7 พ.ค. 2020 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
ลวงลอนดอน กระฉ่อนเมือง
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1810 หรือตีเป็นเวอร์ชั่น พุทธศักราช ก็ประมาณ พ.ศ. 2353 เทียบยุคสยาม ยุคนั้นคงเป็น ช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ บวกลบคูณหารกันแล้ว ก็เท่ากับ สองร้อยกว่าปีที่ผ่านมานั่นเอง เกิดเรื่อง ไม่เป็นเรื่อง จนวันนี้ผู้เขียนต้องมานั่งเล่าเรื่อง นี่แหละ
เรื่องราวความโกลาหล กลายเป็นจราจลย่อม ๆ จากความปราดเปรื่อง เรื่องไม่เข้าท่า กลายเป็นสิ่ง ที่ถูกกล่าวถึง มากที่สุดแห่งยุค ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมืองที่ได้ชื่อว่า รุ่งเรื่องและมีอิทธิพลมากที่สุด แห่งหนึ่ง
เรื่องราวของชายสองคน ที่เล่นพิเรน ด้วยเงินเดิมพันจำนวน 1 กินนี .. อ่านออกเสียงให้ดีนะครับ กินนี นะ ไม่ใช่ กินนี่ หรือ กินนี้ กินไม่ได้ครับ ต้องใส่ถุงกลับบ้านอย่างเดียว ช่วงนี้เคอร์ฟิว เข้าใจตรงกัน ..!!
ก่อนอื่น เรามาตีมูลค่า ของเงินกินนี กันก่อน (อย่าพึ่งเบื่อ) เงินกินนี ในเมืองลอนดอน ยุค ค.ศ. 1660 - 1813 นั้น มีลักษณะเป็นเหรียญทอง (ผูกสายคล้องคอ ถือว่า เป็น The Winner ได้เลย) 1 กินนี ตอนนั้น มีมูลค่า ราว ๆ 12 ชิลลิ่ง หรือประมาณ 1 ปอนด์กว่า ๆ
เงิน 1 ปอนด์ เทียบเงินไทย ก็คงตกประมาณ 50 บาท แล้วเงิน 50 บาท ยุคสองร้อยปีก่อน ซื้ออะไรได้บ้าง ก่อนจะซื้อ ก็คงต้องรู้ว่า 50 บาท จะได้เท่ากับ 12 ตำลึงกว่า ๆ (อาศัยเก็บริมรั้ว ไปต้มบ่อย ก็ได้ไม่เกิน 13 ตำลึง แน่ ๆ) หรือ 50 บาทที่ว่า ขาดอีกนิดหน่อย ก็จะได้ เกือบ ๆ 1 ชั่ง เพราะ 1 ช่าง เท่ากับ 1 ชีวิต (โอ้ยยย .. มันคนละช่าง) เพราะ 1 ชั่ง เท่ากับ 80 บาท .. พอแค่นี้ก่อนดีกว่า ชักปวดหัวแล้ว เอาเป็นว่า 1 ชินนีสมัยโน้น มีค่าราว ๆ หลักหมื่น สมัยนี้ (จบป๊ะ)
เรื่องเริ่มจาก ธีโอดอร์ ฮุค (Theodore Hook) รับพนันจาก แซมมวล บีซลี่ย์ (Samuel Beazley) ว่าถ้าหากทำให้บ้านหลังใด หลังหนึ่งในลอนดอน กลายเป็นที่พูดถึง อย่างไม่สร่างซา จะถือว่า ได้พนันไป แต่หากทำไม่ได้ ก็จะเสียเงิน จำนวน 1 กินนี นั่นเอง โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องทำให้สำเร็จ ภายใน 7 วัน
จากเงื่อนไข ทำให้ ธีโอดอร์ ฮุค ฉุดคิด ขึ้นมาทันทีว่า "เฮ้ย .. !!! มันเห็นเราเป็น ธีโอดอร์ ไอสะตาย หรือไร ตัวเรานั้น เป็นเพียง นักเขียนบทตลก ในละครโอเปร่า เท่านั้น หาได้มีปัญญา เฉลี่ยวฉลาด เยี่ยงท่าน อัลเบิร์ต หาได้ไม่"
แต่พ่อตัวป่วนของเรา ก็ได้ลงมือทำปฎิบัติการ สะท้านโลก ด้วยการเขียนจดหมาย ถึงคอลั่ม เสพสม บ่มิสม (จะเขียนไปทำบ้าอะไร) เขียนจดหมายถึงบุคคลต่าง ๆ แหล่งข้อมูลประมาณการไว้ว่า มีจำนวนมากกว่า สี่พันฉบับ (ถ้าเป็นสมัยนี้ ซีร็อก เถอะครับ)
🎤 🎼 "เนื้อความจดหมาย เธอเขียนบรรยาย ถึงชายคนนึง" 🎧 (มนสิทธิ์ คำสร้อย ก็มา) เนื้อความจดหมายนั้น เขียนเพื่อโน้มน้าว ให้ทุกคน มาติดต่อธุระ กับคุณนายท็อตแน่ม (Mrs. Tottenham) บ้านเลขที่ 10 ถนนเบอร์เนอร์ส เขตเวสมินเตอร์ กรุงลอนดอน ธุระที่ว่านี้ ทุกคนนั้น ล้วนยากจะปฎิเสธ
หากจดหมายเขียนถึงพ่อค้าปลา เนื้อหาจดหมาย ก็จะระบุว่า ต้องการซื้อปลา ให้ราคาดี โดยจะเหมาปลาทั้งหมดที่มี พร้อมทั้ง ถ้าหากนำส่งปลาตามเวลาที่กำหนด จะจ่ายเพิ่มให้อีกเท่าตัว มีมากเท่าไหร่ ยินดีรับซื้อทั้งหมด
จดหมายที่เขียนถึง ผู้ว่าการธนาคารใหญ่ ในลอนดอน ก็จะระบุว่า ตนมีความประสงค์ ที่จะบริจาคทรัพย์สินส่วนหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้แล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อธนาคาร โดยผู้ว่าการ ฯ จะต้องเดินทางมารับทรัพย์สินดังกล่าว ด้วยตนเอง
จดหมายทั้งหมด เขียนด้วยเนื้อความจูงใจ ตามแต่บุคคล ถูกส่งออกไปเป็นจำนวนมาก ทั้งคนขายปลา ร้านดอกไม้ ร้านเฟอร์นิเจอร์ คนขายถ่าน หรือแม้กระทั่ง นายธนาคาร นายกเทศมนตรี องค์สังฆราชาของแคนเตอเบอรี่ รัฐมนตรีในคณะรัฐบาล ท่านดยุคผู้สูงศักดิ์ ล้วนมีจดหมาย ส่งถึงหน้าประตู
แล้ววันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ก็มาถึง .. (นั่นมัน วันลอยกระทงแล้ว) แล้ววันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1810 ก็มาถึง คุณนายท็อตแน่ม ต้องเปิดประตู ออกมาพบกับ คนขายเนื้อ คนส่งถ่าน ร้านตีเหล็ก คนรีดนม ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนสุดจะทน
เมื่อเวลาขยับเข้าใกล้เที่ยง ผู้คนที่เริ่มหนาแน่นขึ้น ยิ่งสร้างสถานะการณ์ที่ย้ำแย่ ทั้งความร้อน การเบียดเสียด การขนสินค้าขึ้นลง กลับไป กลับมา ถนนที่โล่งกว้าง ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วย รถม้า รถลาก และเสียงโวกเวก โวยวายจนฟังไม่ได้ศัพท์
แขกระดับวีไอพี ที่เริ่มหลังไหล มาร่วมชุมนุม ที่ไม่ได้นัดหมายนี้ เริ่มทะลักเข้าสู่เมือง พร้อมกับผู้ติดตาม ที่ขนกันมาอีกหลายโขยง คงไม่ต้องบอกว่า จลาจลก่อตัวขึ้นแล้ว โดยมีจุดศูนย์กลาง อยู่ที่บ้าน คุณนายท็อตแน่ม บ้านเลขที่ 10 แห่งเวสมินเตอร์
เจ้าของบ้านหลังดัง ที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ ตอนนี้กำลังจะคลั่ง ด้วยแขกไม่ได้รับเชิญ ที่เดินทางมาอย่างไม่หยุดหย่อน เช่นเดียวกัน กับผู้มาเยือน ที่ออกอาการเหมือนฟิวส์จะขาด สินค้าที่ขนมาต้องเสียหาย จะเดินทางกลับก็ไม่ได้ ต้องติดแหง็ก อยู่กลางมหาฝูงชน อย่างจนใจ
ในที่สุด สภาวะปกติก็เริ่มกลับคืนมา แต่เวลา ก็ปาไปจนดึก สองหนุ่ม ธีโอดอร์และแซมมวล ที่ซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ อย่างไม่ห่วง กระหยิ่ม ยิ้มย่อง เพราะภาระกิจครั้งนี้ สำเร็จลุล่วง มันจะถูกกล่าวขาน ไปนานชั่วลูกหลาน ซึ่งนี่ก็กว่าสองร้อยปีเข้าไปแล้ว ใครจะเชื่อว่าต้นเหตุแค่เงิน 1 กินนี
น่าแปลกใจที่ ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ไม่มีการฟ้องร้อง ดำเนินคดี หรือดำเนินการลงโทษสองตัวป่วน ที่สร้างความโกลาหล ให้เมืองลอนดอน และเรื่องนี้ ก็กลายเป็นตำนาน การโกหกครั้งหนึ่ง ที่ถูกเล่าต่อกันมา กว่าสองศตวรรษ
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
สัมผัสเบา ๆ จากปลายนิ้วท่าน สามารถให้กำลังใจผู้เขียนได้ง่าย ๆ
กดไลค์ = ชอบ
กดแชร์ = เห็นว่ามีประโยชน์
คอมเม้นต์ = เพื่อติชม และเป็นกำลังใจ
แหล่งข้อมูล ภาพ และสื่อประกอบ
หนังสือ ตำนานลวงสะท้านโลก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา