4 พ.ค. 2020 เวลา 06:56 • การศึกษา
#การจัดการเรียนรู้ที่เน้นความแตกต่างของผู้เรียนที่แท้จริง
วันนี้ขอนำเสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียน Central Normal School โรงเรียนแห่งแรกและดีเด่นของเมือง Palmerston North, NZ
การแบ่งกลุ่มตามความถนัดของผู้เรียนในการเรียนแต่ละบุคคล
จากภาพประกอบเป็นการแบ่งประเภทของนักเรียนตามความต้องการและศักยภาพของแต่ละบุคคล
สิ่งแรกครูจะต้องรู้จักนักเรียนทุกคนว่ามีศักยภาพในการเรียนรู้และความต้องการในการเรียนรู้อย่างไร ในทุกห้องเรียนของโรงเรียนจะมีกระดาษอย่างนี้ติดอยู่ที่ผนังทุกห้อง โดยครูจะแบ่งกลุ่มของนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ตามศักยภาพของแต่ละคน ดังนี้
1. กลุ่มนักเรียนทีต้องการการกำกับในการเรียน (Directed Learners)
คือกลุ่มนักเรียนที่ต้องคอยแนะนำอยู่ตลอดเวลาในเรื่องการเรียน การงานและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ต้องการแบบอย่างให้ดูก่อนปฏิบัติ อาจมีทักษะในการสื่อสารน้อย และไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง กลุ่มนี้ครูต้องติดตามและให้การสนับสนุนการเรียนรู้เป็นพิเศษ
2. กลุ่มนักเรียนที่แนะแนวทางในการเรียน (Guided Learners)
คือ กลุ่มนักเรียนที่มีความรับผิดชอบหรือรู้หน้าที่ในระดับหนึ่ง รู้ว่าสิ่งใดที่ดีสำหรับการเรียนรู้ของตน มีความรับผิดชอบ มีความมั่นใจ สามารถทำงานเป็นกลุ่ม และแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง เป็นต้น นักเรียนกลุ่มนี้เพียงต้องการแนวทางจากครูในบางโอกาสสำหรับการเรียนรู้ของตน
3. กลุ่มนักเรียนที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง (Self Directed Learners)
คือ กลุ่มนักเรียนที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนสูง สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองโดยครูไม่จำเป็นต้องมาชี้นำหรือให้แนวทางแต่อย่างใด มีความมั่นใจและมีสมาธิในการเรียนรู้สูง และเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น
จากที่สังเกตุนักเรียนกลุ่มนี้ครูเพียงให้กระดาษคำสั่งการทำงานหรืออธิบายเพียงครั้งเดียวก็ปล่อยให้นักเรียนดำเนินการด้วยตัวเองจนเสร้จสิ้นกระบวนการของการเรียนรู้
รายละเอียดนักเรียนแต่ละกลุ่ม
รายละเอียดของนักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถอ่านได้ในภาพประกอบนะครับ และจะเห็นชื่อของนักเรียนที่ครูแปะไว้ในแต่ละกลุ่ม
ประเด็นที่น่าสนใจที่ได้สอบถามครูว่าครูแบ่งนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างไร และเด็กแต้ละคนจะไม่รู้สึกแตกต่างหรือจากการแบ่งประเภทของเด็กในแต่ละกลุ่ม
การแบ่งกลุ่มนักเรียน สิ่งแรกคือครูต้องรู้จักลักษณะการเรียนรู้ของเด็กทุกคนว่าเป็นอย่างไร
ประการที่สองครูจะร่วมปรึกษาหารือกับผู้ปกครองว่านักเรียนมีคุณลักษณะการเรียนรู้เป็นอย่างไร
และประการที่สามผมมองว่าสำคัญมากคือการร่วมพูดคุยกับนักเรียนรายบุคคล โดยให้นักเรียนประเมินตนเองและแจ้งครูว่าเขาเองมีศักยภาพและต้องการเรียนรู้อย่างไร
หลังจากได้ข้อสรุปก็จะทำสัญญากันระหว่างครูกับนักเรียนว่าจะเรียนรู้กันอย่างไร และนักเรียนทุกคนสามารถที่จะข้ามกลุ่มได้เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการและมีศักยภาพพร้อมสำหรับวิธีการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น
ครูกล่าวว่า การจัดการเรียนรู้และแบ่งกลุ่มเด็กไว้อย่างที่เห็นเป็นการสร้างตัวตนและความเข้าใจในชีวิตและศักยภาพของเขาที่แท้จริง
เด็กไม่ได้รู้สึกแตกต่างในทางตรงกันข้ามยิ่งทำให้เข้ารู้ว่าเขาจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร และมุ่งมั่นที่จะขึ้นมาเป็นบุคคลที่ทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง การทำให้เหมือนต่างหากที่จะทำลายวิถีและชีวิตการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน
เพื่อนครูทุกคนคงจะได้ประโยชน์และอยากให้นำไปใช้ในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาเด็กนักเรียนและจัดการเรียนรู้ตามศักยภาพของแต่ละบุคคลที่แท้จริงนะครับ
การนั่งเรียนของนักเรียนในห้องเรียน
โฆษณา