Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฉันตื่นแล้ว
•
ติดตาม
13 พ.ค. 2020 เวลา 12:23 • ปรัชญา
ภาวะจิตตกจนเป็นโรคซึมเศร้า Ep3
หลังจากที่เราได้งานใหม่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานขนาดเล็ก มีแต่กะเช้า พนักงานไม่มาก ทุกคนน่ารักมาก เป็นกันเอง
ระหว่างที่นั่งทำงานเราก่ได้ยินเสียงอะไรไปเรื่อยเปื่อย เหมือนเราต้องต่อสู้กับความคิดของตัวเอง คำพูดที่ได้ยินบางครั้งก่ทำให้จิตตกได้เหมือนกัน
เราพยายามต่อสู้กับความคิดและเสียงที่ได้ยิน จนเรากลับมามีสติอีกครั้ง เรายิ้มออก แล้วที่โรงงานแห่งนี้ก่มีเรื่องที่น่าประทับใจมากมาย เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าโรงงานเล็กๆ แห่งนี้เป็นบ้าน ที่มีพ่อแม่ ลุงป้า น้าอา พี่สาวน้องสาว ทำงานด้วย เพราะพนักงานที่นี่ส่วนมากเป็นผู้ใหญ่ ส่วนวัยรุ่นไม่ค่อยมี
และอาจเป็นเพราะงานที่ทำไม่ค่อยเครียด สเปคไม่มาก ทุกคนช่วยกันทำงาน งานได้ตามเป้าหมาย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องงาน ส่วนตอนพักเที่ยงทุกคนห่อข้าวมากินด้วยกัน ก่อนเลิกงานก็ช่วยกันเคลียงานแล้วก็เตรียมตัวกลับบ้าน
เราทำงานที่โรงงานใหม่ได้ประมาณ 8 เดือน เราเริ่มเป็นห่วงลูกรู้สึกอยากเลี้ยงลูกเอง เพราะลูกเราเริ่มซน และบ้านสามีก็อยู่ติดถนนใหญ่ ช่วงเช้าและช่วงเย็นรถเยอะมาก เราจึงลาออกจากงาน ตอนที่ลาออกใหม่ๆ เราขอพ่อแม่สามีและสามีพาลูกกลับไปอยู่บ้านด้วย แต่พวกเค้าก็ไม่ยอม ทำให้โรคซึมเศร้ากำเริบอีก เราตัดสินใจโทรไปหาแม่และพี่ชายให้มารับกลับบ้าน เพราะเราเริ่มไม่ไหวกับอาการป่วยรอบ 2 และพ่อแม่สามี สามีก็ไม่เข้าใจเรา ขนาดเราบอกว่าเราไม่สบาย พวกเค้ายังไม่สนใจพาเราไปหาหมอเลย สุดท้ายเราตัดสินใจกลับบ้านไปคนเดียวก่อน
พี่ชายมารับทันที เก็บของกลับบ้าน ตอนนั้นลูกชายเราติดแม่สามีและติดเราด้วย คือถ้าเราไม่อยู่ลูกอยู่กับแม่สามีได้ ไม่งอแงร้องไห้ พอขึ้นรถปุ๊บ เสียงแว่วของผู้ชายที่คอยข่มขู่เราดังขึ้นว่า ถ้ามึงไปถึงบ้านพ่อแม่มึงก็จะตายด้วย ความกลัวกลับมาอีกครั้ง สติหลุด เรานั่งเหม่อ พี่ชายถามอะไรเราก็ไม่ตอบ พี่ชายเราเห็นท่าไม่ดีเลยรีบขับรถพาเรากลับบ้าน ระหว่างทาง เราก็ถามพี่ชายเราว่าพ่อแม่จะตายมั้ย พี่ชายเราบอกว่า ก็ตายดิ เกิดมาแล้วก็ต้องตายกันทุกคน เราเริ่มมีสติขึ้นมาหน่อย แต่หูก็ยังแว่วเหมือนเดิม อาการกำเริบ ซึม จิตตก
พอถึงบ้าน เราเห็นพ่อกับแม่นั่งรอใต้ถุนบ้าน เราดีใจมาก เรามองหาว่ามีใครคนอื่นจะมาทำร้ายพ่อแม่เรามั้ย ก่ไม่เห็นมีใครเลย เราเดินลงรถแบบคนหมดแรง เหม่อลอย จนทุกคนตกใจว่าเราเป็นอะไร พ่อแม่พาเราไปนอนพัก ตั้งแต่วันที่เรากลับถึงบ้านวันแรกเราไม่ทำอะไรเลย กินแล้วก็นอน ประมาณ 1 เดือน ร่างกายเราเริ่มฟื้น สติกลับมาอีกครั้ง ความกลัวเริ่มหายไป แต่หูยังแว่วอยู่ เราเริ่มหางานทำแต่บ้านเราไม่ได้อยู่ในเมือง จึงหางานทำยากมาก เราเห็นแม่ทอผ้าก็เลยให้แม่สอน เรารับจ้างทอผ้าอยู่บ้าน รายได้ค่อนข้างดีเลย เราจึงโทรไปหาสามีว่าจะไปรับลูกมาอยู่ด้วย สามีเราตอบตกลง จึงไปรับลูกที่ลำพูนกับพี่ชาย พอลูกเห็นหน้าเรา เค้ายิ้ม แล้วเค้าก็เดินไปกอดคอแม่สามีแล้วพูดว่า "ขอไปกับแม่นะ ขอไป ขอไป อยากไปอยู่กับแม่" แม่สามีร้องไห้แต่ก็ต้องยอมเพราะตอนนั้นลูกเราอายุ 4 ขวบ กำลังซนเลย เค้าดูแลไม่ไหว เราเก็บเสื้อผ้าของลูกเราใส่กระเป๋าทันที
พอขึ้นรถเรากอดลูกมองหน้ากันแล้วยิ้ม ได้อยู่กับลูกแล้ว ดีใจมากๆ ถ้าว่างๆ จะมาเล่าต่อนะคะ
บันทึก
11
2
2
11
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย