Blockdit Logo (Mobile)
พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
•
9 พ.ค. 2020 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
เหตุผลที่อเมริกาไม่สามารถเบี้ยวหนี้จีนได้
โดย พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
ในเมื่อประเทศจีนเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของไวรัส ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศอเมริกาได้รับความเสียหายอยู่ตอนนี้
แล้วทำไมเราถึงต้องจ่ายหนี้คืนให้เขาด้วย!?
Licensee : พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราเริ่มที่จะเห็นข่าวเรื่องสงครามการค้าขึ้นมาอีกรอบจาก Donald Trump ประธานาธิบดีแห่ง สหรัฐอเมริกา
ที่ร้ายยิ่งไปกว่านั้น... Trump ถึงขั้นพูดเรื่องที่ อเมริกาอาจจะไม่จ่ายหนี้ที่ครบกำหนดจะต้องจ่ายให้ประเทศจีน!
นั่นทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนุกขึ้นมาครับ
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้งัดข้อกับประเทศจีนไปหลายยกตั้งแต่ช่วงกรกฏาคม ปี 2018 ผ่านการขึ้นภาษี และกระบวนการต่างๆตลอดระยะเวลา 2 ปี นั่นทำให้โฉมหน้าการค้าของโลก
ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปโดยที่เน้นการเจรจาในระดับทวิภาคีมากขึ้นกว่าเดิม
จวบจนกระทั่งลากยาวมาถึงต้นปี 2020 ที่ทำท่าว่าจะเจรจากันได้บ้างแล้ว
ผ่านข้อตกลงการค้าในเฟสที่ 1 โดยเนื้อหาภายในนั้นมีส่วนนึงที่ระบุเอาไว้ว่า...
ประเทศจีนจะต้องสั่งซื้อสินค้าจากอเมริกาเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากฐานเดิมเมื่อปี 2017
"ถ้าจีนไม่ซื้อ เราก็ยกเลิกข้อตกลงการค้า ง่ายๆแค่นั้น" Trump กล่าวในงานที่จัดขึ้นโดย สถานีโทรทัศน์ Fox News
หนึ่งในที่ปรึกษาของทางรัฐบาลจีนได้พูดถึงข้อเท็จจริงที่น่าตกใจว่า...
"ประเด็นนี้ได้ขึ้นมาสู่ระดับคณะรัฐมนตรีแล้ว
"นั่นแสดง ให้เห็นว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ค่อนข้างน่ากังวลพอสมควร
https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3083430/coronavirus-top-us-china-trade-negotiators-vow-save-phase-one
ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศจีน มีมาตรการเปิดตลาดสินค้าหลากหลายประเภทจากทางสหรัฐอเมริกา เช่น อาหารสัตว์ มันฝรั่ง ผลิตภัณฑ์เนื้อวัว เป็นต้น
จีนทำแม้กระทั่ง ยกเลิกกำแพงภาษีย้อนหลังในกลุ่มข้าวฟ่าง เนื้อหมู ข้าวโพด และถั่วเหลือง
ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเหล่านี้เหล่านี้ล้วนเป็นฐานเสียงส่วนใหญ่ของ Trump แทบทั้งสิ้น (เอาใจเขาหน่อย ว่ากันง่ายๆ)
Licensee : พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ในช่วงระหว่างเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ ของปี 2020 เป็นช่วงที่จีนเริ่มเข้าควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID เป็นส่วนๆ จนกระทั่งสามารถควบคุมโรคให้อยู่ในระดับที่สามารถดำเนินกิจกรรมภายในประเทศได้บ้าง
แต่นั่น...ไม่ได้รวมถึง สถานการณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศ
เราได้เห็นมาตรการต่างๆแล้วครับ ว่ามีการปิดกั้นการขนส่งสินค้า รวมถึงการคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ จวบจนกระทั่ง
อเมริกาก็ต้อง "ปิดประเทศ"
จึงทำให้ช่วง เดือนมีนาคม - เมษายนของปีนี้ ยอดการสั่งซื้อสินค้าจากทางประเทศจีนลดลง
Licensee : พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้โจมตีประเทศจีนอย่างต่อเนื่องว่าเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจของอเมริกาได้รับความเสียหายอยู่ ณ ขณะนี้
นั่นจึงทำให้เริ่มเกิดแนวคิดที่ว่า หรือ อเมริกา จะไม่จ่ายหนี้ให้จีนดื้อๆอย่างนั้นเลย นั่นก็คือการปล่อยให้ Default หรือก็คือการผิดนัดชำระหนี้
(การที่อเมริกากู้เงินมามากขนาดนี้เพื่อที่จะพยุงเศรษฐกิจและผู้คนเอาไว้ในช่วงนี้ จะหาเงินมาจ่ายหนี้ในรูปแบบปรกติได้รึเปล่า นั่นก็เป็นอีกประเด็นที่เราต้องติดตามต่อไป)
เราจะเห็นได้ว่าสื่อต่างประเทศหลายแหล่งเริ่มที่จะให้ข้อมูลทำนองนี้ออกมามากขึ้น
ในมุมมองของนักลงทุน หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง นั่นไม่ต่างอะไรจากการที่มีคนสั่งยิงระเบิดนิวเคลียร์ใส่ตลาดพันธบัตรเลยครับ เพราะประเทศจีนได้ทำการซื้อพันธบัตรผ่านทางตัวแทนตามช่องทางต่างๆ
ดังนั้นการที่จะเลือกเจาะจงโจมตีเจ้าหนี้รายใดรายหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่นั่นไม่ได้ถึงขนาดว่า...จะทำไม่ได้
เพราะอำนาจตาม ประกาศสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินระดับประเทศนั้นควบรวมถึง
การจัดการมาตรการด้านเศรษฐกิจในสภาวะฉุกเฉิน ด้วย
ประเด็นคือ... การกระทำในลักษณะนี้ค่อนข้างที่จะเป็นการโจมตีโดยโจ่งแจ้งซึ่งนั่นจะกระทบกับ "ความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาในภายภาคหน้า"
เพราะ "เจ้าหนี้" ของสหรัฐไม่ได้มีแค่ ประเทศจีน เพียงประเทศเดียว
https://www.visualcapitalist.com/foreign-countries-holding-most-u-s-debt/
หาก อเมริกาขาดความน่าเชื่อถือแล้ว
ใครจะกล้ามาเป็นเจ้าหนี้กัน?
วันดีคืนดี เกิดอภิชาติลูกหนี้รายนี้เกิดกินยาผิดขึ้นมาจะเบี้ยวหนี้เอาดื้อๆแบบในกรณีนี้รึเปล่า ?
จริงไหมครับ?
แปลและเรียบเรียงโดย
พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
หวังว่าข้อมูลชิ้นนี้จะทำให้ทุกท่านได้รับสาระดีๆเช่นเคยครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่คอยสนับสนุนหมูน้อยเสมอมา
ฝากกด like และ กด share เพื่อเป็นกำลังใจให้หมูน้อยด้วยนะครับ
หมูน้อย
หากใครยังไม่ได้อ่านเรื่องมัลดีฟส์สามารถเลื่อนดูที่โพสด้านล่างได้เลยครับ
reference

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา