11 พ.ค. 2020 เวลา 04:00 • ข่าว
ซากเรืออายุ 100 ปี ที่โดนธรรมชาติเข้ายึดครองอย่างสวยงามในออสเตรเลีย
“the SS City of Adelaide” เรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไอน้ำเคยโลดแล่นอยู่บนผืนทะเลเป็นเวลา 50 ปี ก่อนที่มันจะอัปปางลงนอกชายฝั่งของออสเตรเลีย ในอ่าว Cockle Bay เกาะ Magnetic มันได้ตกเป็นสมบัติทางทะเลตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 และเมื่อเวลาผ่านไป มันค่อย ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยต้นโกงกาง กลายเป็นเกาะต้นไม้กลางน้ำ
เรือลำนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1863 ที่เมือง Glasgow ประเทศ Scotland เดิมทีมันถูกใช้ขนส่งผู้โดยสารไปยังเมืองต่าง ๆ เช่น Sydney, Melbourne และ Honolulu และหลังจากนั้นเกือบ 30 ปี มันก็ถูกดัดแปลงให้เปลี่ยนบทบาทจากรับส่งผู้คนมาเป็นบรรทุกถ่านหินและสินค้าอื่น ๆ จนเมื่อปี 1912 เรือเกิดเพลิงลุกไหม้ กินเวลาไปกว่า 2 วันก่อนที่จะสงบลง
หลังจากนั้น 3 ปี เรือลำนี้ได้ถูกขายให้ George Butler ผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะ Magnetic เพื่อที่จะนำมาใช้เป็นที่พักนักท่องเที่ยว หรือสำหรับกันคลื่นสำหรับอ่าว Picnic Bay แต่ที่ไหนได้ มันกลับไปจมอยู่ที่อ่าว Cockle Bay เสียก่อนระหว่างที่มันกำลังถูกลากไปยังสถานีปลายทาง ตั้งแต่บัดนั้นมันก็อยู่ ณ ที่แห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 the SS City of Adelaide ได้ถูกทำลายไปบางส่วนจากอุบัติเหตุระหว่างการฝึกซ้อม และในปี 1971 ซากเรือลำนี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับพายุไซโคลน Althea ทำให้เปลือกเหล็กของมันหลุดออกมาเป็นบางส่วน
เมื่อเวลาล่วงเลย ซากเรือที่มีอายุกว่า 100 ปีก็ถูกแปลงโฉมโดยธรรมชาติ กลายมาเป็นบ้านของต้นโกงกาง ซึ่งที่นี่ ต้นโกงกางเหล่านี้ก็ถูกดูแลเป็นพิเศษ ไม่ได้รับการรบกวนจากการหาปลาเชิงพาณิชย์ด้วย เพราะตั้งอยู่ในส่วนของ Australian Marine Park ทำให้มันสามารถเจริญงอกงามอย่างช้า ๆ ปกคลุมเรือลำดังกล่าวได้อย่างสวยงาม
ตอนนี้ เรือลำดังกล่าวอยู่ห่างจากชายฝั่ง 300 เมตร และด้วยความสวยงามที่แปลกตาของมัน เจ้าซากเรือที่ค่อย ๆ กลายเป็นป่านี้กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักดำน้ำ
ขอบคุณที่มาภาพ Drone Hack Productions
เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
environman
ติดตามกันได้ที่
โฆษณา