14 พ.ค. 2020 เวลา 17:04 • ท่องเที่ยว
'' เรื่องเก่าเล่าใหม่ “
ตามรอยเมืองสุดโรแมนติกแห่งอิตาลี
ตื้ด....ตื้ด.....เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของคุณสามีดังขึ้นในช่วงเช้ามืด เวลาผ่านไป 5 นาที
ผมให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมง ในการจัดกระเป๋าเดินทาง เสียงของคุณสามีดังขึ้น
จากที่ยังงัวเงียๆอยู่บนที่นอนอยู่นั้น ร่างกายก็เหมือนมีพลังงานบางอย่างผ่านเข้ามา ( ฮ่าๆๆๆๆ พูดไปเรื่อย ) พลันก็ตีดตัวจากที่นอนนุ่มๆลุกมามองหน้าสามี
เราจะไปไหนหรือ ????
มีงานด่วนเข้ามา เราต้องไป เวโรน่า ( Verona ) วันนี้ ....
 
พอได้ยินแบนั้นก็ไม่รอช้าพุ่งตัวไปหาเจ้าเป้คู่ใจ จัดของที่จำเป็นทุกอย่างยัดเข้าไปในกระเป๋าใบเดียว เหมือนจะไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ 😆😆😆
30นาทีต่อมา ..............ไวเหมือนโกหก 🤣🤣🤣
บรื้นๆๆๆๆ ล้อหมุนมุ่งหน้าไปถนนเส้นทางหลวงสาย
มิลาน- เวนิส
ใช้เวลาในการขับรถประมาน 3 ชั่วโมงจากเมือง บิเอลล่า ( Biella ) ก็มาถึงจุดหมาย เราเข้าพักในโรงแรมรอบนอกตัวเมือง แต่ไม่ไกลเท่าไหร่ สามารถเดินเท้าเข้าเมืองได้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก ประมาน 10-15 นาที
จากนั้นคุณสามีก็ไปจัดแจงงานของเขา และปล่อยให้เราจัดของในห้องรอไปก่อน.....
มาถึงแล้ว Verona ( เวโรน่า )
ผ่านไปประมาน 2 ชั่วโมงคุณสามีก็กลับเข้ามา และแล้วก็ได้เวลาออกไปสำรวจเมืองแห่งนิยายโศกนาฏกรรมอันเลื่องชื่อ ของ วิลเลี่ยม เชกสเปียร์
Arena di Verona ( สเตเดี้ยมแห่งเวโรน่า )
ด่านแรกจากด้านสะพานข้ามแม่น้ำก็คือ
เราเดินมาเจอ อาเรน่า ดิ เวโรน่า ( Arena di Verona )
สเตเดี้ยมแห่งเมืองเวโรน่า ตั้งอยู่ในบริเวณ จัตุรัส บรา ( Piazza Bra ) เป็นศิปะโรมันโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปีที่มีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 ของสเตเดี้ยมในอิตาลี ซึ่งสามารถจุคนได้ประมาน 15,000 คน ในปัจจุบันนั้นสเตเดี้ยมแห่งนี้ถูกใช้ในการแสดง โอเปร่า
และจัดงานคอนเสิร์ตต่างๆด้วย
มีการซ่อมแซมบ้างบางจุด
เดินมุ่งหน้าไปบ้านของ จูเลียต
ถนนคนเดิน แหล่งช็อปปิ้งของฝากต่างๆ
ระเบียงหน้าบ้านของจูเลียต ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 20
โรมิโอและจูเลียตหญิง เรื่องราวความรักที่แสนจะบริสุทธิ์ของทั้งสองคน ต้องมาสังเวยด้วยชีวิตเหตุเพราะความบาดหมางของสองตระกูล
ว่าด้วย กระกูลคาปุเลตตและมอนตาคิวซึ่งไม่ถูกกันมาเป็นมาช้านาน เริ่มด้วยที่ โรมิโอ ชายหนุ่มตระกูลมอนตาคิวได้แอบเข้าไปในงานเลี้ยงของตระกูลคาปุเลต
และเขาก็ได้พบกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า จูเลียต เพียงแค่ทั้งคู่ได้สบตากันก็ตกหลุมรักขึ้นมาทันที ( เรียกได้ว่ารักแรกพบ )
แต่ทว่าความรักของทั้งคู่กลับมีอุปสรรคเพราะความบาดหมางของตระกูล ....และจบด้วยการตายของทั้งสองคน “ ขอรวบรัดตัดตอนแบบนี้เลยละกันนะคะ ( ฮ่าๆๆๆๆ จะรีบไปไหนเนี้ยะ 🤣🤣🤣 )
รูปปั้นของจูเลียต
รูปปั้นสัมฤทธิ์ทองแดงของจูเลียต ถูกวางไว้ลานหน้าบ้านโดยมีความเชื่อว่าถ้าถ้าใครได้ถูบริเวณหน้าออกข้างขวาของเธอ คนผู้นั้นก็จะได้พบรักแท้ในไม่ช้าก็เร็ว
นักท่องเที่ยวมาสัมผัสหน้าอกของจูเลียต
สำหรับเราไม่ได้ทำแบบนั้น เนื่องด้วยรูปปั้นจูเลียตสูงมาก บวกกับเราตัวเตี้ย ก็เลยได้แต่ยืนดูห่างๆอย่างห่วงๆ 😀😀
ที่คล้องกุญแจขอพรความรัก
Torre dei Lamberti ( ตอรเร เดอิ ลัมเบรติ ) หรือ หอคอย แลมเบอร์ติ
หอคอยไว้สำหรับเป็นจุดชมวิวมุมสูง โดยเราสามารถมองเห็นวิวของเมืองเวโรน่าได้จากหอคอยนี้ หอคอยแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณ Piazza delle Erbe ( เปี้ยซซ่า เดลเล่ เอรเบ ) จัตุรัส เอรเบ ในอดีตหอคอยแห่งนี้ใช้สำหรับสังเกตการณ์และเตือนภัยในยุคสงคราม
มุมต่างๆของเมือง
เราใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เดินทั่วเมือง เวโรน่าถึงเป็นเมืองเล็ก แต่ที่แห่งนี้กลับมีเสน่ห์และกลิ่นอายของความรักที่ทำให้ผู้ที่ได้มาเยือนนั้นได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของเมือง
โฆษณา