14 พ.ค. 2020 เวลา 01:26 • การศึกษา
เผยสุดยอดเคล็ดลับ “การเขียนในสิ่งที่อยากได้ลงไป มีพลังมากกว่า การอธิษฐานด้วยคำพูด อย่างเหลือเชื่อ
.
ผมจะมาบอกอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญ ที่จะทำให้สิ่งที่คุณปรารถนาหรือต้องการสำเร็จผลได้ดีทีเดียว
.
และหลายคนได้ใช้วิธีนี้ และได้ผลตามนั้น
.
เคล็ดลับที่ว่านี้ก็คือ
.
หากคุณปารถนาสิ่งใด และขณะนั้นความรู้สึกของคุณเรียกร้องออกมาอย่างแรงกล้า
.
“ขอให้เขียนมันออกมา”
.
เขียนใส่กระดาษ หรือเขียนใส่สื่อไหนก็ได้
.
นี่คือเคล็ดลับ มันคือพลังแห่งการอธิษฐานที่ทรงพลังกว่าการเอ่ยด้วยวาจา
.
และการเขียนนี้ จะสามารถน้อมนำสิ่งที่ต้องการนั้นมาให้เราได้
.
ขอให้เขียนสิ่งที่อยากได้ โดยไม่ต้องกำหนดวันเวลาตายตัว เพื่อให้กระบวนการจัดสรรของจิตใต้สำนึก และจักรวาลสามารถน้อมนำ
เรื่องนั้นมาให้เราได้อย่างเต็มที่
.
เช่น หากคุณอยากมีบ้านหรูสักหลัง แม้ว่าปัจจุบันคุณเช่าคอนโดอยู่
1
ขอให้เขียนลงไปในกระดาษว่า โดยขึ้นตันด้วยคำว่า
“ฉัน”
"ฉันมีบ้านหรูราคาแพง"
.
กฎจักรวาลมีว่า สิ่งใดที่ต่อท้ายคำว่า “ฉัน” สิ่งนั้นจักรวาลจะน้อมนำมาให้ปรากฏทางประสบการณ์ชีวิตจริง
.
ขอให้เขียนประโยคนี้บ่อยๆ ทุกครั้งที่ความรู้สึกของเราบ่งบอกถึงความปรารถนาจะได้บ้าน
.
ขอให้รีบหากระดาษมาแล้วเขียนลงไป
.
ขอให้เขียนในช่วงเวลาที่ความรู้สึกอยากได้เกิดขึ้นเท่านั้น
.
เรื่องอะไรก็ตามที่ปรารถนา เขียนมันลงไป
เช่น
.
“ฉันเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทางเงินทองและชื่อเสียง
.
“ฉันเป็นคนมีสุขภาพดีตลอดเวลา”
.
“ฉันได้อยู่กับคนรักอย่างมีความสุข”
.
“ฉันได้เป็นนักเขียนยอดนิยม หนังสือของเราติดอันดับ best seller”
.
“ฉันมีคนรักเป็นคนสวย / หล่อ เลิศอย่างมาก”
.
ขอให้เขียนมันบ่อยๆ
ทำไมการเขียนแบบนี้จึงสามารถนำมาซึ่งความสำเร็จที่ต้องการได้
ดูเหมือนมันง่ายเกินไปใช่ไหม กับเพียงแค่เขียนด้วยคำสั้นๆเท่านี้
.
แต่นี่แหละ เรียกว่าความลับ !!
.
ต้องเข้าใจก่อนว่า กระบวนการการทำงานของจักรวาลของคนเรา โดยเฉพาะสำนึกรู้หรือจิตสำนึกซึ่งเป็นตัวตนของเรา
.
มันจะเป็นนาย หรือ หัวหน้าที่คอยสั่งการเรื่องที่ปรารถนาเรื่องใดก็ตาม แล้วสิ่งที่สั่งนั้นจะแสดงผลออกมาในโลกทางกายภาพ
.
เพราะจิตวิญญาณมีเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด คือ จิตใต้สำนึก ที่จิตวิญญาณให้มันมาคอยฟังคำสั่งและสนองตอบคำสั่งของจิตสำนึกของเราเอง
.
การที่เราเขียนสิ่งที่ปรารถนาลงไปในกระดาษ ทำให้จิตใต้สำนึกมันคุ้นเคยกับทางกายภาพมากกว่า และมันเชื่อว่า
.
สิ่งที่เขียนนี้ได้เกิดขึ้นจริงทางกายภาพแล้ว มันแค่แปลรหัสข้อความนั้นให้เป็นจริงด้วยพลังอำนาจของมันที่มี คือการ น้อมนำ หรือ
.
"กฎแรงดึงดูด" นั่นเอง
.
เพราะมันเชื่อว่าสิ่งที่เขียนนั้นเป็นภาพที่เกิดขึ้นแล้ว มันจะทำตามหน้าที่มันคือต้องน้อมนำมาให้เกิดขึ้นให้ได้
.
และการเขียนคือ จิตและกายรวมเป็นหนึ่ง คือการตอกย้ำพลังในการน้อมนำสิ่งที่ปรารถนามาให้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ว่าสิ่งที่ต้องการจะเป็นอะไรก็ตาม
.
การเขียนนี้มีหลักการบางอย่างที่ต้องจดจำไว้ เช่น
.
และห้ามใช้คำว่า "จะ"
.
เช่น "เราจะเป็นเจ้าของบ้านหรูราคาแพง"
.
เพราะ คำว่า "จะ" เป็นประโยคบอกถึงเวลาที่ยังมาไม่ถึง หรือ เรื่องนั้นมันยังไม่เกิดขึ้น
.
หากเขียนแบนี้ จิตใต้สำนึกมันจะรับคำสั่งว่า เรื่องบ้านที่ต้องการนี้ จะยังไม่ได้ในเร็วๆนี้
หรือในชาตินี้
.
ต้องใช้ประโยคที่มีความหมายว่า สิ่งที่ปรารถนาได้เกิดขึ้นแล้ว
หรือมันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว
.
จากตัวอย่าง เขียนว่า
.
เราได้เป็นเจ้าของ.....
.
อย่าสงสัยว่า มันยังไม่เกิดแล้วจะเขียนให้เกิดได้ยังไง
.
นี่คือ หลุมพรางที่ทำให้คนเกือบทั้งโลกไม่สามารถพบความสำเร็จในชีวิตตามที่ตัวเองปรารถนาไว้
.
เพราะเราไม่เคยเชื่อว่าเรามีพลังอำนาจในตนเอง คือจิตวิญญาณตัวตนที่แท้ของเรา ที่จะบันดาลให้สิ่งต้องการได้สมปรารถนาทุกประการได้
.
เราจึงตัดขาดกับพลังแห่งความสำเร็จอย่างน่าเสียดาย
.
จงอย่าเชื่อด้วยการแอบแฝงความเคลือบแคลงไว้ แต่จงเชื่อแบบสุดใจดูสักครั้ง แล้วครั้งต่อๆไป คุณจะคุ้นเคยกับมัน
.
ขอแค่ความรู้สึกบวกเกิดขึ้นกับสิ่งที่เราต้องการเมื่อใด ให้รีบเขียนลงไปในกระดาษ แล้วถ้าความรู้สึกบวกนั้นจะหายไป
.
ก็ไม่เป็นไร เพราะในกระดาษได้บันทึกหลักฐานความสำเร็จให้จิตใต้สำนึกได้รับรู้ทางกายภาพแล้ว
.
หลายคนที่เคยทำตามแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเขาได้สิ่งนั้นมา และลืมไปแล้วว่า เขาเคยเขียนมันลงไปในกระดาษ เมื่อเขากลับไปอ่านดูกระดาษแผ่นนั้น ก็ตกใจในสิ่งที่เขาได้รับ นั้นเขาได้เคยเขียนมันมาก่อน
ขอให้ลองทำตามวิธีนี้ดู ส่วนเวลาที่จะพบความสำเร็จขึ้นกับตัวเราเองที่จะใส่ความเชื่อมั่นไปในกรเขียนมากแค่ไหน
.
และสม่ำเสมอแค่ไหน ซึ่งไม่ได้ตายตัว ขอให้ศรัทธาในผลลัพธ์ที่จะเกิด
ส่วนกระบวนการจะเป็นอย่างไร
ปล่อยเป็นหน้าที่จักรวาล
.
หลายคนอาจถามว่า แนวทางนี้ เหมือนกับหลักการของการสะกดจิต
หรือไม่
.
บอบอกว่า ไม่เหมือนครับซะทีเดียว
.
อย่าางทีบอก จิตใต้สำนึกเป็นแค่เครื่องมือของจิตวิญญาณครับ
.
และจิตวิญญาณคือความจริงของเรา
.
เราจะสัมผัสจิตวิญญาณผ่านความรู้สึก และใช้ความรู้สึกนั้นเป็นตัวกำหนดให้เราในระดับจิตสำนึก สั่งการ ด้วย เครื่องมือจิตสำนึก คือ คิด พูด ทำ
.
ส่วยการเขียน อยู่ระหว่าง พูด + ทำ จึงมีพลังมากกว่าการพูด
.
ตามที่ผมเขียนไปว่า ถ้าเรารู้สึกอยากได้สิ่งใดอย่างแรงกล้า นั่นคือ สิ่งที่จิตวิญญาณจะชี้แนะให้เราได้รับมอบของขวัญแล้ว
1
เราไม่ควรปล่อยโอกาสนี้หลุดไป ด้วยการใช้เครื่องมือที่ทรงพลังของเรา คือ การเขียนลงในกระดาษ
.
เหมือนเราทำสัญญารับมอบมรดกกับจิตวิญญาณครับ
.
จึงไม่ใช่การสะกดจิตตาศาสตร์ Hypnosis ทั่วๆไป เพราะนั่น เป็นเพียงแค่การใช้อัตตาด้วยความอยาก และใช้มโนภาพ มาเป็นตัวกำหนด ซึ่งจะเห็นผลน้อยกว่าวิธีที่ผมบอกมา
#MingMillionaire
โฆษณา