7 พ.ค. 2020 เวลา 02:00 • บันเทิง
มาดูวีรกรรมความแฮงค์ของ Ozzy Osbourne ตำนานชาวร็อคผู้พี้ยาอย่างหนักแต่อยู่รอดมาได้เพราะมีพันธุกรรมกลายพันธุ์!!!
1
บทความนี้เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ออสซี่ ออสบอร์น (Ozzy Osbourne) ชายผู้เป็นเจ้าพ่อแห่งเฮฟวี่เมทัล เจ้าของฉายา Men In Black หรือเจ้าชายแห่งความมืดหม่น แห่งคณะ Black Sabbath เขาเป็นชาวร็อคอันดับต้นๆที่พี้ยาหนัก จนถึงขนาดเคยสูดมดเข้าจมูกเพราะเสี้ยนยามาแล้ว
เรื่องการพี้ยาหนักของออสซี่นี่เป็นที่รู้กันดีในหมู่วงการเพลงร็อค แม้แต่วง Mötley Crüe ที่ว่าแน่ ยังยอมแพ้ในความเถื่อนพฤติกรรมการพี้ยาของออสซี่เลย
ครั้งหนึ่งออสซี่เคยไปปาร์ตี้กับพวกวง Mötley Crüe แล้วจู่ๆออสซี่ก็เดินไปที่ริมสระด้วยความมึนเมาผสมกับความอยากยา เขานั่งลงที่ริมสระแล้วเอาหลอดสูบฝูงมดที่กำลังเดินอยู่เข้าสู่จมูกแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง The Dirt
แต่เรื่องนี้สมาชิกของวงอย่าง Jake E. Lee ได้ออกมากล่าวว่า "ผมอยู่ที่นั่นตรงนั้น พวกเขาไม่ได้สูบมด ที่นั่นไม่มีมดแม้แต่ตัวเดียว แต่พวกเขาเมาแล้วสูบแมงมุมตัวเล็กๆเข้าไปต่างหาก"
ซึ่งไม่ว่าออสซี่จะสูบมดหรือสูบแมงมุม นี่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าชายผู้นี้พี้ยาจนเพี้ยนของจริง
อย่างเหตุการณ์หนึ่งที่ออสซี่ต้องไปร่วมประชุมกับคนระดับผู้ใหญ่เรื่องการอัดเพลง เขาเปิดประตูมาด้วยความเมาจากการพี้ยา และแทนที่จะเข้าไปทักทายกับผู้ร่วมประชุมตามมารยาท เขากับดิ่งตรงไปนั่งบนตักพนักงานสาว PR อย่างหน้าตาเฉย ท่ามกลางความมึนงงของผู้เข้าร่วมประชุม
1
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะอยู่ๆ ก็มีนกพิราบที่เลี้ยงไว้บินเข้ามาในห้องเนื่องจากมันตกใจเสียงเพลง crazy train ของออสซี่ แต่แทนที่มันจะบินไปเกาะที่อื่นๆ มันกลับบินมาเกาะที่ขาของออสซี่ที่กำลังนั่งมึนเมาจากการพี้ยาอยู่
ออสซี่ที่ขณะนั้นก็มึนๆงงๆ พอเห็นนกมาเกาะที่ขาเขาก็คิดว่านี่คงเป็นอาหารเที่ยงที่ถูกเอามาเสิร์ฟ เขาเลยจับนกพิราบตัวนั้นกัดไปที่หัวของมันท่ามกลางความตกใจของคนในห้อง จนทุกคนต้องไล่ออกจากห้องเพื่อไปสงบสติอารมณ์ซะก่อน
หรืออย่างในปี 1982 ออสซี่ก็เคยเมาบรั่นดีจนไปเอาเสื้อผ้าของ Sharon Osbourne (ผู้ที่จะเป็นภริยาในอนาคตของออสซี่) มาใส่ก่อนจะเดินโซเซไปปัสสาวะใส่อนุสาวรีย์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัฐเท็กซัส จนถูกตำรวจจับและโดนสั่งห้ามเข้าแสดงในเมืองนี้ไป 10 ปี
ซึ่งจากวีรกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการเล่นยาของออสซี่เข้าขั้นเพี้ยนเกินมนุษย์ทั่วไปแล้ว จนหลายๆคนต่างสงสัยว่าทำไมเขาถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ เพราะเท่าที่ผ่านมาชาวร็อคหลายคนที่เล่นยาหนักขนาดนี้มักจะเสียชีวิตไปแล้วทั้งนั้น แต่สำหรับออสซี่แล้ว ทำไมเขาถึงไม่เป็นอะไรเลยแถมยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกด้วย
จนสุดท้ายเพื่อให้ไขข้อสงสัยดังกล่าว จึงมีการนำยีนของออสซี่ไปตรวจสอบในปี 2010 เผื่อจะเจอสาเหตุที่ทำให้เขายังคงอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้
และจากผลการตรวจโดยนักวิจัยและอาจารย์มหาวิทยาลัยจาก Indiana University School of Medicine ก็ได้คำตอบจนได้ เพราะผลการตรวจพบว่าออสซี่มีพันธุกรรมกลายพันธุ์ในยีนหรือที่เรียกกันว่า genetic mutant ในแบบที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน ซึ่งนี่ก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ออสซี่ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
แต่ปัจจุบันออสซี่ได้เลิกจากอบายมุขทั้งหมดแล้วนะครับ แล้วหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นเพราะเขาพึ่งหายจากอาการไข้หวัดใหญ่และปอดบวม
อย่างไรก็ตามครับ สุดท้ายแล้วการเสพยาหรือของมึนเมาล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรทำตามทั้งนั้น เพราะตัวอย่างคนที่ทนทุกข์ทรมานจากการเล่นยาก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
แม้แต่ออสซี่เองยังยอมรับว่าถึงแม้เขาจะไม่ตายจากการเล่นยา แต่ของพวกนั้นมันก็ค่อยๆทำลายชิวิตเขาไป "อย่างช้าๆ" เช่นกัน
โฆษณา