียว" มันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น สงบ และมีความสุข บรรยากาศที่สงบ มีแต่เสียงนกนานาชนิดส่งเสียงตั้งแต่เช้าตรู่จรดมืดค่ำ บ้างก็บินไปจิกกินหนอนและแมลงตามต้นไม้ ดูพวกมันมีความสุขดี ที่จริงแล้วถ้าพวกเราไม่อยู่ บรรดานกเหล่านี้อาจมีความสุขแบบยากเกินจะบรรยาย
ทุกครั้งที่ฉันเดินชมต้นไม้ในสวน ก็จะไม่ลืมพกโทรศัพท์ติดมือไปด้วย เพราะฉันชอบถ่ายภาพทุกๆมุมของบ้านสวนรักษ์ธรรมเก็บเอาไว้ดู บรรยากาศของบ้านสวนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะต้นไม้แต่ละชนิดโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันอดยิ้มไม่ได้สักครั้ง เมื่อเดินเอามือไปสัมผัสกิ่งใบ ดอก ผลของต้นไม้ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่ บางต้นก็เพิ่งงอกใหม่ แล้วก็คุยกับพวกมันเบาๆ เพื่อให้กำลังใจว่า "โตเร็วนะ" ถ้าต้นไหนดูท่าทางร่อแร่ก็ปลอบใจเบาๆ ว่า "สู้ๆนะ" ต้นไม้นานพรรณได้แต่งแต้ม "สีเขียว"ให้บ้านสวนรักษ์ธรรมของพวกเรา "สีเขียว" ช่างทำให้จิตใจของฉันเบิกบาน ฉันมีความสุขกับสีเขียวเหมือนได้เดินอยู่บนสวรรค์ แม้ว่าอีกไม่กี่นาทีจะต้องสัมผัสกับไอร้อนที่ระอุยามกลางวัน แต่ก็ยังมีสีเขียวช่วยบรรเทาความร้อนได้มาก
กระเพราและต้นหว้าข้างๆสระน้ำในสระก็เลี้ยงปลาอยู่หลายชนิด
เช้านี้ฉันรีบตักน้ำในสระไปรดต้นพริกเล็กๆที่เพิ่งแยกออกไปใส่หลุมปลูก อากาศที่ร้อนจัดตอนกลางวันอาจทำให้พริกเฉาและถ้ามันทนแสงแดดเผาไม่ไหว ก็ไม่รอดมาผลิดอกออกผลให้ฉันได้กินแน่ๆ ข้างๆต้นพริกก็ปลูกบวบไว้หลายต้น มะเขือพวงอีก ๒-๓ ต้นก็กำลังแตกกิ่งใหม่เพราะฉันเพิ่งตัดแต่งกิ่งไปเมื่อ ๒ สัปดาห์ที่แล้ว
จากนั้นฉันก็เดินไปแวะชมต้นทับทิมเล็กๆ ที่ปลูกไว้แต่ไกลรัศมีของสปริงเกอร์ ฉันถือบัวรดน้ำมาด้วย ต้องช่วยรดน้ำเพิ่มให้มันสักหน่อย ให้แน่ใจว่าต้นทับทิมตั้งหลักได้ก่อน
เดินต่อเข้ามาในป่า ที่เรียกว่าในป่านี่เพราะอยากมีป่าเป็นของตัวเอง จึงปลูกต้นไม้ป่าไว้เต็มไปหมด ฉันชอบเข้ามาอยู่ในป่าตรงนี้เป็นเวลานานๆ ถ่ายภาพต้นไม้ไปพลางเดินชมต้นไม้ไป เพลิดเพลินอย่างที่สุด
เพื่อให้เวลาช่วงเช้าก่อนอากาศร้อนอบอ้าวได้ใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด พลางก็เดินกลับที่พักแล้วหยิบมีดเล่มใหญ่คู่ชีพ เพื่อตัดต้นมันห้านาทีมาปลูกเพิ่ม ได้ท่อนมันสำหรับปลูกกองโต นำไปแช่น้ำไว้ก่อนเพราะต้องปลูกในตอนเย็นจะดีกว่า
เตรียมตัดท่อนมันห้านาทีขนาดยาวประมาณ ๑ ฟุตเอาไปปลูก
มาถึงคิวต้นผงชูรสบ้าง พุ่มของมันเริ่มสูงใหญ่ และไปบังต้นไม้ข้างๆ จึงต้องตัดแต่งกิ่ง แล้วเอากิ่งแก่ๆมาตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ ๑ ฟุต เพื่อนำไปปลูกต่อในตอนเย็น
กว่างานสวนตอนเช้าจะเสร็จก็เกือบ ๑๑ โงเช้าทีเดียว เริ่มหิวข้าวนิดหน่อย ฉันจึงแวะเด็ดยอดผงชูรสติดมือกลับมาด้วย มื้อกลางวันวันนี้ฉันรีบลงมือผัดเผ็ดปลาดุกใส่ยอดผงชูรสแทนผักตลาด ปรุงรสแล้วตักขึ้นมาชิม พลางนึกในใจรสชาติจะเป็นอย่างไรหนอ ชิมแล้วก็ทำตาโต "ว้าว! อร่อย"
ยอดผงชูรส
พวกเราพักกินข้าวเที่ยงอย่างเอร็ดอร่อย อ้อ! ยังมีน้ำพริกลูกมะอึก กับต้มหัวปลีอีกด้วย เป็นมื้อเที่ยงที่อร่อยและปลอดภัย เที่ยงวันนี้อากาศร้อนมากเหลือเกิน ดีนะที่มี "สีเขียว" ของต้นไม้ใหญ่น้อยคอยสร้างคลายร้อนให้พวกเรา
ป่าเล็กๆที่แต่งแต้มสีเขียวให้บ้านสวนรักษ์ธรรม
โฆษณา