5 พ.ค. 2020 เวลา 02:09
ประวัติ Jho Low ตอนที่ 15 : Out Of Control
ในเดือนมิถุนายนปี 2014 ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย กรุงเทพ Rewcastle-Brown พยายามมองหาชายชาวสวิสในวัย 40 ปี ซึ่งมันแทบไม่มีรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับชายลึกลับที่ต้องการติดต่อเธอ เพราะเธอรู้เพียงแค่ชื่อของเขาเท่านั้น
ประวัติ Jho Low ตอนที่ 15 : Out Of Control
Xavier Justo ได้แนะนำตัวเองในฐานะ Justo ทำให้ Rewcastle-Brown นั้นตกใจ เนื่องจากการพบกันครั้งนี้เป็นการนัดผ่านคนกลาง ซึ่งเธอคิดว่า Justo นั้นดูน่าจะอันตรายกว่านี้ ซึ่งเธอมองไม่เห็นทีท่าว่าเป็นพฤติกรรมของคนที่จะทำอันตรายจาก Justo
“ผู้คนที่เราติดต่อด้วยนั้นโหดเหี้ยมและมีอิทธิพลสูงอย่างมาก” Justo กล่าวกับ Rewcastle-Brown
Justo กำลังหาทางเลือกอื่นเพื่อรับเงินที่เขาเชื่อว่าสมควรได้รับ เขามองหาคนที่ยินดีที่จะจ่ายค่าเอกสารของ PetroSaudi ที่เขาได้ Copy ออกมาจาก Server เมื่อ 2 ปีก่อนหน้า
ต้องบอกว่าการได้มาเจอกับ Rewcastle-Brown นั้นเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะหลังจากที่ Justo ออกจาก PetroSaudi ในปี 2011 เขาก็ได้เดินทางไปยังสิงค์โปร์ เพื่อชมการแข่งขัน F1 Night Race ซึ่งที่นั่นเขาควรจะได้พบกับ Tarek Obaid หัวหน้าผู้บริหารของ PetroSaudi เพื่อเจรจาต่อรองเรื่องไฟล์ต่าง ๆ ที่เขามี
1
แต่เพื่อนเก่าของเขาดันไม่มาปรากฏตัว อย่างไรก็ตามในช่วงการเดินทางกลับนั้น เขาได้บังเอิญไปพบกับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับมหาธีร์ โมฮัมเหม็ด อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ของมาเลเซีย และได้ทำการแลกนามบัตรกันไว้
และแทบจะไม่มีความคืบหน้าอะไรเกิดขึ้นกว่า 2 ปี แต่ในช่วงฤดูร้อนปี 2014 บุคคลปริศนาที่เขาได้พบเจอก่อนกลับที่มีความใกล้ชิดกับ มหาธีร์ นั้น ได้ส่ง Connection ให้เขาไปเจอกับ Rewcastle-Brown ซึ่งในตอนนั้นกำลังขุดหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 1MDB
ข้อมูลจาก Server ที่ถูกดูดลงไปในฮาร์ดไดรฟ์ขนาดพกพา ซึ่งบรรจุไปด้วยข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB และ PetroSaudi แต่ Justo มีเงื่อนไขสำคัญก็คือ Rewcastle-Brown ต้องจ่าย 2 ล้านเหรียญ ถ้าเธอต้องการข้อมูลดังกล่าว
แม้ Rewcastle-Brown นั้นจะมีน้องเขยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ชีวิตที่เธออยู่ที่มาเลเซีย ด้วยการประกอบอาชีพนักข่าวและบล็อกเกอร์นั้น เธอไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น
Justo ยืนกราน “ไม่มีเงินสด ไม่ตกลง”
แน่นอนว่ามันเป็นข้อมูลที่สุด Exclusive ตัว Rewcastle-Brown เองก็อยากได้มันมาก ๆ หลังจากได้พบกันในครั้งนี้ เธอต้องกลับไปหาคนที่สามารถจ่ายมันได้ ซึ่งต้องใช้เวลาจริง ๆ กว่า 7 เดือนในการหาผู้มีอุปการคุณมาช่วยจ่ายเพื่อแลกกับข้อมูลดังกล่าว
ส่วนตัว Low นั้นดูเหมือนจะไม่เคยได้ยินจากผู้บริหาร PetroSaudi เกี่ยวกับความต้องการเงินของ Justo แต่อย่างใด ตัว Low เองนั้นก็ยังแทบจะไม่ระแคะระคาย ที่จะมีการพบกันระหว่าง Rewcastle-Brown และ Justo ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสั่นคลอนสถานะของเขาครั้งสำคัญ ซึ่งถ้าเขารู้ แน่นอนว่าเงินเพียงแค่ 2 ล้านดอลลาร์เพื่อจ่ายปิดปาก Justo นั้นคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของ Low อย่างแน่นอน
ต้องบอกว่าในขณะนั้น Low กำลังอยู่ในช่วง in love เพราะไปตกหลุมรักนางแบบสาวชื่อดังอย่าง Miranda Kerr เรียกได้ว่ากับ Kerr นั้น Low โชว์ป๋าอย่างเต็มที่ มีการทุ่มเงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินส่วนตัว รวมถึงได้สั่งซื้อเรือยอชท์ใหม่ Equanimity เพื่อพา Kerr ออกทริปไปยังน่านน้ำรอบ ๆ ประเทศอิตาลี รวมถึงไม่พลาดที่จะซื้อชุดเครื่องประดับของ Lorraine Schwartz ไม่ว่าจะเป็น ต่างหูเพชร , สร้อยคอ ,สร้อยข้อมือ หรือ แหวน ซึ่ง Low ได้สั่งมาเพื่อมอบให้กับ Kerr บนเรือยอชท์สุดหรูของเขาขณะออกทริปนั่นเอง
Miranda Kerr นางแบบสาวที่ Low ตกหลุมรักอย่างหนัก
แต่ความมั่งคั่งทั้งหมดที่ตัว Low แสดงออกมานั้น มันก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล แม้จะเพิ่งได้รับเงิน 5 พันล้านดอลลาร์จาก 1MDB แต่การที่จะต้องจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่นจำนวนมากให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องและสมรู้ร่วมคิด และพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรักษาวิถีชีวิตแบบเศรษฐีเงินล้านของเขา
ในใบแจ้งหนี้ 2 ล้านดอลลาร์ สำหรับเครื่องประดับล่าสุดของ Kerr นั้น Low ต้องบุกเข้ากองทุนอีกครั้ง ในขณะที่ Low เป็นลูกค้าคนสำคัญของ Schwartz ทำให้เขาสามารถยืดระยะเวลาในการจ่ายเงินได้ แต่เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินของเขาที่ได้รับจาก 1MDB ล่าสุด ดูเหมือนว่า Low จะเริ่มสะดุดกับการจ่ายเงินเสียแล้ว
เขาต้องการเงินเพิ่ม คราวนี้เป็นรายของ Deutsche Bank ที่เริ่มสนใจ จะเข้ามาร่วมทำธุรกรรมกับ 1MDB หลังจากพิจารณาจากผลกำไรของ Goldman ที่ทำได้จากกองทุน 1MDB ซึ่ง Low นั้นต้องการที่กู้ยืมเงินเพิ่มเติมจาก Deutsche Bank อีก 725 ล้านดอลลาร์
ซึ่งแม้จะมีคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของกองทุนที่มีลักษณะไม่ชอบมาพากล แต่ Mohammed Al Housseiny ผู้บริหารสูงสุดของ Aabar ก็ได้มาช่วยให้กระบวนการดังกล่าวของธนาคาร Deutsche Bank ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งเมื่อ Deutsche Bank ได้ส่งเงินกู้งวดแรกจำนวน 725 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ Aabar แม้มันจะผิดแปลกอยู่บ้างที่ปรกตินั้น ธนาคารจะส่งเงินสดจำนวนมากเหล่านี้ไปยังผู้กู้โดยตรงซึ่งก็คือ กองทุน 1MDB แต่ Deutsche เห็นการมีส่วนร่วมอย่างชัดเจนจากกองทุนอาบูดาบี ทำให้วพกเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก คิดถึงแต่เพียงผลประโยชน์ที่จะได้รับเพียงเท่านั้น
และ กระบวนการยักยอก ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะผู้รับเงินที่แท้จริงแล้วนั้น เป็นบริษัทที่มีชื่อคล้าย ๆ กับ Aabar ที่ Al Husseiny จัดตั้งขึ้นโดยใช้บัญชีธนาคาร UBS ในสิงคโปร์ ซึ่งอีกสองวันต่อมา เงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ก็ถูกถ่ายโอนไปยังบริษัท เชลล์ที่ถูกควบคุมโดย Fat Eric อีกเช่นเคย
1
ซึ่งก็เหมือนเคยด้วยผลประโยชน์ มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ บริษัท เชลล์ ของ Low ก็ได้ส่งเงิน 13 ล้านดอลลาร์ไปยัง Densmore ซึ่งเป็น บริษัทในหมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ของ Otaiba ซึ่งมีบัญชีที่ BSI ในสิงคโปร์ ส่วน Khadem Al Qubaisi ที่เป็นหัวหน้าของ Al Husseiny ได้รับเงินไปอีก 15 ล้านดอลลาร์
ในเดือนกันยายนปี 2014 อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมเหม็ด ที่มีอายุ 89 ปี ซึ่งยังคงเป็นบุคคลสำคัญในพรรค UMNO ได้รับข้อมูลที่รั่วไหลออกมา รวมถึง email จาก 1MDB ที่แสดงให้เห็นว่า Jho Low มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งการตัดสินใจลงทุน รวมถึงความไม่ชอบมาพากลของเงินทั้งหลายที่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
มหาเธร์ นั้นยังมีอำนาจอย่างสูงในพรรค UMNO และเขาเริ่มมีส่วนร่วมกับเรื่องดังกล่าวหลังจากได้เห็นหลักฐานต่าง ๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งเขามีความตั้งใจที่จะทำการบีบบังคับให้นายกรัฐมนตรี Najib Razak ลาออก เพราะหนี้ก้อนโตของกองทุนเหล่านี้ เสี่ยงต่อการนำพามาเลเซียไปสู่ภาวะวิกฤติได้แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในประเทศอาร์เจนติน่า
ฝั่งของ Rewcastle-Brown ก็ได้เขียนบทความในหัวข้อ “การใช้จ่ายของ Jho Low และเงินเพื่อการพัฒนาของมาเลเซีย” ซึ่งชี้ประเด็นถึงเหตุผลว่า ทำไมกองทุนของประเทศต้องโกหกถึงบทบาทลับ ๆ ของ Low
Rewcastle-Brown กำลังไล่บี้ Low อย่างหนักเช่นเดียวกัน
และฝั่งของการตรวจสอบบัญชีก็เริ่มโกลาหล เพราะความกังวลของ Deloitte บริษัทตรวจสอบบัญชีชื่อดัง ก็ได้เรียกร้องให้มีการส่งเงินกลับจำนวนกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ จากบริษัทในหมู่เกาะเคย์แมน ที่มองว่ามีธุรกรรมที่มีความผิดปรกติเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยการใช้จ่ายอย่างดุเดือดของ Low เขาคิดว่าจะสามารถปกปิดมันได้ด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยมใหม่ ๆ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ สาธารณชนเริ่มรู้สิ่งที่ Low ทำแล้ว และที่สำคัญ คนที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งอย่าง มหาเธร์ โมฮัมเหม็ด กำลังมาเล่นเรื่องดังกล่าวด้วย ทำให้มันได้กลายเป็นสถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังแท้จริงสำหรับ Low เพราะเขาจะหาเงินจากไหนมาจ่ายจำนวน กว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์
1
และฝั่งของธนาคาร Deutsche Bank ก็ต้อน Low ไปอีกมุมเวที นายธนาคารชาวเยอรมัน เริ่มสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนที่เกาะเคย์แมน ซึ่งเป็นหลักประกันในการกู้ยืม ซึ่งหากธนาคารเยอรมันขอเงินคืน กองทุนจะไม่สามารถหาเงินสดมาจ่ายได้อย่างแน่นอน
มาถึงตอนนี้ Low เริ่มที่จะจนมุม หลังจากถูกไล่บี้จากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งผู้มีอิทธิพลอย่าง มหาเธร์ นักข่าวที่เกาะติดเรื่องนี้ ขุดคุ้ยเรื่องนี้อย่างเต็มที่อย่าง Rewcastle-Brown ฝั่งตรวจสอบบัญชีอย่าง Deloitte ก็ไล่บี้จนดูเหมือนว่า Low จะไม่มีทางไปแล้ว และต้องยอมรับความจริงที่ว่า เงินทั้งหมด มันไม่เหลืออยู่แล้วเสียที แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับ Low ถึงตอนนี้ใกล้จะถึงคราวสิ้นสุดของการหลอกลวงระดับโลก โดยชายที่ชื่อ Jho Low เสียแล้ว เขาจะจนมุมจริง ๆ หรือ ไม่ แล้วเขาจะหาทางออกอย่างไรจากสถานการณ์ที่บีบคั้นเช่นนี้ โปรดอย่าพลาดติดตามต่อตอนหน้าครับผม
อ่านตอนที่ 16 : Butterfly Effect
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา