7 พ.ค. 2020 เวลา 12:39 • ประวัติศาสตร์
ลูกหลานจีนในไทยแทบจะทุกบ้าน คงจะคุ้นเคยกับสถานที่ อันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นควันธูป
อาคารทรงจีน ส่วนมากถูกฉาบทาด้วยสีแดงสด ประดับตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลัก และประติมากรรมนูนต่ำ นูนสูง และลอยตัว เป็นรูปมังกร หงส์ ดอกไม้ เทพเจ้า และลวดลายมงคลต่างๆ
ใช่ครับ.. ศาลเจ้านั้นเอง
ศาลเจ้าเป็นศาสนสถานซึ่งมีความสำคัญต่อพี่น้องชาวจีนมาตลอด ทุคยุคทุกสมัย
ศาลเจ้าเป็นสถานที่ประดิษฐานรูปเคารพ ของเหล่าเทพเจ้าที่เคารพนับถือ ตลอดจนป้ายบูชาดวงวิญญาณของบรรพชน
ภาพศาลเจ้าแม่กวนอิม จ.ภูเก็ต
ชาวจีนทุกกลุ่มภาษา ต่างมีความเคารพต่อเทพเจ้าของกลุ่มตน และได้สร้างศาลเจ้าขึ้นในชุมชนที่ตนอยู่อาศัย แม้ว่าศาลเจ้าจะมีหลากหลายรูปแบบตามศิลปะท้องถิ่น ของแต่ละกลุ่ทภาษา แต่ความสำคัญและหน้าที่ของศาลเจ้าก็ไม่ต่างกัน
จริงๆแล้ว ศาลเจ้ายังทำหน้าที่มากกว่านั้น
ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม จ.ตรัง
นอกจากจะใช้ประดิษฐานรูปเคารพของเหล่าเทพเจ้าแล้ว
ศาลเจ้ายังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางชุมชน ให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนนั้นๆ ได้มารวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องเล่าประสบการณ์ หรือจะคอยเป็นที่พึ่งในยามทุกข์ยากลำเค็ญ เช่นการแจกทาน การเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือยามมีภัยต่างๆ
ศาลเจ้าปุ่นเถ้ากง จ.อุทัยธานี
การทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน เปรียบเสมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ ที่มีครูจำนวนมากหน้าหลายตา คอยถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากอดีตสู่คนรุ่นใหม่
เราอาจจะเคยเห็นห้องเรียนภาษาจีนในศาลเจ้า ห้องเรียนพู่กันจีน ร้องเพลงจีน ดนตรีจีน กิจกรรมของผู้สูงวัยชาวจีนอย่างไพ่นกกระจอก
เด็กๆที่วิ่งเล่นอยู่ในศาลเจ้า เวลาที่อากงอาม่า อาเจ็ก อาแปะ ไปดูงิ้วหรือไปไหว้เจ้า ย่อมได้รับวัฒนธรรมต่างๆเหล่านี้ไปโดยไม่รู้ตัว
ศาลเจ้าจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมจีน จากรุ่นสู่รุ่น
ศาลเจ้าสามเล่งเตียน กวนเส่งเต้กุ้น จ.สงขลา
จะเห็นได้ว่าในประเทศไทยมีศาลเจ้าอยู่ในทุกที่ ที่ชาวจีนโพ้นทะเลอาศัยอยู่ หากแต่มุมมองของศาลเจ้าในยุคหลัง อาจจะแตกต่างไปจากเดิม
บางแห่งถูกปล่อยทิ้งร้าง บางแห่งกลายเป็นเพียงสถานที่ให้ผู้คนขอพรต่อเทพเจ้า บางแห่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ทุกแห่งก็ยังคงทำหน้าที่ส่งมอบมรดกของบรรพชนจีน ผ่านความเป็นศาลเจ้าอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
หากมีโอกาสไปศาลเจ้าครั้งหน้า อาจจะมีเรื่องราวประทับใจจากบทบาทอีกด้านของศาลเจ้าก็เป็นได้ครับ
โฆษณา