5 พ.ค. 2020 เวลา 04:11 • ความคิดเห็น
แพ้ตั้งแต่เริ่มอิจฉา
ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่เพราะว่าคุณอาจจะได้ไปเห็นชีวิตของคนอื่นที่มีความเป็นอยู่ที่มันดีกว่าคุณ ดูเขาเหล่านั้นมีความสุขกว่าที่คุณมี
ให้คุณรู้ตัวไว้เลยว่าคุณกำลังเกิดความรู้สึก“อิจฉา”อยู่ในใจ
ความอิจฉามักเกิดจากความคิดที่ว่า “ทำไมเขามีแต่ทำไมเราไม่มี” เป็นการเอาตัวเองเข้าไปเปรียบเทียบว่า “เขาดีกว่า เราด้อยกว่า”
วันนี้อยากจะมานำเสนอมุมมองของความอิจฉาที่ทุกคนรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่ควรกำจัดมันออกไปจากจิตใจ แต่หากว่าเรากำจัดมันออกไปไม่ได้ เราก็สามารถหาวิธีอยู่ร่วมกับมันอย่างมีความสุขได้เช่นกัน
หากสังเกตให้ดีเราจะพบว่า"ความอิจฉามันจะเกิดขึ้นเมื่อเราเห็นผู้อื่นมีความสุข"เพราะคงไม่มีใครอิจฉาผู้ที่กำลังเป็นทุกข์อยู่จริงไหม
และความอิจฉานี้ก็มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เรารู้สึกว่าเขาอยู่ระดับเดียวกับเราด้วย เช่น คุณอาจจะเห็นนักลงทุนเก่ง ๆ ที่เขาทำกำไรอย่างมหาศาล แต่คุณจะไม่รู้สึกอิจฉาเขาเท่ากับว่าคุณเห็นเพื่อนร่วมงานของคุณได้ขึ้นเงินเดือนสูงกว่าคุณ เป็นต้น
ความอิจฉามันจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีก็ต่อเมื่อคุณเอามันมาเป็น“แรงต้าน” ทำให้คุณไม่พอใจกับสิ่งที่คุณเป็นอยู่
แต่หากคุณนำมันมาใช้ในทางที่ดีมันจะกลายเป็น“แรงขับ”ที่ดีอย่างหนึ่งเพื่อให้คุณก้าวไปสู่เป้าหมายได้ไวขึ้น
หากคุณหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่อยากจะเอาชนะคนที่คุณอิจฉาให้รู้ไว้ว่า
“คุณแพ้ตั้งแต่อิจฉาเขาแล้ว”
เพราะว่าเวลาที่คุณอิจฉาภายในจิตใจของคุณจะเต็มไปด้วยความทุกข์ คนที่คุณอิจฉาเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยและเขาก็คงไม่ได้มานั่งทุกข์จากการที่โดนคุณอิจฉาแน่นอน
การที่คุณกำลังเป็นทุกข์ก็เหมือนกับคุณกำลังแพ้คนที่คุณอิจฉาอยู่ เพราะว่าคุณไม่พอใจในชีวิตของตนเองคิดว่าคุณด้อยกว่าเขา อยู่ต่ำกว่าเขา คุณถึงรู้สึกอิจฉาเขาจริงไหม?
ฉะนั้นแทนที่คุณจะผูกใจให้เป็นทุกข์จากการอิจฉาผู้อื่น ลองเปลี่ยนมันมาเป็นพลังให้คุณพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม ใช้มันให้เกิดประโยชน์
หากคุณคิดว่าตัวเองยังมีไม่พอก็จงพัฒนาตนเองให้สามารถไปถึงระดับที่คุณต้องการหรือไปในจุดที่คุณมีความสุขให้ได้
สิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ว่า"คุณจะชนะเขาได้ไหมแต่มันอยู่ที่ว่าคุณชนะใจตัวเองได้หรือยัง"
#บทความเพื่อชีวิต
โฆษณา