3 พ.ค. 2020 เวลา 09:10 • การศึกษา
มาดูกันว่าเพื่อนบ้านเรามีเรือดำน้ำกันกี่ลำ
มาดูความขุมกำลังของเรือดำน้ำของแต่ละชาติกันดีกว่า
สิงคโปร์ เรือดำน้ำชั้น Type 218SG เป็นเรือดำน้ำประเภทหนึ่งที่มีระบบขับเคลื่อนที่ไม่เป็นอิสระซึ่งสั่งโดยกองทัพเรือสิงคโปร์จาก ThyssenKrupp Marine Systems Type 218SG ออกแบบมาจากเรือดำน้ำแนวคิด Type 216 จาก Howaldtswerke-Deutsche Werft ซึ่งไม่เคยมีการผลิตมาก่อน
กำลังขับเคลื่อนติดตั้ง: 2x120kW PEM fuel cells
พนักงาน: 28
ความเร็ว: Submerged: 15 นอต (28 กม./ชม.; 17 ไมล์/ชม.), Surfaced: 10 นอต (19 กม./ชม.; 12 ไมล์/ชม.)
ความยาว: 70m
ราคา 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ลำ
มีประจำการทั้ง 4 ลำ มีแผนจัดซื้ออีก 2 ลำ
สิงคโปร์ถือเป็นชาติที่สองในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำ
Type 218SG
มาเลเซีย เรือดำน้ำScorpèneเป็นชั้นหนึ่งของเรือดำน้ำโจมตีดีเซลไฟฟ้าที่พัฒนาร่วมกันโดย บริษัท Direction des Constructions Navales ของฝรั่งเศสและ บริษัท Navantia ของสเปนมีแรงขับดีเซล
ความเร็ว: 20 นอต (37 กม./ชม.; 23 ไมล์/ชม.) (submerged); 12 กิโลนิวตัน (22 กม./ชม.; 14 ไมล์/ชม.) (surfaced);
ความยาว: : 61.7 เมตร (202 ฟุต 5 นิ้ว) (CM-2000); 70 เมตร (229 ฟุต 8 นิ้ว) (AM-2000); 75 เมตร (246 ฟุต 1 นิ้ว) (S-BR);
ราคา 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ลำ
มีประจำการทั้ง 2 ลำ มีแผนจัดซื้ออีก 4 ลำ
มาเลเซียถือเป็นชาติที่สี่ในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ
Scorpène
เวียดนาม เรือดำน้ำชั้นกิโล Kilo class, Soviet designation Project 877 Paltus เป็นเรือดำน้ำโจมตีดีเซลไฟฟ้าที่ออกแบบและสร้างขึ้นในสหภาพโซเวียตสำหรับกองทัพเรือโซเวียต มันถูกผลิตจนถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 เมื่อการผลิตถูกเปลี่ยนไปใช้โครงการ Project 636 Varshavyanka ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า Improved Kilo-class
กำลังขับเคลื่อนติดตั้ง: Diesel–electric transmission
ความเร็ว: Surfaced: 17 นอต (31 กม./ชม.; 20 ไมล์/ชม.); Submerged: 20 นอต (37 กม./ชม.; 23 ไมล์/ชม.)
ความยาว: 70.0–73.8 เมตร (229 ฟุต 8 นิ้ว–242 ฟุต 2 นิ้ว)
ราคา 200-250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ลำ
มีประจำการทั้ง 6 ลำ
เวียดนามถือเป็นชาติที่ห้าในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ
Kilo class
เมียนมาร์ หรือ พม่า เรือดำน้ำชั้นกิโล Kilo class, Soviet designation Project 877 Paltus เป็นเรือดำน้ำโจมตีดีเซลไฟฟ้าที่ออกแบบและสร้างขึ้นในสหภาพโซเวียตสำหรับกองทัพเรือโซเวียต มันถูกผลิตจนถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 เมื่อการผลิตถูกเปลี่ยนไปใช้โครงการ Project 636 Varshavyanka ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า Improved Kilo-class
กำลังขับเคลื่อนติดตั้ง: Diesel–electric transmission
ความเร็ว: Surfaced: 17 นอต (31 กม./ชม.; 20 ไมล์/ชม.); Submerged: 20 นอต (37 กม./ชม.; 23 ไมล์/ชม.)
ความยาว: 70.0–73.8 เมตร (229 ฟุต 8 นิ้ว–242 ฟุต 2 นิ้ว)
ราคา 200-250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ลำ
ได้จากประเทศอินเดีย โดยเป็นเรือ INS Sindhuvir
มีจำการ 1 ลำ
พม่าถือเป็นชาติที่หกในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ
Kilo class
ส่วนไทยเองก็กำลังจัดซื้อ Yuan Class S26T ของประเทศจีน
Yuan Class S26T
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ทันเพื่อนบ้าน ไทยเคยมีเรือดำน้ำซึ่งเป็นชาติที่ 2 ในเอเชียแต่เป็นชาติแรกในอาเซียนที่มีเรือดำน้ำเข้าประจำการได้แก่ ร.ล.มัจฉาณุ, ร.ล.วิรุณ, ร.ล.สินสมุทร และร.ล.พลายชุมพล โดยทั้ง 4 ลำได้ปฏิบัติการในอ่าวไทยหลายครั้งตั้งแต่สงครามอินโดจีนทั้งการรับและส่งสายลับพลพรรคขบวนการเสรีไทย และการโจมตีเรือของฝ่ายอักษะด้วยตอร์ปิโดซึ่งได้ปลดประจำการแล้วทุกลำในปี พ.ศ. 2494 เนื่องด้วยอายุการใช้งาน
เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำต่อที่อู่ต่อเรือ บริษัท มิตซูบิชิ ที่เมืองโกเบ
เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำต่อที่อู่ต่อเรือ บริษัท มิตซูบิชิ ที่เมืองโกเบ เมื่อปี 2479 ในสนนราคาลำละ 882,000 บาท
reference : wikipedia.org

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา