2 พ.ค. 2020 เวลา 12:37 • การศึกษา
วันหยุด มีเรื่องเบา ๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ
พระพายเรือบิณฑบาต
ไปเจอรูปในเน็ตก็เลยเกิดความสงสัยปนทึ่ง ในวิถีชีวิตของคนสมัยอดีต รูปที่ว่าคือเรือ รูปทรงแหลม เรียว ยาว คงนั่งได้คนเดียวเท่านั้น และในรูปมีพระพายเรือนี้ไปบิณฑบาต ซึ่งอาจเป็นที่คุ้นตาสำหรับคนที่อยู่บ้านริมน้ำ ริมคลอง แต่คนยุคใหม่คงไม่ทันได้เห็นแล้ว
จำได้ว่าเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว เคยเห็นพระพายเรือไปบิณฑบาต แถว ๆ วัดจันทร์ประดิษฐ์ วัดปากน้ำ ซึ่งเป็นคลองภาษีเจริญและคลองเล็ก คลองน้อยที่เชื่อมโยงกับคลองภาษีเจริญ และมาเห็นอีกทีตามแม่น้ำท่าจีน เมื่อรีสอร์ทจัดให้แขกที่มาพักได้ตักบาตรยามเช้า
แต่เรือที่เห็นก็ใหญ่กว่าเรือในรูปนี้พอสมควร และสั้นทู่กว่ามาก รวมถึงเป็นที่น่าสังเกตว่าพระที่พายเรือจะค่อนไปทางมีอายุ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าต้องเก๋าประสบการณ์พอสมควร ถ้าเป็นพระหนุ่มเณรน้อย ยังอ่อนพรรษา เรืออาจล่มตั้งแต่ยังไม่พ้นหลังวัด
ที่พูดแบบนี้ เพราะสังเกตว่าวัดที่มีพระพายเรือบิณฑบาต จะต้องอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ ติดคลองหรือแม่น้ำ การสัญจรไปมาใช้ทางน้ำเป็นหลัก ยิ่งสมัยก่อนถนนหนทางและรถยนต์ไม่มากมาย เรือจึงเป็นพาหนะสำคัญที่ต้องมี น้ำขึ้น น้ำลงเอ่อท่วมวัดก็ไม่มีปัญหาการเดินทางแต่อย่างใด และพระต้องพายเรือเป็น คงชำนาญพอ ๆ กับฝึกวิทยายุทธ์ของวัดเส้าหลินนั้นล่ะ
ตกมาสมัยนี้ ความเจริญอาศัยถนนหนทาง บ้านติดคลอง ที่ดินติดคลองกลายเป็นห่างไกลความทันสมัย พระพายเรือบิณฑบาตเลยพบเห็นได้ยาก และคงเหลือแต่พระรุ่นหลวงพ่อหลวงตาเป็นส่วนมาก
เรือนี้ ลำเล็กมากซึ่งไม่แน่ใจว่าชื่อ "เรือเข็ม" หรือเรียกว่าเรืออะไร พระที่จะพายได้ให้รอดปลอดภัย ได้กลับมาฉันข้าวที่วัด ต้องมีฝึมือไม่ธรรมดา หมายความว่า สมาธิต้องดี ตั้งแต่ลงเรือจนขึ้นจากเรือ พายไปไม่วอกแวก เหลียวซ้าย แลขวา จับจ้องอยู่ที่การเคลื่อนไหวของแขนกับพาย การเข้าเทียบท่าเพื่อรับบาตร การออกจากท่า มองไปข้างหน้าแต่พอประมาณให้เห็นสภาพแวดล้อมของเส้นทางเดินของเรือ.. ถ้าเผลอสติหลุด หันไปสะดุดลูกสาวโยมที่ใส่บาตร คงได้ฉันข้าวคลุกน้ำคลองอย่างแน่นอน..
คนโบราณ ช่างลึกซึ้งในการดำเนินชีวิตเสียนี่กระไร แม้แต่เรือลำเดียวยังสร้างพระดี ๆ ขึ้นมาได้... หรือใครมีความคิดเห็น ข้อมูลเพิ่มเติม เข้ามาแชร์กันได้นะครับ
โฆษณา