12 พ.ค. 2020 เวลา 13:52 • สุขภาพ
วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากโควิด-19 กับการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินโลก
เศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจภายในประเทศเองกำลังเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เพราะวิกฤตใหญ่ที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้คนทุกชนชั้นเป็นบริเวณกว้าง เรียกได้ว่าเจ็บกันถ้วนหน้าไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนชื่อดังอย่างวอเรนต์ บัฟเฟตต์ ที่บริษัทของเค้านั้นขาดทุนไปแล้วกว่า 1.6 ล้านล้านบาท และได้มีการเทขายหุ้นการบินไปจนเกลี้ยงพอร์ต
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอีกประเด็นหนึ่งเลยค่ะ เพราะการที่นักลงทุนระดับโลกเทขายหุ้นการบินมากขนาดนี้ นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสายการบินหรือไม่ อย่างไร ก็ยังเป็นสิ่งที่เราต้องวิเคราะห์และติดตามดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็ทำให้เราเริ่มเห็นภาพที่นักวิเคราะห์ออกมาพูดกันว่าวิกฤตคราวนี้จะมีธุรกิจที่เราคุ้นหน้า คุ้นตานั้นล้มหายตายจากเราไปแบบถาวร เพราะไม่อาจฟื้นตัวกลับมาได้อีกแล้ว
ดังนั้นจงระวังในเรื่องของการลงทุนให้ดีค่ะ ศึกษาให้มาก มองให้ยาว วิเคราะห์ให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตรวมถึงเศรษฐกิจที่เซื่องซึมและทรุดตัวหนักก่อให้เกิดเงินฝืดที่แฝงเงินเฟ้อตามมาตลบหลังที่คาดว่าจะใช้เวลาในการฟื้นตัวให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งนั้นกินเวลาอีกนานเป็นปี ๆ
และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ คือ การเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินโลกนั่นเองค่ะ โดย Ray Dalio บอกไว้ว่าในทุก ๆ 50-75 ปีโดยประมาณจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของระบบการเงินโลกเกิดขึ้น 1 ครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาครบรอบ 75 ปีของการใช้ระบบการเงินโลกในปัจจุบันแล้ว จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่าถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินนี้แล้วหรือยัง ? ใกล้ถึงคราวอวสานของเงินกระดาษแล้วหรือไม่ ?
โดยระบบการเงินใหม่ที่น่าจับตามองและเป็นตัวเต็งที่จะมาแทนที่ระบบการเงินเก่าก็คือ Digital Currency ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีของ Blockchain นั่นเองค่ะ โดยทางจีนเองก็รุกหน้าเดินเครื่องอย่างเต็มกำลังในการผลักดันและพัฒนาสกุลเงินใหม่อย่าง Digital Yuan ที่ออกโดยธนาคารจีนโดยผูกกับค่าเงินหยวนแบบ 1:1 ซึ่งมีการทดลองใช้ในจีนแล้ว 4 เมืองโดยขอความร่วมมือ 19 บริษัทต่างชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองนั้น ๆ อย่าง McDonald และ Starbucks ให้รับการชำระเงินผ่าน Digital Yuan นี้ด้วย
และแน่นอนว่าหากจีนทำให้ประชากรที่มีมากถึง 2 พันล้านคนหันมาใช้สกุลเงินใหม่นี้ได้ทั้งหมด คงไม่ยากเลยที่ในหลายประเทศทั่วโลกจะต้องพลอยใช้สกุลเงินนี้ตามไปด้วยคล้ายการจ่ายเงินด้วย Alipay หรือ Wechat เพราะอย่าลืมว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปทั่วโลกรวมถึงในตัวเต็งอย่างประเทศไทยเองด้วยก็ตาม
นอกจากนี้จีนยังมีแพลนที่จะปล่อยกู้เงินสกุลหยวนให้กับประเทศต่าง ๆ เพื่อใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ และแน่นอนว่ากู้มาในสกุลเงินหยวนก็ต้องใช้คืนเป็นสกุลเงินหยวนด้วย ซึ่งนับเป็นการขยาย Demand และ Supply ของสกุลเงินหยวนในระบบเศรษฐกิจโลกให้มากขึ้นนั่นเอง
Digital Yuan จึงกลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการใช้ Digital Currency กระจายออกไปทั่วโลกที่มีทั้งความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัยและทันสมัย ส่วนจะมาแทนที่เงินกระดาษได้หรือไม่ อย่างไรและทางอเมริกาเองจะงัดไม้เด็ดไหนมาสู้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่เราต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไปค่ะ
ติดตามผลงานได้อีกหนึ่งช่องทางที่ https://creators.trueid.net/@26445
โฆษณา