8 พ.ค. 2020 เวลา 16:33 • สุขภาพ
“รัฐบาลกลางสหรัฐฯกับความล้มเหลวในการรับมือCovid-19”
จากประสบการณ์ที่ต้องอยู่ที่นี้ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อและดูข่าวทุกวันเลยอยากเขียนแชร์ว่าอเมริการับมือกับโควิทยังไง ทำอีท่าไหนถึงมีจำนวนผู้ติดเชื้อถึงล้านคน เวอร์ชั่นภาษาไทยอาจจะเขียนต่างเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนิดหน่อย (ภาษาอังกฤษอ่านได้ในBlogนี้) 👇
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจในทุกด้านๆไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง การทหารหรือแม้กระทั่งวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เป็นประเทศที่มีทั้งเงิน ทั้งอำนาจ มีสถาบันวิจัยทางเทคโนโลยีการแพทย์มากมายควรจะเป็นประเทศต้นแบบที่สามารถรับมือกับCovid-19ได้เป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
อเมริกาล้มเหลวในเรื่องการรับมือCovid-19อย่างสิ้นเชิงจนทำให้เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ1และคงไม่มีใครสามารถแซงได้ทั้งที่เป็นประเทศที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล มีจำนวนประชากร300กว่าล้านคน น้อยกว่าจีนและอินเดียถึงพันล้าน
แม้ในตอนนี้อเมริกาจะเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับ1ของโลกแต่ชาวอเมริกันหลายคนกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน ยังคงรวมตัวประท้วงเพื่อกดดันผู้ว่าการรัฐในหลายๆรัฐให้ยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด หรือ Shelter in place order อะไรทำให้ชาวอเมริกันมีความคิดเช่นนี้ ?
สาเหตุสำคัญปฎิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากตัวDonald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ชอบออกมาให้ข่าวและความรู้ผิดๆเกี่ยวกับCovid-19อยู่บ่อยครั้งโดยไม่สนใจคำทักท้วงจากCDC และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และระบาดวิทยา หนำซ้ำยังเอาเรื่องCovid-19มาเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้
มาดู Timeline การเกิดCovid-19และการรับมือของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Government)กันบ้าง Coronavirus
- เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เมื่อธันวาคม 2019
- มกราคม 2020 พบผู้ติดเชื้อรายแรกในสหรัฐฯ เลขานุการHHSออกมาเตือนว่าอาจจะเป็นโรคระบาดได้ สหรัฐฯนำเครื่องบินไปรับdiplomats กลับอเมริกา
- ปลายเดือนกุมภาพันธ์ WHO ประกาศ Global Health Emergency แต่รัฐบาลกลางสหรัฐฯนำทีมโดยทรัมป์ก็ไม่สนใจอะไร ออกคำสั่งระงับคนต่างชาติทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศจีนห้ามเข้าประเทศ แต่ยังไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อภายในประเทศ ทั้งที่ตอนนั้นในอเมริกาเริ่มมีการแพร่ระบาดบ้างแล้ว
- ในช่วงตอนต้นของการระบาดทรัมป์ออกมาบอกว่าเรื่องCovid-19 เป็นแค่เรื่องหลอกลวงที่พรรคเดโมแครตสร้างขึ้น หนำซ้ำยังบอกอีกว่าCovid-19 เป็นเหมือนแค่ไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น ในอเมริกามีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ปีละ3หมื่นกว่าคน ดังนั้นประชาชนควรกลัวFlu มากกว่า Covid-19
- เมื่อCoronavirus ลามหนักในยุโรป ทรัมป์สั่งแบนเที่ยวบินจากยุโรปทั้งหมดยกเว้นอังกฤษ ทำให้ชาวอเมริกันที่อยู่ในยุโรปจำนวนมากรีบเดินทางกลับอเมริกาและเมื่อถึงสนามบินแล้วกลับไม่มีมาตรการตรวจคัดกรองโรคอย่างรัดกุม ไม่จัดสถานที่สำหรับกักตัวเพื่อดูอาการแต่กลับปล่อยออกไปหน้าตาเฉย ชาวอเมริกันที่กลับมาจากยุโรปกลายเป็นsuper spreaderในทันที
- เดือนมีนาคม จำนวนผู้ติดเชื้อในอเมริกาพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ทรัมป์กลับพยายามพูดให้ชาวอเมริกันเข้าใจว่ารัฐบาลเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างดีและทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงEaster แม้ว่าCDCจะออกมาให้คำแนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัย แต่ทรัมป์ในฐานะผู้นำประเทศกลับบอกว่าตัวเองจะไม่ใส่
- เดือนเมษายน จำนวนผู้ติดเชื้อในอเมริกาพุ่งขึ้นสูงถึง1ล้านคนและมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เกิดขึ้นทุกวัน มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากถึง4พันคนภายใน24ชั่วโมง ทรัมป์แทนที่จะสนับสนุนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด รณรงค์ให้เกิดPhysical distancing กลับสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงทั้งที่จำนวนผู้ติดเชื้อมีเป็นล้าน! และยังให้คำแนะนำในการป้องกันโรคแบบผิดๆไม่ว่าจะเป็นการให้ออกไปตากแดดฆ่าเชื้อโรค และ ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าปอด จนCDCต้องออกมาชี้แจงวุ่นวาย เพราะมีคนทำตามที่ทรัมป์แนะนำ
แนวคิดแบบสุดโต่งของทรัมป์ได้รับการสนับสนุนจากพรรคRepublican ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าการรัฐTexas ที่ออกมาประกาศเปิดเมือง ให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ ผู้สูงอายุสามารถดูแลตัวเองได้... ข้อมูลที่บิดเบือนของทรัมป์และการนำเอาCovid-19มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองหวังเรียกคะแนนเสียงให้ได้เป็นประธานาธิบดีต่ออีกหนึ่งสมัยนั้นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสาเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อที่รุนแรงเท่านั้น
อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เป็นปัญหาเรื้อรัง และเป็นkeyสำคัญในการคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีในทุกยุคทุกสมัย นั่นคือปัญหาHealthcare system หรือระบบประกันสุขภาพที่ดีไม่เท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆและหลายประกันสุขภาพ (Health insurance) ไม่ครอบคลุมCovid-19 ทำให้ชาวอเมริกันต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาล โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อสำหรับคนที่ไม่มีประกันสุขภาพอยู่ที่ $907 และค่าใช้จ่ายสำหรับtreatmentที่ใช้ในการรักษาแพงถึง34,000-35,000 เหรียญ ด้วยค่าใช้จ่ายที่แพงขนาดนี้ทำให้ประชาชนหลายคนหลีกเลี่ยงการพบแพทย์โดยไม่จำเป็น เชื่อได้ว่าคงมีชาวอเมริกันที่ติดเชื้ออีกจำนวนมากแต่ไม่ยอมไปพบแพทย์
นอกจากนี้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อย่างหนักก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนที่ติดเชื้อเข้าไม่ถึงการรักษาจนทำให้เสียชีวิต และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักจนเกินไป เกิดความเครียดและความกดดันจนลามไปถึงการฆ่าตัวตาย
เราเชื่อว่าการเกิดCovid-19ครั้งนี้เป็นการตีแผ่ปัญหาHealthcare systemของอเมริกาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของทรัมป์ว่าระหว่างการรักษาชีวิตพลเมืองสหรัฐกับการรักษาฐานเสียง ทรัมป์ให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากกว่ากัน Covid-19จะเป็นตัวชี้ชะตาทางการเมืองของทรัมป์ว่าจะอยู่หรือจะไปเพราะเหตุการณ์นี้คงทำให้ชาวอเมริกันตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรจะให้โอกาสทรัมป์อีกหรือไม่ในการเลือกตั้งปลายปีนี้
โฆษณา