ซื้อหุ้น=ซื้อความเป็นเจ้าของของบริษัทนั้นๆ
มันคือการซื้อธุรกิจ
มันคือการทำธุรกิจ
และ มันคือการเลือกธุรกิจที่เราอยากจะเป็นเจ้าของ
เพราะหากเราย้อนไปที่สูตรงบแสดงฐานะทางการเงินแบบง่ายๆบอกว่า
.
.
สินทรัพย์=หนี้สิน+ความเป็นเจ้าของ
(อธิบายง่ายๆก็คือว่าธุรกิจจะสร้างยอดขายหรือดำเนินกิจการได้ต้องมีสินทรัพย์(อุปกรณ์ แรงงาน สถานที่ บลาๆๆๆ)
-สินทรัพย์ เอามาจากใหน ก็ต้องซื้อมา ซื้อมาด้วยอะไร?
ก็ต้องซื้อด้วยเงิน
-เงินเอามาจากใหน หลักๆก็มี2ทาง
1.ขอเจ้าของ
2.ขอเจ้าหนี้
เมื่อดำเนินงานไปเรื่อยๆมีกำไร มียอดขายมากขึ้น ธุรกิจก็จะสามารถเอาเงินไปโปะหนี้ในส่วนที่กู้มาได้ นั่นทำให้ส่วนของเจ้าของมีสัดส่วนที่มากขึ้นและเจ้าหนี้มีสัดส่วนที่ลดลง(ยกเว้นไปกู้ใหม่มาเรื่อยๆ เพื่อขยายธุรกิจ ซึ่งเกือบทั้งหมดก็เป็นแบบนั้น) ดังนั้น ธุรกิจใหนจะเข้มแข็ง จะเติบโต และ มีอนาคตก็ขึ้นอยู่กับว่า ยอดขายดีใหม?กำไรดีใหม? และ จะเติบโตต่อไปในอนาคตได้ใหม? ซึ่งถ้ามีครบทั้ง3อย่างคร่าวๆนี้ มูลค่าของส่วนของเจ้าของก็น่าจะสามารถเติบโตต่อไปได้ในอนาคตข้างหน้า
.
.
ซึ่งต้องขอบคุณโลกใบนี้ ที่ให้กำเนิดตลาดหุ้น เพราะ ตลาดหุ้นเป็น"ตลาดสด"ที่เอาความเป็นเจ้าของก้อนใหญ่ ของธุรกิจต่างๆ มาหั่นแบ่งเป็นก้อนเล็กๆชั่งกิโลขาย ซึ่งราคาแต่ละวันก็จะไม่เหมือนกัน (เหมือนราคาเนื้อหมูยังไงอย่างงั้น)
.
.
ลองคิดดูสิ มันจะดีแค่ใหนกันนะ ถ้าอยู่ๆเรามีเงินแค่3000บาท)แต่ อยากนึกการใหญ่ อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจพลังงานแห่งชาติที่กระทรวงการคลังถือถึง70%อย่าง ปตท.(บังเอิญเติมน้ำมัน เติมแก๊ส เข้า7-11 ซื้อกาแฟที่ปั๊มนี้ อะนะ บางทีทะลึ่งแอบไปเติมลม หรือ เข้าห้องน้ำเฉยๆก็มี55555😂)
.
.
พอมีอย่างงี้แล้วเราก็แค่กำเงิน3000บาท เดินเข้าตลาดสดที่ชื่อว่า"ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)"แล้วก็ตรงไปที่ร้านขายหุ้น ปตท.แล้วก็บอกป้าๆ ขอหุ้น ปตท.100หุ้น ใส่ถุงกลับบ้านครับพอจ่ายเงินปุ๊บ รับถุงหุ้นมา วินาทีนั้น ยินดีด้วยครับ คุณคือ
.
.
"1ในผู้ถือหุ้น บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย"
🤣🤣🤣🤣🤣🤣
.
.
แต่ การซื้อหุ้นน่ะ มันง่าย จริงใหม? เพราะแค่มีเงินก็สามารถซื้อและเป็นเจ้าของบริษัทได้แล้ว
แต่คำถามก็คือว่า..
เราจะเล่นหุ้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จล่ะ?
คำตอบง่ายๆและได้ใจความก็คือ
"ศึกษา"และอาศัย"ประสบการณ์" ซึ่งจะทำให้เราอยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองครับ
ซึ่งการซื้อ-ขาย ในตลาดหุ้นก็มีหลายรูปแบบเลยครับ โดยรูปแบบที่เห็นกันบ่อยๆก็จะมี
-หุ้นรายตัว(มีพอร์ตของตัวเอง คัดเลือกหุ้นเอง ประเมินราคาเอง ซื้อเอง ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง)
-กองทุนหุ้น(เอาเงินใส่ไปในกองทุนให้ผู้บริกองทุนคัดเลือกหุ้นให้ จัดพอร์ตให้ บริหารเงินให้ ตามนโยบายที่กำหนด เราแค่มีหน้าที่ใส่เงินลงไปเท่านั้นเอง)
.
.
นอกจากนี้มุมมองที่มีต่อหุ้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน
เชื่อใหมครับว่าคนอยู่ในตลาดหุ้นจริงๆมีหลายประเภทมาก
โดยประเภทหลักๆมีดังนี้
1.เก็งกำไร คือ กลุ่มคนที่ซื้อหุ้นในช่วงเวลาหนึ่งที่ราคาถูกและขายในราคาแพงเพื่อเก็บส่วนต่างกำไร(มักถือครองระยะเวาลาสั้นๆ)
2.เจ้าของกิจการ คือ มองหุ้นเป็นธุรกิจ ซื้อหุ้นคือซื้อธุรกิจและถือยาว และ อาจรวมถึงคาดหวังเงินปันผลด้วย(มักถือครองระยะยาว ถึง ยาวมาก)
.
.
สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นเป็นความรู้แบบพื้นฐานมากๆถึงมากที่สุด
ดังนั้น ใครสนใจอยากศึกษาต่อก็สามารถเข้าไปเรียนรู้ผ่านแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆได้เลยครับ
แต่ ขอเตือน!!!
ตลาดหุ้น ไม่ใช่ ที่ๆจะเข้ามาและสามารถรวยแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้ในระยะสั้นๆนะครับ สิ่งเหล่านี้ ต้องอาศัยประสบการณ์ และ การเรียนรู้อย่างจริงจังเท่านั้น จึงจะสามารถหาประโยชน์ที่คุ้มค่าได้จากตลาดหุ้นได้ ดังนั้น ใครมาบอกให้ลงทุนตัวนั้น ตัวนี้ เดี๋ยวรวยในเวลาแค่แปบเดียว ยิ่งต้อง"ระวัง"มีโอกาสผิดพลาดสูงมากครับ
.
.