Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Advance Civilization
•
ติดตาม
7 พ.ค. 2020 เวลา 02:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ซีรีส์ภาคปกติของ "นิโคล่า เทสลา" ชายผู้สร้างอนาคตโลกยุคใหม่ : ตอนที่ 1 ชะตาชีวิตของผู้เสียสละ (1/3)
"พลังแห่งจิตใจคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ และถ้าเราพิจารณาความจริงนี้อย่างถ่องแท้ เราจะสามารถปรับเปลี่ยนชีวิตให้สอดคล้องกับอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้านี้ แม่ของผมสอนว่าให้หาความจริงทั้งหมดทั้งปวงในพระคัมภีร์ไบเบิล "
นิโคลา เทสลา
"The gift of mental power come from God. Divine being, and if we concentrate over that truth, we become in tune with this great power. My mother taught me to find all truth in the Bible"
Nikola Tesla
ลูกชายของเรฟด์ มิลูติน เทสล่า (Revd Milutin Tesla) ชื่อนิโคลา เทสลา เกิดในหมู่บ้านเล็กๆ ของตำบลสมิลจาน ในประเทศโครเอเชีย ในช่วงเที่ยงคืนระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม ในคืนที่มีพายุฟ้าผ่า (Thunder Storm) หมอผดุงครรภ์ที่ทำคลอดให้กับมารดาของเทสลา (นางโจคา Djouka) ตกใจกลัวฟ้าผ่าเป็นอย่างมาก เธอถึงกับอุทานขึ้นมาว่า "เด็กคนนี้คือเด็กชายแห่งสายฟ้า" โดยที่เธอไม่เคยได้ล่วงรู้มาก่อนว่าสิ่งที่เธอได้อุทานในวันนั้นก็คือชะตาชีวิตของเด็กคนนี้ที่เหมือนว่าจะถูกลิขิตไว้แล้วในวันที่เขาเกิด เด็กชายผู้ซึ่งในภายภาคหน้าสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้ามหาศาลได้มากพอที่จะเขย่าโลกทั้งใบ
ตลอดช่วงชีวิตของเทสลา (เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1943) มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับเรื่องราวของเขาในวัยเด็ก เช่นจากบันทึกของเทสลาซึ่งเขาได้ทำอย่างสม่ำเสมอทำให้เรารู้บางอย่างเกี่ยวกับความคิดเริ่มต้นและพัฒนาการของเขา เทสลาพูดเสมอว่าความสนใจในเรื่องไฟฟ้าของเขาได้เริ่มขึ้นในวันหนึ่งของฤดูหนาวซึ่งตอนนั้นเขาอายุได้เพียงสามขวบ วันนั้นเขาได้รับประสบการณ์ที่ทำให้เขาตกใจ เมื่อไฟฟ้าสถิตเกิดสปาร์คที่ขนของมาคัก (Macak) แมวสุดที่รักของเขา (ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในสภาวะอากาศที่เย็นและแห้ง) ทำให้เทสลาเริ่มต้นความสนใจธรรมชาติของไฟฟ้ารวมถึงพายุฟ้าผ่า (Thunder Storm) "มันเป็นธรรมชาติของแมวตัวใหญ่หรอกหรือ" เขาตั้งคำถามในใจ
ความอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กเช่นนั้นมีอยู่กับตัวเทสลาตลอดชีวิต เขาตั้งคำถามกับตัวเองทุกวันจนกระทั่งอายุแปดสิบว่า "ไฟฟ้าคืออะไรกันแน่? " (What is electricity?) ซึ่งเป็นคำถามที่เขายังตอบไม่ได้ นิโคลา เทสลา เป็นลูกคนที่สี่ของครอบครัว และเป็นลูกชายคนที่สอง มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า นิโก้ (Niko) เขาเป็นสมาชิกที่เป็นที่รักของครอบครัว ครอบครัวของเทสลาเป็นครอบครัวที่มีความอบอุ่น เทสลารักและเคารพพี่ชายของเขามาก พี่ชายของเขามีอายุมากกว่าเทสลาเจ็ดปี ชื่อว่าเดน (Dane) เดนเป็นเด็กหนุ่มที่มีความสดใส ฉลาด เขาเก่งวิชาการประพันธ์และพ่อหวังว่าในอนาคตเขาจะดำเนินรอยตามพ่อเป็นพระในโบสถ์
เรฟด์ เทสลา มีม้าอาหรับอยู่ตัวหนึ่งซึ่งสวยงามและน่ารักมาก ม้าตัวนี้เคยช่วยชีวิตของเค้าไว้ครั้งหนึ่งในวันที่เกิดพายุหิมะ ม้าตัวนี้เลยกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทุกคนในบ้านรัก เด็กทุกคนในครอบครัวเทสลาจะได้ขี่มัน วันหนึ่งเดนพี่ชายของเทสลาในวัยสิบสองปี ซึ่งกำลังขี่ม้าตัวนี้อยู่ ปรากฏว่าม้าลื่นและเดนตกลงมาจากหลังม้าแล้วพลาดถูกมันเหยียบ หลังจากนั้นเขาก็เสียชีวิต เทสลาตอนนั้นอายุห้าขวบ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้เขาเป็นอย่างมาก
หลายปีหลังจากนั้นเขาได้เขียนบรรยายเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า
"ม้ารู้สึกเสียใจที่ทำให้พี่ชายของเขาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มันแสดงออกถึงอาการหมดเรี่ยวหมดแรง ผมยังคงจำภาพนั้นได้ดีแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่ย้อนคิดถึงความสำเร็จของพี่ชาย เมื่อเปรียบเทียบกับผม ผมเหมือนกับเป็นคนไม่เอาไหน ทุกครั้งที่ผมพยายามจะทำในสิ่งที่ดีที่สุด พ่อแม่ผมก็จะประเมินว่ามันแค่พอใช้ อาจเป็นเพราะพวกเขาได้สูญเสียลูกชายที่ฉลาดกว่าไป ดังนั้นผมจึงโตขึ้นมาโดยเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง"
พ่อแม่ของเทสลาใจสลาย เทสลาจึงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของครอบครัว เขามีพี่สาวสองคนคือ มาริก้า (Marica) แองเจลิน่า (Angelina) และน้องสาวอีกหนึ่งคนชื่อ มิลคา (Milka) ความกดดันที่จะต้องแทนที่พี่ชายที่ฉลาดและเป็นที่รักของทุกคนเป็นแรงผลักดันให้เทสลาทำงานอย่างหนักมากเพื่อประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง หน้าที่ในฐานะพระสงฆ์ในโบสถ์เป็นสิ่งที่เทสลาไม่ได้สนใจ เขาต้องการรู้ว่าโลกใบนี้เป็นเช่นไร และต้องการเปลี่ยนแปลงมันให้ดีขึ้น เขาจะไม่ไปแข่งกับพี่ชายของเขาเพื่อที่จะเป็นนักประพัทธ์ที่มีชื่อเสียง แต่เขาคือนักคณิตศาสตร์ที่เรียนรู้ได้รวดเร็วมาก เขาคิดเลขได้เร็วจนกระทั่งอาจารย์ที่สอนเขาคิดว่าเขาเห็นคำตอบมาก่อนล่วงหน้า เทสลาคิดว่าทางเดียวที่จะทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจในตัวเขาได้คือเขาจะต้องใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ในตัวสร้างชื่อเสียงในฐานะนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์
เทสลามีความเป็นนักประดิษฐ์เสมอ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกของเขาคือตะขอจับกบ ซึ่งเขาได้ทำขึ้นตอนอายุห้าขวบ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนของเขาคนหนึ่งได้รับคันเบ็ดตกปลามาจึงเกิดความคิดว่าจะเอาคันเบ็ดอันนี้แหละไปใช้จับกบกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านที่มีกบเป็นจำนวนมากมายเหลือเกิน และเมื่อเด็กๆ ช่วยกันดัดแปลงคันเบ็ดเล็กน้อยจนเสร็จก็ตัดสินใจพากันไปทดสอบสิ่งประดิษฐ์ด้วยการเอาไปจับกบที่มักจะจับกลุ่มกันอยู่รอบๆ หมู่บ้าน แต่หลังจากนั้นไม่นานเทสลากับกลุ่มเพื่อนๆ ในหมู่บ้านก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกันตามประสาเด็กๆ ว่า เพราะต่างอยากจะแย่งกันเล่นเบ็ด ซึ่งก่อนหน้านี้เทสลาอยากจะแย่งเพื่อนที่เป็นเจ้าของเล่นมากกว่าเสมอเพราะเขาเป็นคนที่ลงมือดัดแปลงมัน... "ตกลงแล้วใครเป็นเจ้าของกันแน่? " ที่คือต้นเหตุของการทะเลาะเบาะแว้ง จากนั้นเทสลาก็เลยถูกคว่ำบาตรโดยเด็กๆ ในหมู่บ้าน พวกเขาตั้งทีมจับกบโดยไม่ชวนเทสลาเข้าร่วมทีมด้วย เทสลาน้อยใจจึงตัดสินใจว่าจะสร้างอุปกรณ์จับกบเป็นของตนเอง แล้วก็จะออกท่องเที่ยวไปจับกบคนเดียว เขาเริ่มด้วยการหาลวดอ่อนซึ่งสามารถดัดงอได้มาดัดที่ปลายลวดให้โค้งเป็นรูปร่างคล้ายตะขอเกี่ยวแล้วผูกติดเข้ากับเชือกยาว แต่พอทำการทดสอบกลับไม่มีกบแม้แต่ตัวเดียวในลำธารกินเบ็ดเลย แม้ว่าจะเปลี่ยนเหยื่อล่อเป็นอะไรก็ตาม
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ละความพยายาม เขานั่งพิจารณาอยู่บนตอไม้ครู่หนึ่งว่าทำอย่างไรกบถึงจะติดเบ็ด เขาลองทดสอบดูว่าถ้าเอาตะขอเปล่าๆ แกว่งไปแกว่งมาด้านหน้าของกบจะเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบเคล็ดลับในการทำให้กบกินเบ็ด เพราะว่าตะขอที่แกว่งไปมานั้นจะทำให้กบรู้สึกรำคาญ แล้วมันจะพุ่งเข้าหาตะขออย่างแรงพอที่ตะขอจะเกี่ยวมันไว้ได้ ดังนั้นเด็กน้อยเทสลาก็ค้นพบวิธีการจับกบอย่างง่ายซะแล้ว ในขณะที่บรรดาเพื่อนๆ ของเขาที่จัดตั้งทีมจับกบ พร้อมอุปกรณ์คันเบ็ดพร้อมกลับยังไม่สามารถจับกบได้สักตัว เทสล่าได้ทีนำกบที่ตนจับได้ไปเยอะเย้ยพวกเพื่อนๆ เหล่านั้นโดยไม่ยอมบอกความลับว่าเขาสามารถจับกบได้อย่างไร พวกเพื่อนเห็นต่างอิจฉาและหมั่นไส้เทสลา แล้วก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นอีก ท้ายที่สุดเทสลาต้องยอมบอกเคล็ดลับในการจับกบแก่เพื่อนๆ ของเขา และด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ดังกล่าวนี้ก็มีอานุภาพมากพอที่จะทำให้จำนวนประชากรกบของหมู่บ้านลดลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเทสลาจะยังเด็กอยู่มาก แต่เขาก็มีความสนใจในเครื่องจักรเครื่องยนต์ ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองเล็กๆ ชื่อว่า กอสปิค (Gospic) ที่นั่นครอบครัวของเขาได้เข้าร่วมชมการแสดงสาธิตเครื่องดับเพลิงใหม่ของเมือง พร้อมกับชาวเมืองทั้งหลายเทสลารู้สึกผิดหวัง เมื่อเครื่องปั๊มน้ำไม่ทำงาน ทีมเจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันแก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่สำเร็จ บรรดาผู้เข้าชมต่างเริ่มแสดงอาการผิดหวัง เทสลาเห็นเช่นนั้นเขาจึงวิ่งไปยังแม่น้ำ เปิดท่อดูดของปั๊มออกแล้วจุ่มลงไปในแม่น้ำทำให้น้ำสามารถไหลเข้าสู่ปั๊มได้ ทันใดนั้นน้ำก็พุ่งออกจากหัวฉีดใส่ท่านแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายเปียกปอนไปหมด ก่อนที่จะควบคุมไว้ได้
เทสลาเข้าศึกษาในโรงเรียน Real Gymnasium เมืองคาร์ลสตัดท์ (Carlstadt) ประเทศโครเอเชีย ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยที่วิทยาลัยช่างเทคนิคกราซ (Graz Polytechnic) และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปราก (Prague University) เขาเป็นนักเรียนที่เป็นแบบอย่างของความขยันและทำงานหนัก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ทำอย่างอื่นเลยนอกจากงาน กิจกรรมบันเทิงของเขาคือการนั่งแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน เขาบอกว่านั่นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
หลังจากเทสลาจบการศึกษาไม่นานพ่อของเขาก็เสียชีวิต เทสลาไม่สนใจมรดกตกทอดของพ่อ ระหว่างที่เทสลาจัดเรียงเอกสารของพ่อ เขาเห็นจดหมายหลายฉบับที่โปรเฟสเซอร์ที่มหาวิทยาลัยเขียนเกี่ยวกับเขาถึงพ่อว่า 'คุณเทสลาครับ ช่วยห้ามปรามลูกชายของคุณหน่อย ผมเป็นห่วงว่าเขาจะทำงานหนักมากเกินไปแล้ว' แต่ระหว่างที่เทสลาเรียนอยู่ เขาไม่เคยได้รับคำชมเชยใดๆ จากพ่อเขาเลย บางทีถ้าพ่อของเขาหัดชมเชยยกย่องเขาบ้าง เขาคงจะไม่เป็นคนอ่อนแอโลเล และมีความมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้
ขณะที่เทสลายังหนุ่ม เขาได้ออกแบบเครื่องจักรกลที่น่าอัศจรรย์เครื่องหนึ่ง เขามีความสุขและสนุกสนานในการหาข้อมูลเชิงเทคนิคและต่อเติมรายละเอียดให้กับมัน เครื่องจักรกลที่ว่าคือเครื่องส่งวัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ใต้สมุทร ซึ่งเอาไว้ใช้ส่งสิ่งของทั่วโลก ผ่านระบบท่อน้ำและปั๊มที่ถูกวางไว้ใต้มหาสมุทร โดยระบบท่อจะต้องทนต่อแรงดันของน้ำมหาศาล โดยไม่แตกหรือถูกทำลายจากแรงดันน้ำเบื้องล่าง เขาได้คำนวณหาพลังงานที่จะใช้ในระบบนี้สำหรับปั๊มน้ำเพื่อส่งน้ำผ่านท่อเพื่อนำพาวัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ไปยังที่หมาย แต่หลังจากที่เขาได้เรียนวิชากลศาสตร์ของไหล ได้รู้เรื่องแรงเสียดทานของน้ำในระบบท่อ ทำให้เขาทราบว่าวิธีการนี้จะต้องใช้พลังงานมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ขณะที่เรียนอยู่ที่คาร์ลสตัดท์ นิโคล่า เทสลา เป็นเด็กที่มีความสามารถสูงกว่าเด็กคนอื่นๆ และเป็นเด็กหนุ่มที่มีความสนใจที่จะศึกษาทฤษฎีทางไฟฟ้าเป็นพิเศษ เขาตัดสินใจชีวิตแล้วตั้งแต่เริ่มเรียนว่าเขาอยากจะเป็นวิศวกรไฟฟ้า และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความตั้งใจของเขาได้ เขาเชื่อมั่นอย่างสูงว่าเขาสามารถเป็นวิศวกรไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงโดดเด่นระดับโลกได้ ครั้งหนึ่งในวัยเด็กหลังจากที่เขาหายป่วยเขาได้บอกกับพ่อว่าเขาไม่คิดว่าเขาจะมีความสามารถเป็นพระในโบสถ์ที่ดีได้ เขารักที่จะคณิตศาสตร์และวิศวกรรมมาก เนื่องจากในวัยเด็กเทสลามีสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรง พ่อของเขากลัวว่าเขาจะทำงานหนักและล้มป่วยหากเขาเป็นวิศวกร พ่อจึงบอกเขาว่าถ้าต้องการจะเอาดีด้านนี้ให้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์จะเหมาะกว่า
เทสลาเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งและรักการผจญภัย และมีอย่างน้อยสองครั้งที่เขาเกือบต้องจมน้ำขณะที่ว่ายน้ำในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว จากประสบการณ์ครั้งนั้นเขาได้เรียนรู้ว่าน้ำที่ไหลมีพลังงานมากเพียงใด ทำให้เขาสนใจพลังงานจากการไหลของน้ำ ว่าจะนำมันมาใช้งานได้อย่างอย่างไร? เขารู้สึกอัศจรรย์ในพลังงานจากการไหลของน้ำ เขาคิดว่าถ้าเขาสามารถเปลี่ยนพลังงานจากการไหลของน้ำมาเป็นแรงบิดเพื่อใช้ประโยชน์ เขาจะได้แรงบิดเท่าไหร่? เขาเริ่มต้นคำนวณหาพลังงานที่เขาจะสามารถผลิตขึ้นได้จากการไหลของน้ำ และรู้สึกตะลึงกับผลลัพธ์ที่ได้ จากนั้นเป็นต้นมาเขาจึงมีทัศนคติต่อพลังงานจากการไหลของน้ำว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ได้เปล่า (Free Source of Energy) ที่มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้
1 บันทึก
2
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
รวมลิสต์บทความ (1-20)
1
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย