7 พ.ค. 2020 เวลา 07:55 • ปรัชญา
เคยไหม ที่เรามักจะพบว่า เพื่อนร่วมงาน คนใกล้ตัว หรือ แม้แต่ตัวเราเอง เผลอนำเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องส่วน(งาน) จนทำให้คนนอกรู้เรื่องในบ้านของตัวเองหมด และที่สำคัญ การนำเรื่องส่วนตัวไปปะปนกับเรื่องของงานนั้น ยังอาจส่งผลให้เครดิตชีวิตและงานเสียหายได้อีกด้วย ........
เรามาลองดูกันว่า เรื่องส่วนตัวจะส่งผลกับงานอย่างไร หากยังนำมาปนกันแบบไม่รู้จบ ลองนึกถึงเวลาที่คุณกำลังโมโหให้กับคนใกล้ตัวที่บ้าน แล้วคุณนำอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวที่ถาโถมมาจากบ้านนั้น มาลงกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าของคุณ โดยการตะวาดหรือไล่ให้เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ออกไปไกลๆจากที่ที่คุณกำลังนั่งอยู่ ด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าของคุณจะไม่กล้าเข้าใกล้คุณอีกต่อไป เมื่อคุณปรับอารมณ์ส่วนตัวได้แล้วคุณก็มักจะหวังว่าทุกๆคนจะเข้าใจในสิ่งคุณทำลงไปกับพวกเขาเหล่านั้นและกลับมาเป็นเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าที่ดีต่อกันเช่นเดิม ***ไม่มีทาง*** เป็นอย่างนั้นเสมอไป
เมื่อคุณนำเรื่องส่วนตัวมาปนกับงานเมื่อไหร่ คุณจะไม่ได้เสียแค่เพื่อร่วมงานหรือลูกค้าของคุณ แต่คุณจะเสียทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ของเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าที่คุณเพิ่งโถมอารมณ์ที่เกิดจากที่บ้านของคุณใส่พวกเขาไป
เมื่อเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยได้ หรือ ทำการค้ากับลูกค้าได้น้อยลง ผลที่ตามมาของคนที่ไม่รู้จักแยกแยะ เรื่องส่วนตัว กับ งาน ออกจากกัน ก็มักจะจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก
"สำเร็จ"
คนที่ประสบความสำเร็จ จะไม่นำเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานของเขา เราจะเห็นได้จากการที่พวกเขาเหล่านั้นปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงาน คู่ค้า หรือลูกค้าของเขาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะเคยมีเรื่องบาดหมางใจกันก่อนก็ตาม แต่พวกเขาก็จะไม่นำ อารมณ์ส่วนตัว มาทำให้งานของเขาเสียหายอย่างเด็ดขาด
การรู้จักแยกแยะว่าสิ่งไหนควรทำและสิ่งไหนไม่ควรทำ เรื่องไหนคือเรื่องส่วนตัวเรื่องไหนคือเรื่องงานที่ควรรับผิดชอบ คนที่ประสบความสำเร็จจะไม่เอาเรื่องต่างๆเหล่านั้นมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน พวกเขาเหล่านั้นมีความเชื่อว่าความสำเร็จส่วนนึงนั้นเกิดจากการที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร ทำอย่างไร และทำแบบไหน พวกเขาจึงสามารถแยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องของงานให้ขาดออกจากกันได้ พวกเขารู้เสมอว่า หากนำเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน มันจะส่งผลทำให้การงาน ธุรกิจ กิจการเกิดความผิดพลาดและล้มเหลวอย่างรวดเร็วได้
ผมมีเรื่องเล่าตัวอย่างเกี่ยวกับความเป็นมืออาชีพของเจ้านายเก่าผมที่เคยทำงานร่วมกันเมื่อนานมาแล้วมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ศึกษากัน (มีเรื่องเล่าแล้วก็เตรียมโซดาให้พร้อมด้วยนะครับ) ^-^
มีอยู่ครั้งหนึ่งเจ้านายของผมต้องขายสินค้าให้กับลูกค้าคนนึงที่เคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน ทุกคนในที่ทำงานรู้ดีถึงแม้ว่าเจ้านายผมคนนี้จะไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นๆฟังเลยก็ตาม เมื่อคนที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนมาเลือกซื้อสินค้าในร้านที่ผมและเจ้านายผมทำงานอยู่ เจ้านายของผมเขาสามารถปฏิบัติต่อคนคนนั้นเหมือนกับที่ปฏิบัติต่อลูกค้าทั่วๆไปได้เป็นอย่างดีโดยที่เขาไม่เผลอนำเรื่องส่วนตัวในอติดที่เคยหมางใจกันมาทำให้งานเสียหายแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าในใจของเจ้านายเก่าผมจะไม่เคยลืมเรื่องราวที่เคยมีปัญหากับคนคนนั้นเลยก็ตาม
การที่เจ้านายเก่าของผมสามารถปฏิบัติกับคนที่มีเรื่องราวไม่ดีต่อกันได้เป็นอย่างดีนั้น เกิดจากการที่เขาสามารถแยกแยะและรู้จักหน้าที่ของตนเองว่า หน้าที่ของเขาคือบริการลูกค้า พวกเขาจึงต้องบริการโดยที่ไม่สามารถเลือกที่จะให้บริการเฉพาะคนที่เขาต้องการบริการได้นั้นเอง ปัจจุบันเจ้านายเก่าของผมท่านนี้ เป็นเจ้าของโรงแรมและอสังหาฯหลายแห่ง โดยที่คนที่เคยหมางใจกันมาก่อนก็กลับกลายมาเป็น ลูกค้า คู่ค้าที่ดี ต่อกัน เป็นเรื่องที่ Heppy มาก เพียงแค่เราแยกมันให้ออก ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีตามลำดับเอง
คราวนี้ เหตุการณืเดียวกันกับเจ้านายเก่าของผม แต่เปรียบเทียบกับคนที่ไม่สามารถแยกยแะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันได้ มักจะเกิดเหตุการที่ ผู้ให้บริการไม่ยอมให้บริการคนที่เคยหมางใจกันได้ด้วยความเต็มใจ หรืออาจไล่คนคนนั้นออกไปเพียงเพราะเหม็นขี้หน้าที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ออกจากที่ทำงานของตนไปเพียงเพราะแค่คิดว่า แค่ไม่ได้ให้บริการลูกค้าที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนแค่คนเดียวเองไม่เป็นไรหรอกเพราะยังไงซะบนโลกนี้ก็ยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่พร้อมจะมาใช้บริการของเราอยู่ การคิดแบบนี้เป็นอันตรายมาก เพราะการที่ขาดลูกค้าไปหนึ่งคนนั้นไม่ใช่แค่รายได้จะหายไปครั้งเดียวแต่ รายได้ที่หายไปคือตลอดชีวิตของลูกค้าคนนั้นเลยก็ว่าได้
การที่ไม่รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานออกจากกัน มักส่งผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง ของการที่มีนิสัยที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ อย่าลืมว่าการกระทำเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลแค่กับตัวเองคนเดียว แต่ยังส่งผลต่อคนรอบข้างและคนข้างหลังอีกด้วย
เพียงแค่การกระทำที่เอาแต่ความสะใจครั้งเดียว อาจทำให้ทุกอย่างที่สร้างมาอย่างดีด้วยความยากลำบากและยาวนาน พังได้ในทันที
โฆษณา