12 พ.ค. 2020 เวลา 01:28 • บันเทิง
10 วงร็อคชั้นนำของเมืองไทยในยุค 90
หากจะพูดถึงดนตรีแนว Rock ที่เกิดขึ้น ในยุคปี 90 – 2000 และคงจะเป็นยุคทองที่แท้จริงของวง Rock เลยก็ว่าได้น่ะครับ เพราะเป็นยุคที่ได้ถือกำเนิดวงดนตรี Rock มากมายและโด่งดังสุดๆ ในยุคนั้น และบางวงยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการจนถึงปัจจุบันแต่ก็มีอีกหลายวงที่ได้ยุบวงและแยกย้ายกันไปตามกาลเวลา และในวันนี้ทีมงาน Top 10 Special Thailand จะขอย้อนเวลาไปรำลึกถึง10 วงดนตรี Rock ในยุคนั้น โดยเหล่าวัยรุ่นในยุคนั้นน่าจะจดจำกันได้ดีและคงจะคิดถึงกันครับ
หิน เหล็ก ไฟ 1993
เริ่มกันที่วงแรกครับ โดยหินเหล็กไฟนั้นเกิดจาก 2 สมาชิกวงดิ โอฬารโปรเจ็ค คือ โป่ง ปฐมพงศ์ และ รงค์ ณรงค์ (มือเบส) ฟอร์มวงใหม่ขึ้นมา มีโต นำพล กับ ป็อป จักรรินทร์ มาเล่นกีต้าร์ และได้น้าหมาน สมาน ยวนเพ็งเป็นมือกลอง และออกอัลบั้มชุดแรกปี 1993กับค่าย อาร์เอส โปรโมชัน เพลงที่ได้รับความนิยมในอัลบั้มนี้จะมี ยอม, เพื่อเธอ, นางแมว, พลังรัก, สู้,ร็อคเกอร์ โดยอัลบั้มหิน เหล็ก ไฟ เป็นอัลบั้มที่มียอดขายมากกว่า 1 ล้านตลับ และได้รับรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 6 ปี 1993 สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ต " Short Charge Shock Rock Concert คอนเสิร์ต ครั้งที่ 1 ที่ สนามกีฬาอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการดนตรีไทย โดยเป็นวงร็อกวงแรกของไทยที่ทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านตลับ และคอนเสิร์ต Short Charge Shock Rock Concert ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเป็นคอนเสิร์ตของศิลปินไทยที่มียอดผู้ชมมากที่สุดในปี 1993 จนต้องจัดครั้งต่อมาในปี 1994 และ 1995
หิน เหล็ก ไฟ ออกอัลบั้มอีกเป็นชุดที่ 2 ในปี 1994 ในชื่อชุด "คนยุคเหล็ก" มีเพลงที่ได้รับความนิยมคือ คนยุคเหล็ก, หลงกล, มั่วนิ่ม, คิดไปเอง จากนั้นสมาชิกในวงก็แยกย้ายออกไป โป่ง ปฐมพงศ์ กับ ป๊อบ จักรรินทร์ ยังคงอยู่โดยรวมตัวกันในชื่อวง "The Sun" ออกอัลบั้มอีกในปี 1997 และปี 2000
และในปี 2005 สมาชิกในวงหิน เหล็ก ไฟ ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และเพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาอีก คือ ปิงปอง จากวง ไฮ-ร็อก และออกอัลบั้มเป็นชุดที่ 3 ในชื่อชุด "Never Say Die" มีเพลงที่ได้รับความนิยมคือ ศรัทธา
ปี 2006 ออกอัลบั้มชุดที่ 4 "Acoustique" นำ 11 บทเพลงดังมาทำใหม่ในสไตล์อคุสติค รวมกับ 2 เพลงใหม่ "อภัย" และ "ดีดี" ทั้งหมด 13 เพลง โดย หิน เหล็ก ไฟ ถือว่าเป็นตำนานวงร๊อก วงนึงที่โด่งดังมาก ๆ ในดนตรียุค 90 และเป็นวงที่คนไทยน่าจตะคิดถึงมากที่สุดอีกหนึ่งวง
โมเดิร์นด็อก 1994
โมเดิร์นด็อกเริ่มต้นจากวงดนตรีที่ชนะการประกวดโค้กมิวสิกอวอร์ด ประจำปี 1992 และได้ออกอัลบัมชุดแรก โมเดิร์นด็อก-เสริมสุขภาพ ในปี 1994 สังกัดค่ายเบเกอรี่มิวสิค โดยอัลบั้มดังกล่าวจึงประสบความสำเร็จมาก เป็นเพลงที่เน้นความมัน ความสนุก เป็นส่วนใหญ่ โดยเพลงที่เป็นที่รู้จักคือ มานี , บางสิ่ง , บุษบา , หมดเวลา และ …ก่อน
 
หลังจากออกอัลบั้มชุดแรกในปี 1994 โมเดิร์นด็อก ได้ออกอัลบั้มต่อเนื่องมาเรื่องๆจนถึงปี 2016 อีกเป็นจำนวน 5 อัลบั้มโดยมีเพลงฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น ติ๋ม และรูปไม่หล่อในอัลบั้ม คาเฟ่, สิ่งที่ไม่เคยบอก และ Happiness is… ในอัลบั้ม Love Me Love My Life, ตาสว่าง ในอัลบั้ม แดดส่อง, เงินล้าน ในอัลบั้ม ทิงนองนอย และ ทบทวน ในอัลบั้มที่ 6 โดยในอัลบั้มนี้ใช้เวลาในการปล่อยครบทั้ง 10 ซิงเกิล ในปี 2016
Blackhead 1995
ในยุคที่เพลงแนวอัลเทอเนทีฟ ได้เข้ามามีอิทธิพลสูงในวงการเพลงไทย สมาชิกวง Blackhead ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คน คือ “ปู” อานนท์ สายแสงจันทร์ “ต๋อง” สมทบ สมมีชัย “เอก” อภิสิทธิ์ พงษ์ชัยสิริกุล “ยุ่น” วิโรจน์ เจริญพิพัฒน์สิน พวกเขาออก อัลบั้มแรก ในชื่อ Mini Album : Black List ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 2538 ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน อัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเขา จึงออก ตามมา ภายใต้ชื่อ The Album Blackhead ซึ่งประสบ ความสำเร็จอย่างสูง ในฐานะวงดนตรีร็อคหน้าใหม่ นับเป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ของวงดนตรีวงนี้ และหลังจากนั้นเป็นต้นมา Blackhead ได้ออกผลงานเต็มอีกถึง 6 อัลบั้มและมีผลงานเพลงฮิตอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
 
- ในปี1997 ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 2 "Full Flavor มีเพลงดังอย่าง "หลอน" "หนักหัวใคร" และ "I Wanna flush you"
- ต่อด้วยปี 1999 อัลบั้มกับ"Pure" เป็นอัลบั้มที่ 3 ของพวกเขาและมีเพลงดังอย่าง "ยิ่งโตยิ่งสวย" "อยู่ไปไม่มีเธอ" "รักเธอกับฟักทอง" และ "อย่าเสียน้ำตา"
- ในปี 2000 ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 "Basic"โดยมีเพลงดังอย่าง "รักคือ" "ยอมรับ" "ใจฉันอยู่กับเธอ" และ "เหล้าจ๋า"
- และ Blackhead ได้เว้นการออกอัลบั้มไป 3 ปีก่อนที่จะออกอัลบั้มชุดที่ 5 "Handmade" ในปี 2003 และมีเพลงดังอย่าง "ไม่เป็นไร" "ฉันอยู่ตรงนี้" และ "เหตุผล"
- และในปี 2005 ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 6 "Ten"มีเพลงดังอย่าง "ใจร้าย" และ "ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด"
- และอัลบั้มชุดที่ 7 ในชื่ออัลบั้ม “Deep” ที่มีเพลงฮิตอย่าง “ไม่เข้าใจ” อยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย
นอกจากนี้แล้ว Blackhead ยังมีผลงาน Mini album อีกมากมาย
อัลบั้มพิเศษ à Mini Album : Black List, Blackbonus, Black Live, Relax ถือว่า Blackhead คือวงร็อกในตำนานอย่างแท้จริงของบ้านเรา และยืนระยะในวงการและมีผลงานเพลงฮิตอย่างมากมาย
Smile Buffalo 1995
Smile Buffalo แจ้งเกิดกับกระแสอัลเทอร์เนทีฟด้วยเพลง “ดีเกินไป” ในปี 1995 ส่งผลให้ 4 สมาชิก ดิษฐ์, เต็น, หนึ่ง และเชษฐ์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงร็อคชั้นนำของบ้านเราทันที อัลบั้มชุดแรกยังมีเพลง ฟ้ายังฟ้าอยู่ หนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลของพวกเขาเช่นเดียวกัน วงสไมล์บัฟฟาโล่ออกเทปกับค่าย EMI มา 2 ชุดก่อนจะย้ายไปค่ายเมคเกอร์เฮดในเครือแกรมมี่และมีผลงานออกมาอีก 3 ชุด มีเพลงฮิตอย่าง จำใจ และ กุหลาบในมือ แม้ว่าช่วงอยู่แกรมมี่จะสามารถคว้ารางวัลวงร็อคยอดเยี่ยมจากสีสันอวอร์ดมาได้ในปี 1999 แต่กระแสความนิยมถือว่าน้อยลงกว่าตอนอยู่ค่าย EMI จนสุดท้ายแยกวงกันไปเมื่อปี 2000 ช่วงแรกสมาชิกแต่ละคนแยกไปทำอัลบั้มส่วนตัว เช่นดิษฐ์และเต็นไปทำวงชื่อ สไนเปอร์ แต่ปัจจุบันต่างก็ไปทำงานเบื้องหลังกันแทบทั้งหมด เช่น ดิษฐ์ที่ยังคุ้นหน้ากับการเป็นแบ็คอัพให้ เสก โลโซ ในขณะที่เชษฐ์มือกลองหันหลังให้กับวงการไปทำเกษตรกรรม
Loso 1996
ตำนานนักดนตรี 3 ชิ้นของเมืองไทย เริ่มจากเสก มือกีต้าร์ชาวโคราชที่ตระเวนเล่นผับกลางคืนก่อนจะพบกับ รัฐ และ ใหญ่ และได้มีโอกาสไดเล่น Backup ให้กับ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ก่อนที่ได้ร่วมกันทำเพลงไปนำเสนอกับค่ายมอร์ มิวสิกในเครือแกรมมี่ ตามคำแนะนำของ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง จึงได้ออกอัลบั้มแรกในชื่อว่า Lo Society แค่เพลงแรก “ไม่ต้องห่วงฉัน” ก็ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักกับวงร็อคมากฝีมือวงนี้กันทันที
และทำอัลบั้มที่ 2 ในอีก 2 ปีต่อมาซึ่งก็ดังไม่แพ้ชุดแรก ส่งเพลง ซมซาน เป็นหนึ่งในตำนานเพลงร็อคไทย ในช่วงปี 1996 – 2003 นั้นโลโซออกอัลบั้มมาทั้งหมด 5 ชุด และมีอัลบั้มพิเศษประกอบภาพยนตร์จักรยานสีแดงอีก 1 ชุด ซึ่ง 7 ปีทองของโลโซนี้เรียกว่าออกชุดไหนมาก็ดังเปรี้ยงขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ตลอด ถือเป็นการคัมแบ็คกลับมาครองตำแหน่งจ้าวเพลงร็อคของค่ายใหญ่แกรมมี่ได้ในรอบหลายปีหลังจากปล่อยให้ค่ายอินดี้ยึดครองในยุคอัลเทอร์เนทีฟมานาน ก่อนที่จะมีข่าวช็อคแฟนๆ เมื่อเสกประกาศยุบวงไปในปี 2003 เพื่อไปเรียนต่อด้านภาษาและดนตรีที่ประเทศอังกฤษและได้ออกอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในอัลบั้ม 7 สิงหา หลังจากเรียนจบก็ก็กลับเข้าสู่วงการดนตรีต่อโดยออกอัลบั้มพิเศษคู่กับเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย นักร้องซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ชื่อชุดว่า เบิร์ด - เสก ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จมากมียอดจำหน่ายสูงสุดแห่งปีคือ 2 ล้านชุด หลังจากนั้นเสกก็ออกอัลบั้มเป็นของตนเองต่อไปในฐานะศิลปินเดี่ยว รับทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ และเขายังเป็นที่รู้จักและยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
Fly 1996
Fly เริ่มฟอร์มวงเล่นดนตรีอด้วยกันในผับที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะเข้ากรุงเทพมาเล่นดนตรีอยู่ที่ผับอยู่ประมาณ 3 ปี ก่อนจะกลับไปเล่นดนตรีที่เชียงใหม่กันอีกครั้ง พร้อมกับทำ เดโมเทป ไปเสนอกับค่ายเพลง และได้มีผลงานออกมากับทางค่ายแกรมมี่ เอนเตอร์เทนเมนต์ ในปี 1996 กับอัลบั้มแรกที่ชื่อ "Fly 12 ปีก" ซึ่งถือเป็นวงร็อกแปลก แหวกตลาด ซึ่งมีแบบอย่างการแต่งตัว กับทรงผมโล้นเตียนของ "อี๊ด" นักร้องนำและมีเพลงดังอย่าง "บิน" และ "ใบไม้" ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนั้น
Fly ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี พ.ศ. 2000 กับอัลบั้มชุดที่ 3 "fly 2 k" โดยเฉพาะเพลง "ชาวนากับงูเห่า" ซึ่งอัลบั้มของพวกเขาในชุดนี้มียอดขายทะลุล้านตลับ ซึ่งต่อมาเพลงชาวนากับงูเห่า ได้กลายเป็นเพลงสัญลักษณ์ประจำวงนี้ไปในที่สุด
ในปี 2004 ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิก โดยอี๊ดลาออกจากวงเพื่อทำผลงานเดี่ยวในเพลงแนวลูกทุ่งลูกกรุงในสังกัดเดิมทำให้นักร้องนำถูกเปลี่ยนเป็น เอ๊ด อาวุธ นุชนิล มือเบสและนักร้องนำวง สิบล้อ เข้ามารับหน้าที่เป็นนักร้องนำในอัลบั้ม Modifly ซึ่งเป็นผลงานอัลบั้มชุดสุดท้ายก่อนที่จะยุบวง
Big Ass 1997
Big Ass มีจุดเริ่มต้นจาก หมู และ อ๊อฟ ที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยอมัธยมได้ร่วมกันตั้งวงขึ้นมาแต่ไม่ได้จริงจังนัก จนเรียนจบมัธยมก็ได้แยกย้ายกันไป อ๊อฟไปเรียนต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างดุสิตจึงชักชวน แด๊กซ์ ซึ่งเรียนอยู่ที่เดียวกันมาร่วมวงด้วย ขณะนั้นหมูที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยช่างศิลป์ ก็ชักชวน ต้น เพื่อนร่วมวิทยาลัยมาด้วยอีกคน แต่ทั้งสี่ยังขาด มือกลอง หมูจึงชวน กบ ที่เป็นน้องชายมาเสริมทีมมือกลอง และกลายมาเป็นบิ้กแอส
- ในปี 1997, บิ๊กแอสได้ออกอัลบั้มชุดแรก "Not Bad" โดยมีเพลงดังอย่าง "ทางผ่าน" ที่โด่งดังและทำให้เรารู้จัก Big ass อย่างเต็มตัว
และในระหว่างปี 2000 – 2011 Big ass ได้ออกอัลบั้มอีกทั้งหมด 5 อัลบั้มในยุคก่อตั้งและมีเพลงฮิตมากมาย เช่น
- เพลง "ก่อนตาย" "ศักดิ์เอ๋ย" "รักเขาให้เท่าฉัน" และ "เธอเก็บฉันไว้ทำไม" ในอัลบั้ม XL
- เพลงดังอย่าง "ไม่ค่อยเต็ม" "เหตุผลง่าย ๆ" และ "ทิ้งไว้ในใจ" ในอัลบั้ม My World
- เพลง "ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก" "ดีแต่ปาก" "เกิดมาแค่รักกัน" "น้ำตา" "คนไม่เอาถ่าน" และเพลง "เล่นของสูง" ในอัลบั้ม Seven
- เพลง "ข้าน้อยสมควรตาย" "ปลุกใจเสือป่า" "คนหลงทาง" และ "พรหมลิขิต" ในอัลบั้ม Begin
- เพลงดังอย่าง "รัก" "ฝุ่น" "หัวใจ" "ชีวิตฉันไม่ได้เป็นของเธอ" "ส่งท้ายคนเก่า ต้อนรับคนใหม่" และ "อย่างน้อย" กับอัลบั้ม Love
- นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์พิเศษต้อนรับปีใหม่ โดยได้ร่วมงานกับวงร็อครุ่นน้องอย่าง "บอดี้แสลม" ในเพลง "เรา" ในอัลบั้ม "วันฟ้าใหม่ อีด้วยในปี 2005
- และในปี 2011 ได้ออกเพลง "ทุ้มอยู่ในใจ" เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ "Suck Seed ห่วยขั้นเทพ" ที่ร้องโดย อ๊อฟ บิ้กแอส และต่อมา Big ass ได้มีข่าวว่ามีการเปลี่ยนแปลงนักร้องนำใหม่ จาก แด๊ก มาเป็น เจ๋ง เดชา โคนาโล ทำหน้าที่ร้องนำแทน
- และในปี 2013 Big Ass ได้ปล่อยอัลบั้ม EP. "แดนเนรมิต" ที่มีเพียงแค่ 5 เพลงเท่านั้นโดยมีเพลงฮิตอย่าง "แดนเนรมิต" "เท่าที่มี" "ลมเปลี่ยนทิศ" แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ภายใต้เสียงร้องของเจ๋ง ในฐานะนักร้องนำคนใหม่ของ Big Ass
- หลังจากนั้นในปี 2017 Big Ass ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มของชุดที่ 7 "The Lion" โดยมีทั้งหมด 11 เพลง และมีเพลงฮิตอย่าง "รักเหอะ" และ "ไม่เดียงสา" อยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย โดยปัจจุบัน Big Ass ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการดนตรีนี้ต่อไปและต้องค่อยติดตามกันครับ ว่าในอนาคต Big Ass จะมีเพลงใหม่ๆ อะไร ออกมาให้เราได้ฟังกันบ้าง
Labanoon 1998
ลาบานูนในยุคก่อตั้งวงมีสมาชิก 3 คน คือ เมธี, อนันต์ และสมพร โดยได้ผ่านการเข้าประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 2 และถึงแม้ว่าจะไม่ได้รางวัลใด ๆ เลยก็ตาม แต่ก็ได้เซ็นสัญญาทำเพลงค่ายมิวสิค บั๊กส์ ในเวลาต่อมา
- โดยในปี 1998 ลาบานูนออกอัลบั้มแรกชื่อ นมสด โดยมีซิงเกิลเปิดตัวคือ "ยาม"
- และในปี 1999 ลาบานูนออกอัลบั้มชุดที่สอง 191 และมีซิงเกิล "191" และ "บังอาจรักเธอ" ที่ประสบความสำเร็จทั่วประเทศ
- อัลบั้มที่สามมีชื่อว่า คนตัวดำ วางขายปี 2002 โดยสามอัลบั้มแรกขายได้ถึงหลักล้านชุด หลังจากนั้น ลาบานูนยังออกอัลบั้มอีกหลายอัลบั้ม ได้แก่ Clear ปี 2003 สยามเซ็นเตอร์ ปี 2005 และ อัลบั้ม 24 ชั่วโมงในปี 2006
- และในปี 2006 ได้มีการเปลี่ยนแปลงภายในของค่ายและ Labanoon เองก็หมดสัญญากับค่าย จึงได้ประกาศพักวงชั่วคราว เมธีเข้าสมัครเป็น สอบจ. จังหวัดสตูล และเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ อนันต์ผันตัวเองไปเป็นที่ปรึกษาให้กับดีแทค และสมพรย้ายไปตีกลองให้วงกะลา
- ในปี 2010 เมธีและอนันต์ ชวนให้ ณัฐนนท์ ศรีศรานนท์ (เมย์) อดีตมือกลองจากวง อ็อบลิเวียส มารวมตัวกันและทำอัลบั้ม Keep Rocking และออกซิงเกิล "ประกันชั้น 3" ในกลางปี 2010
- และในปี 2014 อ๊อฟ และ กบ จากวงบิ๊กแอส ชักชวนให้ลาบานูนย้ายมาที่ ค่ายจีนี่เรคคอร์ด และออกอัลบั้ม N.E.W.S. โดยเริ่มปล่อยเพลง "ศึกษานารี" ออกมาเป็นเพลงแรกในปีเดียวกันและประสบสบความสำเร็จพอสมควรและในปี 2015 ได้ปล่อยเพลงที่ 2 "พลังงานจน" ซึ่งได้เปาวลี พรพิมล นักร้องลูกทุ่งสาวมาร่วมร้องรับเชิญให้ และต่อมาได้ปล่อยซิงเกิลที่ 3 "เชือกวิเศษ" โดยได้สารัช อยู่เย็น นักฟุตบอลทีมชาติไทย มาร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอ ซิงเกิลประสบความสำเร็จทั่วประเทศ ทำสถิติเป็นเพลงที่ทำยอดผู้ชมในยูทูบถึง 100 ล้านครั้งเร็วที่สุดในประเทศไทย และต้นปี 2016 ได้ปล่อย เพลงแพ้ทาง ซิงเกิลที่ 4 ออกมาและออกอัลบั้มเต็มที่ชื่อ N.E.W.S. ในกลางปี 2016 ได้รับโดยปัจจุบันลาบานูนยังได้รับความนิยมจากแฟนเพลงยังไม่เสื่อมคลายและยังคงรอคอยผลงานในอัลบั้มใหม่ต่อไป
Silly fools 1998
Silly Fools เดิมวงมีชื่อว่า Silly Foolish โดยมี ต้น เป็นผู้ก่อตั้งวง โดยรวมตัวกับ โต-เต้ย-หรั่ง ตั้งวงขึ้น และในปี 1996 ได้นำ Demo ไปเสนอกับค่ายเบเกอรี่มิวสิก ซึ่งทางค่ายเบเกอรี่มิวสิกให้ทำแค่อัลบั้ม E.P. ร่วมโปรเจกท์ Bakery Sampler แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และหลังจากนั้นมีการเปลี่ยนชื่อวงจาก Silly Foolish เป็น Silly Fools เนื่องจากเหตุผลที่ว่า “ชื่อเก่ายาวเกินไป” และ ในปี 1998 Silly Fools ได้นำ Demo ไปนำเสนอกับค่ายมอร์มิวสิก/แกรมมี่ Silly Fools จึงได้ออกอัลบั้มเต็มเป็นอัลบั้มแรก ชื่อว่า I.Q. 180 ซึ่งมีเพลงดังในอัลบั้มนี้อย่าง “เมื่อรักฉันเกิด”
ในปี 1999 ได้มีการเปลี่ยนสมาชิกในตำแหน่งมือกลองโดย เต้ย กอบภพ ใบแย้ม ลาออกและเปลี่ยนมาเป็น ต่อ ต่อตระกูล ใบเงิน และได้ออกอัลบั้มชุด Candyman ซึ่งอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ทำให้ Silly Fools เป็นที่รู้จักของชาวร็อคทั้งประเทศ และมียอดขายถล่มทลาย และไห้กลายเป็นวงร็อคระดับหัวแถวของประเทศทันที เพลงที่ดังของ Silly Fools อัลบั้มนี้คือ อย่าบอกว่ารัก และ ไหนว่าจะไม่หลอกกัน
ต่อด้วยในปี 2000 Silly Fools ได้ออกอัลบั้ม Mint ซึ่งอัลบั้มนี้ Silly Fools ได้รับการตอบรับตั้งแต่ยังไม่ได้วางแผง เพลงดังของ อัลบั้มนี้คือ จิ๊จ๊ะ, คิดถึง และ เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก
ต่อมาในปี 2002 Silly Fools ได้ออกอัลบั้ม Juicy อัลบั้มนี้เพิ่มความหนักของเนื้อเพลง และดนตรีมากขึ้นกว่าฉบับก่อน แต่ไม่หนักมากเหมือนอัลบั้มแรก ๆ ในอัลบั้มนี้มีเพลงเด่น ๆ อย่าง บ้าบอ, วัดใจ, ขี้หึง, หน้าไม่อาย และ ผิดที่ไว้ใจ
หลังจากนั้น Silly Fools ได้เว้นการออกอัลบั้มไปราว 2 ปี ก่อนที่จะมีออกอัลบั้ม King Size ออกมาในปี 2004 ซึ่งเพลงเด่นของอัลบั้มนี้ก็ได้แก่ แล้วแต่แป๊ะ, น้ำลาย, คนที่ฆ่าฉัน
ในปี 2006 ก็เกิดเหตุการณ์ช็อคชาวร็อคทั่วประเทศ เมื่อ โต นักร้องนำ Silly Fools ได้ออกมาแถลงข่าวเรื่องออกจากวง เนื่องจากอุดมคติที่แตกต่างกัน จึงขอลาออกจากวง และ ได้ตั้งวงดนตรีใหม่ใช้ชื่อว่า Hangman ในเวลาต่อมา จึงทำให้เหลือ 3 คน คือ ต้น ต่อ หรั่ง ซึ่งประกาศอยู่ด้วยกันต่อ และมีการประกาศว่าจะหานักร้องใหม่มาทดแทน จนกระทั่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน ของปี 2006 Silly Fools ได้เปิดตัวนักร้องใหม่ แบบไม่เปิดเผยหน้าตา โดยให้นักร้องใหม่ทำการใส่หน้ากากขึ้นเล่นเพลงใหม่ที่มีเนื้อร้องภาษาอังกฤษจำนวน 2 สองเพลง ภายในคอนเสิร์ต FaT Festival และมีการเปิดเผยในภายหลังว่านักร้องใหม่คือ เบน เบนจามิน นักร้องชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี
ในต้นปี 2008 ทางวงได้มีการย้ายค่ายอีกครั้งจากค่ายสนามหลวงการดนตรีมาอยู่ค่าย อาร์เอส และได้ออกอัลบั้มที่ 6 เดอะวัน (The One) โดยมีการวางจำหน่ายอัลบั้มนี้ใน มีนาคม 2008 และอัลบั้มนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอัลบั้มแรกในการร้องเพลงที่มีเนื้อร้องภาษาไทยของ เบน ซึ่งเพลงที่เป็นที่รู้จักของอัลบั้มนี้คือ โง่ , เราเป็นคนเลือกเอง , รั้งรอ และ เหนื่อยแล้ว และยังได้มีการออกอัลบั้ม The One ในรูปแบบ Limited Edition โดยในอั้ลบั้มนี้จะมีการเปลี่ยนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ
ในปี 2012 ต่อ มือกลองของวงได้ลาออกจากวงเพื่อไปเล่นแบคอัพให้กับเสก โลโซ ทำให้วงต้องหามือกลองใหม่ โดยได้ รัตน์ โกบายาชิ มือกลองวง Dezember มาทำหน้าที่แทน
และในเดือน สิงหาคม 2016 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งนึง เมื่อทางวงได้ประกาศว่า เบน ได้ลาออกจากวง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้วงต้องหานักร้องใหม่ โดยในช่วงแรกนักร้องคนใหม่ของ Silly fools จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตโดยใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่านักร้องคนใหม่คือใคร ก่อนที่จะมีการปล่อยซิงเกิล “แป๊ะอย่าร้อง” ในเดือน สิงหาคม 2016 และประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้ ริม จากวง Woize (ว้อยซ์) มาเป็นนักร้องนำ แต่หลังจากนั้น ริม ก็ยังใส่หน้ากากในการทำการแสดงอยู่เหมือนเดิม และรวมถึงทุกคนในวงจนกลายเป็นคาแรคเตอร์ไปในที่สุด
- และในปี 2017 ทางวงได้ปล่อยซิงเกิล “จงเรียกเธอว่านางพญา” และหลังจากนั้นก็ได้ประกาศคอนเสิร์ตใหญ่ Leo Presents Silly War II Concert ‘สงครามของคนโง่’ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 นับเป็นคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้งนับแต่คอนเสิร์ต Fat Live : V3 ซึ่งช่วงท้ายของคอนเสิร์ต ริม นักร้องนำได้ถอดหน้ากาก เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับวงซิลลี่ ฟูลส์
และในปี 2018 ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่อย่าง “20 ตุลา” ออกมา โดยรูปแบบของดนตรีนั้นแตกต่างจากเพลงเก่าๆ และการร้องของ ริม ที่แตกต่างไปจาก 2 เพลงก่อนหน้านี้ ซึ่งมีความเป็นตัวเอง ร้องออกมาในรูปแบบของตัวเองมากขึ้น และต้องคอยติดตามกันต่อไปครับว่า Silly fools หลังจากที่ได้ผ่านช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดและผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งนั้น จะมีผลงานอะไรออกมาให้เราได้ฟังกันต่อในอนาคตกันบ้าง
Kala 1999
วงดนตรีที่มีเสียงร้องของหนุ่ม ยุทธพงศ์ นักร้องนำเป็นเอกลักษณ์ โดยกะลาเริ่มมาจากการประกวดเวทีฮ็อตเวฟมิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 2 และ 3 แม้ว่าพวกเขาจะหยุดแค่รอบ 10 วงสุดท้ายแต่ก็ยังได้ทำเพลงกับค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ ทำให้ 4 สมาชิก หนุ่ม (ร้องนำ), โต (กีต้าร์) นุ (เบส) และ รุส (กลอง)
โดยที่กะลาในยุคก่อตั้งได้ออกอัลบั้มร่วมกัน 6 อัลบั้ม โดยมีเพลงฮิตทั้ง 6 อัลบั้ม เช่น
- เพลง "แม่ครับ" "ไม่มาก็คิดถึง" และ "รอ" เป็นเพลงเปิดตัวที่ทำให้เราได้รู้จักกับวงกะลาอย่างเต็มตัวในปี 1999
- ต่อด้วยเพลง มีเพลงดังอย่าง "ขอเป็นตัวเลือก" "อยากเกิดเป็นคนหลายใจ" และ "สัญญา"ปี 2001 ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 2
- เพลง "My Name Is Kala" มีเพลงดังอย่าง "My Name Is Kala" "เธอเป็นแฟนฉันแล้ว" และ "บอกสักคำ" ในชุดที่ 3
- เพลงดังอย่าง "เจ็บนี้มันลึก" "ปิดตา" และ "ถ้าเธอหลายใจ" ในอัลบั้มที่ 4
- และเพลงดังอย่าง "ใช่ฉันหรือเปล่า" และ "กะลา (ใช่ไหม)" ในอัลบั้มที่ 5
- รวมถึงเพลง 4 นาที ในอัลบั้มที่ 6 ก่อนที่สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งวงอย่าง นุ (มือเบส) ,โต (มือกีตาร์) และ รุส (มือกลอง) จะลาออกจากวงไปในปี 2008
หลังในปี 2010 วงกะลาได้ฟอร์มวงใหม่อีกครั้งประกอบไปด้วยสมาชิกของวงรุ่นใหม่มากประสบการณ์อย่าง เพชร อดีตมือกีตาร์วงไอแซ็ค , เขต ปัญญา (มือเบสและนักแต่งเพลง) , สมพร ยูโซะ (อดีตมือกลองวงลาบานูน) และได้ออกอีก 2 อัลบั้มคือ
- อัลบั้มชุดที่ 7 "4 share" มีเพลงดังอย่าง "หมดเวลาแอบรัก" "หนาวกว่าทุกคืน" "หยุด...เพราะเธอ" "ทำใจให้ชิน" และ "ไม่เห็นฝุ่น"
- อัลบั้มชุดที่ 8 "Love Infinity" ในปี 2012 นี้มีเพลงฮิตอย่าง "นาฬิกาของคนรักกัน" "ใจเรายังคงตรงกันอยู่ไหม" "รักจะกอดเราไว้" "ทุกคืนได้ไหม" และ "เหตุผลข้อเดียว"
และกะลาได้ประกาศยุบวงถือเป็นการสิ้นสุดการเดินทาง 15 ปีเต็มในนามของวงกะลาในปี 2014 ด้วยเหตุผล "การทำงานไม่ตรงกัน" สมาชิกทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วย เพชร, เขต และ สมพร ได้ไปก่อตั้งวงอโศกขึ้นมา ในสังกัดค่ายเพลงของพวกเขาเอง โรดสตาร์ (Road stars) โดย หนุ่ม ได้แยกออกมาศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 10 วง Rock ในช่วงยุค 90 – 2000 คิดถึงวงไหนกันบ้าง และหากมีวงไหนที่นอกเหนือจาก 10 วง ที่ได้กล่าวมา หรือหากใครอยากให้ทาง Top 10 Special Thailand นำเสนอ 10 เรื่องราวของใครเป็นพิเศษ ช่วยพิมพ์คอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ
โฆษณา