ตอนที่40 "แต่งตัวเองได้ ดูแลตัวเองเป็น"
🌟เตรียมลูกก่อน เข้าเรียนเตรียมอนุบาล โดยการ Home School ช่วงวิกฤติ Covid19 (ให้มีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจก่อนไปโรงเรียนวันแรก) ได้อย่างไร?
" ชีวิตทุกคน ย่อมพึ่งตนเป็นที่ตั้ง
ความผิดพลาดพลั้ง อันเคยสั่งสมถมไว้
ตนจะต้องรับผล มิอาจโอนไปให้ใคร
ส่วนความสำเร็จทั้งหลาย ขาดไม่ได้คือความสามารถของตน "
พ่อแม่ทุกคนย่อมมีความคาดหวังที่จะให้ลูกรักเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ช่วยเหลือตนเองได้
เมื่อยามเราเป็นเด็กสิ่งที่ต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรกๆ
และพ่อกับแม่จะคอยสั่งสอนเราก็คือ....
"การใส่เสื้อผ้าได้ด้วยตนเอง"
ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเสริมส่งให้ลูกรักช่วยเหลือตนเองได้ในเรื่องอื่นๆต่อไป
👩🏫ผู้รู้ให้คำแนะนำ :
💥วิธีการสอนให้เด็ก ๆ แต่งตัวด้วยตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่หลายคนแต่งตัวให้ลูกในตอนเช้า
เพื่อให้สามารถพาลูกไปโรงเรียนทันเวลา
แต่วิธีนี้เป็นเพียงทางออกระยะสั้นเท่านั้น
การสอนให้เขารู้วิธีแต่งตัวได้เอง คือ....
การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและประหยัดเวลาได้มากกว่า เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่ง เขาก็จะต้องเรียนรู้การช่วยเหลือตัวเองอยู่ดี
แล้วเราจะสอนให้เด็กแต่งตัวเองโดยไม่ต้องบังคับได้อย่างไร?
จริงๆ แล้วการสอนให้ลูกแต่งตัวเองนั้นง่ายกว่าที่คิด แต่กว่าที่เด็กจะแต่งตัวเองได้ อาจจะต้องใช้เวลาและความอดทนมากสักหน่อย
มีขั้นตอนง่ายๆ ที่จะทำให้กระบวนการทั้งหมดนี้ง่ายขึ้น
1. เริ่มต้นด้วยกางเกงผ้ายืด
จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือกางเกงผ้ายืดที่เด็กสามารถดึงขึ้น-ลงได้ง่าย ลองเริ่มต้นด้วยกางเกงที่หลวมและสบาย เช่น กางเกงวอร์ม หรือกางเกงนอนที่เป็นยางยืด
เมื่อเด็กถอดและใส่กางเกงเหล่านี้ได้แล้ว
ค่อยสอนให้เขาติดหรือแกะกระดุม โดยควรเริ่มจากกระดุมแป๊กก่อน เพราะควบคุมได้ง่ายกว่า
2. ให้เด็กนั่งลงขณะแต่งตัว
เด็กส่วนใหญ่จะเคยชินกับการยืนในขณะที่คุณพ่อคุณแม่แต่งตัวให้ แน่นอนว่าเขาจะจับไหล่ของคุณเพื่อทรงตัวขณะที่ใส่กางเกง แต่ลองนึกดูว่ามันจะยากขนาดไหนถ้าเขาต้องทำมันด้วยตัวเอง
ดังนั้นการนั่งบนพื้นหรือขั้นบันไดจะช่วยให้เขาแต่งตัวเองได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเสื้อผ้าท่อนล่าง เช่น กางเกง กางเกงชั้นใน ถุงเท้า และรองเท้า วิธีนี้จะทำให้เขาไม่ต้องกังวลกับการทรงตัว และไปให้ความสนใจที่การถอดหรือใส่เสื้อผ้าแทน
3. ให้ลูกของคุณสอดแขนผ่านแขนเสื้อ
การสอนให้ลูกสวมเสื้อ ควรเริ่มด้วยการให้เขาสอดแขนผ่านแขนเสื้อ
คุณอาจช่วยเขาโดยการจับเสื้อไว้แล้วให้เขาเหยียดแขนเข้าไปในแขนเสื้อ
หากเป็นเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อคลุม ให้ถือเสื้อไว้ด้านหลังของเขาเพื่อให้เขาสามารถสอดแขนผ่านแขนเสื้อได้ถูกต้อง
เมื่อเขาเริ่มคล่องแล้ว เขาจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการจัดการสวมใส่ให้เรียบร้อย
4. เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น ให้เขาลองติดกระดุมเสื้อด้วยตัวเอง
เมื่อลูกของคุณรู้วิธีติดกระดุมแล้ว ลองให้เขาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาเอง เสื้อนอนที่มีกระดุมเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมันมักจะนุ่มและเรียบง่ายเหมาะสำหรับการฝึก ให้เขาเริ่มต้นจากกระดุมเม็ดบนสุด เพราะเมื่อติดเม็ดแรกเสร็จแล้ว เขาจะหาคู่ต่อไปได้ง่าย โดยทำให้เขาดูก่อนว่าจะจับคู่กระดุมกับรังดุมอย่างไร
5. จัดเรียงเสื้อผ้าของลูกตามลำดับการใส่
คุณสามารถช่วยเขาได้ โดยการเรียงเสื้อผ้าของลูกลงบนเตียงนอนตามลำดับที่เขาควรจะใส่ เช่น วางกางเกงชั้นในไว้ด้านบนสุด ตามด้วยกางเกง เสื้อ และด้านล่างสุดคือถุงเท้า หรือจะเรียงจากซ้ายไปขวาก็ได้เช่นกัน และอย่าลืมกลับเสื้อผ้าให้ด้วย
เพื่อเขาจะได้ไม่สับสนว่าด้านไหนคือด้านหน้าหรือด้านหลัง
6. สังเกตสัญลักษณ์บนเสื้อผ้าที่จะบอกว่าด้านไหนคือด้านหน้า-ด้านหลัง
การรู้ว่าด้านไหนคือด้านหน้าหรือด้านหลัง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็ก สอนให้เขาสังเกตสัญลักษณ์บนเสื้อผ้า เช่น ป้ายบอกขนาดหรือยี่ห้อ ซึ่งจะอยู่ที่หลังคอ เชือกของกางเกงควรจะอยู่ด้านหน้า
กระเป๋าข้างควรจะอยู่ด้านหน้าในขณะที่กระเป๋าสี่เหลี่ยมควรจะอยู่ด้านหลังหรือสังเกตจากลวดลายของเสื้อผ้าก็ได้ เช่น หากเสื้อของเขามีลายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
บอกให้เขารู้ว่า ภาพเล็กจะต้องอยู่ด้านหน้าและภาพใหญ่จะต้องอยู่ด้านหลัง
7. ให้เด็กถอดเสื้อผ้าเอง
การสวมเสื้อผ้านั้นยากกว่าการถอด ดังนั้นคุณอาจจะลองให้ลูกเริ่มจากการถอดเสื้อผ้าก่อน เช่น ให้เขาดึงกางเกงลงเองเวลานั่งกระโถน หรือถอดรองเท้า ถุงเท้า และเสื้อคลุมด้วยตัวเองเมื่อกลับจากโรงเรียน การสอนการถอดเสื้อแบบง่ายๆ คือให้ลูกของคุณสอดแขนออกจากแขนเสื้อ จากนั้นใช้มือที่อยู่ข้างในผลักเสื้อทั้งหมดออกไป
การสอนให้ลูกรู้จักการใส่และถอดเสื้อผ้าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ทำให้คุณอาจคิดว่า การแต่งตัวให้เขาจะเร็วกว่าการปล่อยให้เขาทำเอง
แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เขาจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง
ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยคุณประหยัดเวลาในระยะยาว แต่เพื่อเรียนรู้ทักษะที่สำคัญ คือ....
การพึ่งพาตนเองและความเป็นอิสระ
เมื่อลูกแต่งตัวเองได้แล้ว คุณจะไม่ต้องวุ่นวายกับการสวมเสื้อ หรือใส่รองเท้าให้ลูกอีกต่อไป
แม้ว่าใช้เวลานานกว่าเดิมในช่วงแรก
แต่ให้คิดว่านี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้ฝึกฝนทักษะที่จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต
และคุณก็จะมีเวลาเพื่อไปเตรียมทำอาหารหรือเตรียมกระเป๋าใส่หนังสือเรียนให้เขาได้ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :
ขอขอบคุณคำกลอนจาก :
👨คุณพ่อขอเล่า :
ผมได้พยายามสอนลูกรักให้แต่งตัวเองได้
แต่ก็ไม่สามารถหาวิธีมาบังคับฟีนิกซ์ให้ใส่เสื้อผ้าเองได้
ที่ผ่านมายอมรับว่า....
ผมนั้นทำสำเร็จในการควบคุมและสอนให้ฟีนิกซ์แต่งตัวใส่เสื้อผ้าเอง ได้เพียง 2ครั้ง
นอกนั้นจะเป็นทางคุณแม่และคุณยายซะมากกว่าที่จะทำทุกอย่างให้สำเร็จลงได้
ด้วยความที่ผมค่อนข้างเป็นคนใจร้อนและบวกกับการที่เวลาพาฟีนิกซ์อาบน้ำเสร็จแล้ว จะอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า ล่อนจ้อน
ผมขยาดหวาดกลัวมากกับการที่ลูกรักต้องเป็นหวัดและเข้านอนโรงพยาบาล ผมจึงรีบใส่เสื้อผ้าให้กับฟีนิกซ์เกือบทุกครั้ง เพราะกลัวลูกจะป่วย
แต่จากนี้ไปเพื่อลูกรักที่จะต้องช่วยเหลือตนเองในอนาคต พ่อกับแม่จะต้องตัดใจ ทำใจแข็ง
ให้โอกาสฟีนิกซ์ได้พยายามใส่เสื้อผ้าเอง
อาจจะช้าบ้างก็ไม่เป็นไร....
ขอเพียงฟีนิกซ์ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความพยายามพึ่งพาตนเองก่อนที่จะคอยขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
เป็นผู้ใหญ่ที่ดูแลตนเองได้
แค่นี้คนเป็นพ่อกับแม่ก็ดีใจจนน้ำตาจะไหลแล้ว
ยามพ่อแม่แก่เฒ่าคงตามไปดูแลลูกรักไม่ได้ตลอดไป
ชีวิตเป็นของลูก ถ้าลูกอยากมีอิสระ จงดูแลตัวเองให้ได้
และถ้าดูแลตนเองได้แล้วอย่าลืมเผื่อแผ่ให้กับผู้อื่นรอบๆตัวด้วย เพราะสุดท้ายผู้คนที่ลูกได้ช่วยเหลือมานั้น
จะกลับมาตอบแทนลูกเองในสักวัน ไม่ทางใดก็ทางนึง เพราะสิ่งนี้คือ.... พลังของการให้ครับ
👨👩👦👦❤
ช่องทางติดตามดูคลิปวีดีโอเพิ่มเติมทางเพจ FB. " Daddy Survivor "
ขอกำลังใจ ฝากติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ 😀👪❤
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
