3 พ.ค. 2020 เวลา 09:09 • ไลฟ์สไตล์
อนุบาลแอร์โฮสเตส (4: ไฟล์ททดลองบิน Supy)
Supy Flight
ซูปี้ หรือในอีกความหมายง่ายๆ ก็คือ ไฟล์ททดลองบิน เป็นไฟล์ทบินไปกลับประเทศใกล้ๆ ที่จะให้แอร์มือใหม่ซึ่งเพิ่งเรียนจบทดลองเป็นผู้ช่วยแอร์ก่อนปฎิบัติงานจริง ส่วนมากก็มีโดนรับน้องกันแทบทุกคน
ซูปี้ของเจ้านาย ฉันอดไปด้วยอย่างน่าเสียดายเพราะไม่ได้มีการพักแรมที่เมืองนั้นๆ แต่เป็นการบินไปและกลับอย่างที่บอกไป บางทีฉันเองก็แอบอิจฉากระเป๋าลากอย่าง NIHON นะที่ได้ไปไหนทุกที่กับเจ้านาย การถูกทิ้งให้อยู่ใบเดียวมันเหงาอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้ฉันจะไม่พูด แต่ NIHON เหมือนจะรู้ดีว่าฉันเองแอบน้อยใจ เธอก็พยายามมาเล่าเรื่องราวข่าวสารให้ฉันรู้สึกไม่เหงา เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเสมอ เพราะเรามีกันอยู่แค่สองใบ
วันนี้เป็นวันหยุดเตรียมตัว เหลืออีกไม่ถึง 24 ชั่วโมง เจ้านายจะเริ่มติดปีกในซูปี้ไฟล์ทครั้งแรกของเธอ
เธอดูตื่นเต้น จัดของตามรายการที่จดไว้ จัดแล้วจัดอีก นับแล้วนับอีก จน NIHON เวียนหัวเหมือนกัน
“รองเท้า มีแล้ว”
“ชุดกันเปื้อน มีแล้ว”
“ถุงมือ มีแล้ว”
“ครบแล้วนี่ เอ้! ขาดอะไรอีกรึเปล่าน้อ รื้อจัดอีกรอบแล้วกัน รองเท้า มีแล้ว ชุด…..”
เธอทำแบบนี้อยู่เป็นสิบรอบ NIHON ก็อ้าปากกระเป๋าจนน้ำลายยืดเลยทีเดียวเชียวกว่าเจ้านายจะจัดของเสร็จ
เธอเช็คตารางบินอีกรอบ ซูปี้ไฟล์ทแรกของเธอ TRIVANDRUM, INDIA และเมื่อไฟล์ทแรกมาถึง…..
ส่วนใหญ่เพื่อนๆ คนอื่นจะได้บินไฟล์ทแรกด้วยกัน มีส่วนน้อยเท่านั้นที่ต้องฉายเดี่ยว เจ้านายก็เป็นหนึ่งในส่วนน้อยนั้นด้วย ว่าไหมคนเรายิ่งกลัวอะไรมักยิ่งเจอ ถ้าไม่สู้ก็เป็นได้แต่ผู้แพ้
NIHON เล่าว่า เธอเดินเข้าไปในห้องประชุม เจอเพื่อนๆ พี่ๆ แอร์ทุกคนแนะนำตัว Purser หรือหัวหน้าลูกเรือดูสุขุมสมวัย เขาแนะนำเธอแก่ลูกเรือทุกคนในไฟล์ท ติดป้ายแดงให้เธอว่าเป็นมือใหม่หัดบิน และพูดเรื่องรายละเอียดของไฟล์ทนี้ต่อไป
“ผมหวังว่า ทุกคนคงยังจำไฟล์ทแรกของตัวเองได้ และคงเข้าใจความรู้สึกตื่นเต้น ความประหม่าได้อยู่ ผมจึงอยากขอให้ทุกคนช่วยดูแลน้องใหม่ของเราด้วย”
เจ้านายใจชื้น และรู้สึกดีใจที่ได้หัวหน้าที่เข้าใจเธอ
“อ้อ ผมมีอีกเรื่องหนึ่ง วันนี้บนไฟล์ทนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะมีผู้จัดการร่วมบินกับพวกเราด้วย ท่านบินกลับในช่วงพักร้อนเพื่อเยี่ยมครอบครัว ไม่ทราบว่าท่านเป็นผู้จัดการส่วนตัวของลูกเรือคนไหนหรือเปล่า ท่านชื่อคุณ ราแอม ตีตี้” (นามสมมติ)
ทุกคนในห้องนั่งเงียบ รู้สึกโชคดีที่ไม่ใช่ผู้จัดการของตัวเอง สักพักก็มีเสียงเล็กๆ เบาๆ ดังขึ้นว่า
“อุแว้ ผู้จัดการหนูเองค่ะ”
ทุกคนในห้องหัวเราะพร้อมกันดังลั่น ขำในชะตากรรมที่เล่นตลกกับเธอผู้นี้ น่าสงสารที่เธอผู้นี้ ก็คือเจ้านายของฉันเอง ไฟล์ทแรกของการทำงานวันแรกก็มีผู้จัดการตัวเองมาขึ้นไฟล์ทเสียแล้ว หน้าซีดไปเลยเจ้านายเรา
พอขึ้นเครื่อง เธอเรียนรู้ที่จะเตรียมของต่างๆ เพื่อต้อนรับผู้โดยสาร พวกเพื่อนๆ แอร์และสจ๊วตรุ่นพี่ก็ชวนเธอคุยตลอด นิโคล่าคอยสอนและช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เซบาสเตียนคอยปล่อยมุกขำให้เธอคลายเครียด และอีกคนที่ขาดไม่ได้ อามาน นายคนนี้กุมความลับของเจ้านายอยู่
บินไฟล์ทแรกก็เจอคำถามยากๆ เลย ผู้โดยสารถามเรื่องเวลา เธออ้ำอึ้งพยายามบวกลบคูณหาร นายอามานนี่แหละที่ช่วยชีวิตเธอไว้
ลูกเรือหลายเชื้อชาติกับผู้โดยสารชาวอินเดีย ช่วงเวลาบ่ายๆ กับความตื่นเต้นที่จะได้นั่งในห้องนักบินครั้งแรก
เป็นกฎที่ลูกเรือไฟล์ทหัดบินทุกคนจะต้องนั่งในห้องนักบินตอนเครื่องออกหรือลงจอด ทั้งนี้เพื่อเข้าใจอุปกรณ์ฉุกเฉินบางชิ้นในห้องคนขับนี้ และก็อาจเพื่อให้ชมวิวประทับใจก็เป็นได้
เธอหยิบกล้องออกมาเก็บภาพผืนดินที่เธอเพิ่งเหยียบอยู่เมื่อ2นาทีที่แล้ว ตอนนี้เธออยู่เหนือมันเกือบ 2,000 ฟุตได้ ความตื่นเต้นยังไม่ทันหาย สัญญาณรัดเข็มขัดก็ดับลง เธอรู้ทันใดว่าต้องออกไปช่วยงานเพื่อนๆ แล้ว
แม้เธอจะเสิร์ฟน้ำและอาหารได้ช้ากว่าเพื่อนๆ แต่หัวหน้าลูกเรือชั้น Economy ก็ปริปากชมเธอตลอดว่าช่วยงานได้มาก เธอยิ้มแก้มปริ
ช่วงพักกินข้าว มีแขกจาก Business มาเยี่ยมเธอ นายอามานนั่นเอง แม้ตัวเองจะเป็นลูกเรืออยู่ในชั้น Business แต่ก็เดินมาคุยเล่นกับทุกคนในชั้นประหยัดอยู่บ่อยๆ บ่อยครั้งที่อามานพยายามส่งสายตาให้เจ้านาย เจ้านายเองก็รู้สึกแปลกๆ เจ้าหมอนี่มันยังไงกันแน่ ในห้องประชุมก็เห็นชอบแอบมองแล้วก็ยิ้มๆ นี่อย่าบอกนะ ว่า……?
“เธอเกิดวันที่ 29 เดือน 2 ใช่ไหม” อามานเริ่มปล่อยคำถามที่อมมานาน
“นี่รู้ได้ยังไงเหรอ ใครบอกคุณ” เจ้านายตกใจ
“แล้วเธอก็เมาหัวราน้ำในงานปาร์ตี้ฉลองเรียนจบที่สายการบินจัดให้ด้วยใช่ไหม” อามานหัวเราะก๊าก
“……..” เจ้านายอึ้ง
แบบนี้นี่เอง มิน่าละ อามานพยายามจะชวนเจ้านายคุยเหลือเกิน เป็นเพราะหมอนี่กุมความลับของเธออยู่นี่เอง ความลับที่เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าตานี่ไปรู้มาได้อย่างไร เรื่องวันเกิดฉันพอเดาได้ อามานคงดูมาจากแผ่นประวัติลูกเรือที่ Purser ทุกคนต้องมีก่อนขึ้นบินไฟล์ทนั้นๆ แต่เรื่องที่สองนี่สิ เดายังไงก็เดาไม่ออก
“ฉันเป็นรูมเมทของราโมน เพื่อนในชั้นเรียนเดียวกันกับเธอไงละ พอราโมนรู้ว่าเธอบินไฟล์ทนี้กับฉัน เขาก็จัดแจงแฉความในของเธอจนหมดสิ้น วะฮ่าๆ” อามานหัวเราะเยาะ
เจ้านายเริ่มหน้าแดงพูดอะไรไม่ออก คงนึกไม่ถึงล่ะสิว่าจะมีคนรู้ความลับอันน่าอับอายที่เธอไปดื่มจนขาดสติ แล้วมุดโต๊ะร้องไห้คิดถึงปะป๊ามะม้าอยู่ในผับจนเพื่อนๆ ต้องหามกลับบ้าน อย่าหาว่าฉันเป็นกระเป๋าไม่เข้าข้างเจ้านายเลยนะ แต่อยากจะหัวเราะให้ล้อหัก สุราไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นหรอก น้องๆ หนูๆ ที่อ่านอยู่อย่าทำตามนะจ๊ะ
คุยกันได้สักพัก ผู้จัดการส่วนตัวของเธอก็มาเยี่ยมที่ด้านหลัง คุยถามเรื่องราวความรู้สึกการบินไฟล์ทแรกของเธอ เธอทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่ลืมพกความกล้าถามเรื่องขอลาหยุดกลับไปรับปริญญาในอีกสองเดือนข้างหน้า คำตอบที่เธอได้ ก็ไม่ต่างจากที่หวัง ไม่สิ ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยต่างหาก
“ลองคุยเรื่องนี้กับผมอีกทีแล้วกัน”
ราแอมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และรอยยิ้มที่ไม่แสดงอารมณ์ ฉันเคยได้ยินเจ้านายพูดในโทรศัพท์กับพ่อแม่เธอเสมอว่า ถ้าผู้จัดการไม่อนุญาตให้เธอกลับไทยไปรับปริญญา มอว่า เธอยอมลาออกเพื่อกลับไปรับปริญญา แม้ทุกคนจะหาว่าเธองี่เง่ามากก็ตามที่ยอมสละงาเธอจะยอมลาออก แม้ทุกคนจะหาว่าเธองี่เง่ามากก็ตามที่ยอมสละงานที่จาก 2,000 จะมีเพียง 20 คนเท่านั้นที่ได้รับเลือก เธอรู้ดีว่าสำหรับเธออะไรสำคัญที่สุด เธออยากเห็นพ่อแม่และยายมีความสุขในวันรับปริญญา
เหตุผลนี้มันยากที่คนอื่นจะเข้าใจ และการตัดสินใจช่างเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน เจ้านายใช้ความรู้สึกล้วนๆ
เมื่อเครื่องใกล้แลนด์ ก็เป็นอีกครั้งที่เธอได้เข้าไปนั่งชมวิวในห้องนักบิน แต่จริงๆ แล้วเธออยากจะอยู่กับเพื่อนๆลูกเรือในห้องโดยสารมากกว่า เพราะจะได้มีโอกาสเรียนรู้งานไปด้วย
ออกบินมาตั้งแต่บ่าย ถึงอินเดียก็เย็นแล้ว ขาบินกลับอาหรับก็เป็นเวลาเกือบตีสอง เธอเริ่มโงนเงนเพราะปกติเวลานี้เธอคงกำลังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มนอนหลับปุ๋ย วันนี้เป็นวันแรกที่เธอออกมาท่องราตรีอยู่บนท้องฟ้า
เมื่อเครื่องจอด ทุกคนต่างแยกย้ายกลับ เธอเองก็เช่นกัน
“กลับด้วยกันไหม ราโมนก็จะกลับกับฉัน พอดีไฟล์ทเขาลงเวลาเดียวกันพอดี นั่งรถไปด้วยกันแต่เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ตึกก่อน” อามานยื่นข้อเสนอ
เธอเองก็ยังไม่คุ้นกับระบบรถบัสลูกเรือของที่นี่เพราะเป็นครั้งแรกที่นั่ง ยังไม่รู้สายไหนไปตึกไหน เลยตอบตกลง เพราะคิดว่าอย่างน้อยมีเพื่อนนั่งรถบัสกลับด้วยกันก็อุ่นใจกว่า
“ได้สิ ดีเลย จะได้ทักทายราโมนด้วย”
ที่ไหนได้ นายอามานขับรถออกมา เธอเลยได้ติดรถเพื่อนใหม่คนนี้กลับบ้านสบายไป นับเป็นมิตรภาพและความทรงจำที่ดีสำหรับไฟล์ทแรกของเธอ ที่มีทั้งผู้จัดการส่วนตัวขึ้นเครื่อง แถมเจอเพื่อนร่วมงานที่เอาความลับมาแฉ เท่านั้นไม่พอยังเกิดเหตุการณ์สัญญาณไฟไหม้ดังขึ้นเพราะมีผู้โดยสารแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ นับเป็นไฟล์ทซูปี้แรกที่น่าประทับใจจริงๆ จนเธอแทบจะทนรอไปบินไฟล์ทซูปี้ที่สองเสียไม่ไหว ทนไม่ไหวจนกระทั่ง….
บ่ายของวันรุ่งขึ้น ฉันเห็นเธอแต่งตัวออกไปอีกครั้ง แล้วก็กลับมาภายในไม่ถึงชั่วโมง
(ฟิ้ว……..ฟิ้ว……เสียงลมพัด)
เธอไปผิดวัน!
สงสัยว่าคงรอไม่ไหว อยากบินจัด เลยไปเร็วกว่าตาราง 1 วัน คิก คิก กลับมาหน้าจ๋อยทีเดียว
ไฟล์ทSupy แรกในชีวิต
ซูปี้ไฟล์ทที่สอง ISTANBUL, TURKEY
ว่ากันว่า มีดีก็ต้องมีร้าย ถ้าไฟล์ทแรกพบเจอแต่คนดีๆ ไฟล์ทนี้ก็คงมีหายนะรอเธออยู่
ช่างเป็นไฟล์ทที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย หัวหน้าของเธอติการทำงานของเธอไปทุกอย่าง ซึ่งตรงข้ามกับไฟล์ทแรกโดยสิ้นเชิง เพื่อนๆ ก็ทำงานตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยมีใครยื่นมือช่วยใคร แต่ถึงแม้มันจะเป็นฝันร้าย มันก็ช่วยทำให้เธอเรียนรู้เรื่องการทำงานมากขึ้น ว่าตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน เราจะไปหวังพึ่งใครแบบเด็กๆ ไม่ได้ ดังนั้นเธอต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นแอร์มืออาชีพให้เร็วที่สุด
จบไฟล์ทนี้ ทุกคนก็แยกย้ายกลับ ไม่มีใครกล่าวลาใคร เธอกลับตึกด้วยอารมณ์เศร้าๆ เธอยังไม่รู้หรอกว่าภายในอีกไม่กี่วัน ไฟล์ทแรกในชีวิตที่เธอปฏิบัติงานในฐานะลูกเรือเต็มตัวกำลังจะมาถึง รวมทั้งเป็นไฟล์ทแรกของฉันที่จะได้ทำหน้าที่กระเป๋าเดินทางของแอร์โฮสเตสครั้งแรกด้วย และที่สำคัญ เธอคงไม่รู้หรอกว่าสถานที่ที่เธอได้รับมอบหมายให้ไปบินค้างคืนคือ………………………….
โฆษณา