11 พ.ค. 2020 เวลา 04:00 • ปรัชญา
รู้จัก Rape Culture วัฒนธรรมการข่มขืน ที่สนับสนุนการข่มขืน
Rape Culture หรือวัฒนธรรมการข่มขืน คือมุมมองทางสังคมเกี่ยวกับเพศและเซ็กส์ ที่ส่งผลต่อความคิดและความเข้าใจเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ อันมีผลทำให้เกิดปัญหาการกดทับทางเพศและปัญหาการข่มขืนที่ตามมา
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่
1. Normalisation การทำให้เป็นเรื่องปกติ เช่น
- ชอบหนังแนวตบจูบ >>> ส่งเสริม และมองว่าการทำร้ายร่างกาย และการบังคับจูบเป็นเรื่องปกติ
- เขินฉากที่พระเอกข่มขืนนางเอก >>> ส่งเสริม และมองว่าการข่มขืนเป็นเรื่องโรแมนติก เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก
- ใช้คำว่าปล้ำแทนคำว่าข่มขืน >>> มองว่าการข่มขืนสามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ โดยเลือกใช้คำว่าปล้ำ เพื่อให้การข่มขืนดูเบาลง เป็นไปด้วยความรัก
- แซว และพูดจาละลาบละล้วง เช่น วันนี้ชุดรัดจังนะ คอมเม้นท์ว่าเห็นแล้วน้ำเดิน เห็นแล้วของขึ้น >>> มองว่าการพูดจาละลาบละล้วงเป็นเรื่องทำได้
- มองว่าแนวคิดข้างต้น เป็นเรื่องขำ ๆ ไม่ได้มีเจตนาร้าย >>> ส่งเสริม และทำให้การละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะที่ตัวเองทำ เป็นเรื่องขำๆ สามารถทำได้
2. Degradtion ความเสื่อมถอย เช่น
1
- โทษว่าเป็นความผิดของเหยื่อ เช่น เด็กมันชอบยั่ว แต่งตัวโป๊ก็ไม่แปลก >>> ส่งผลให้เหยื่อไม่ได้รับความยุติธรรม
- มองว่าการโดนข่มขืนเป็นเรื่องน่าอาย เป็นตราบาป >>> ทำให้เหยื่อไม่กล้าพูด เพราะไม่อยากถูกสังคมตีตรา ส่งเสริมให้มีการข่มขืนต่อไป
- มีการถูกเนื้อต้องตัว พูดจาแทะโลม แต่เหยื่อได้รับการแนะนำให้ปล่อยผ่าน >>> ทำให้การถูกเนื้อต้องตัวตัว และพูดจาแทะโลมดำเนินต่อไป
- มองว่าคนที่ถูกข่มขืน ต้องเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวหรือทำตัวยั่วยวน >>> ส่งผลให้เกิดการโทษเหยื่อ หรือไม่เชื่อเหยื่อ หากไม่ตรงกับความคิดของตน
- มองว่าคนที่ถูกข่มขืน ต้องเป็นคนหน้าตาดี >>> ส่งผลให้ไม่เชื่อเหยื่อ ที่หน้าตาไม่ดีเท่าที่ตนคิด
- มองว่าผู้ที่ข่มขืน ต้องหน้าตาร้าย ด้วยคิดว่าหน้าตาดี ไม่จำเป็นต้องข่มขืน สามารถหาได้ ทำให้ไม่เชื่อ หากผู้กระทำผิดหน้าตาดี
- มองว่าผู้ชายที่ข่มขืน ทำไปตามสัญชาติญาณ เพราะถูกยั่วยวน >>> ทำให้ความผิดของผู้ข่มขืนดูลดน้อยลง และถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ
- มองว่าผู้หญิงเท่านั้นที่ถูกข่มขืน >>> ทำให้ไม่เชื่อในกรณีที่มีผู้ชายถูกข่มขืน ทั้งจากผู้หญิงหรือผู้ชาย
- มองว่าการถูกข่มขืนต้องเกิด ณ ที่ที่หนึ่ง เช่น ต้องอยู่ในป่า อยู่ในที่ลับตาคน >>> ทำให้ไม่เชื่อเรื่องการข่มขืน หากเกิดในที่ที่ตนคิดว่าไม่น่าเกิด เช่น บ้าน โรงเรียน
3. Assualt การใช้กำลัง เช่น
- มอมเหล้า วางยา
- การดึงถุงยางออก ระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- การปล้ำ การข่มขืน
สิ่งเหล่านี้ กดทับการล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้เหยื่อไม่กล้าพูด และส่งผลให้มีการล่วงละเมิดทางเพศต่อไปเรื่อยๆ นอกจากการไม่สนับสนุนวัฒนธรรมการข่มขืนแล้ว เราควรกล้าที่จะพูด หากเกิดหรือเห็นการล่วงละเมิดทางเพศ
ติดตามพวกเราเพิ่มเติมได้ที่
อ้างอิง: https://bit.ly/2SOs6AI
ภาพประกอบ: Pixabay
โฆษณา