โดนถามทุกวัน จะมี second wave มั้ย มาดูกันว่า second wave ขึ้นกับอะไร
1. ยกเลิก lock down
ใช่ค่ะ ถึงเวลานี้ ก็เห็นด้วยนะ ว่าควรผ่อนมาตรการต่างๆได้แล้ว ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อดีติดต่อกันหลายวันแล้ว ไม่งั้นคงเครียดกันมาก ทั้งเศรษฐกิจ และสังคม
หลังจากที่เราเข้าสู่ชุมชน มันก็จะมีการระบาดเกิดขึ้นได้ถ้าเราประมาท เพราะตอนนี้เห็นคนใส่หน้ากากกันน้อยมากจริงๆ น้อยกว่าตอนเดือนมค.มากๆ เลยทำความเข้าใจกันใหม่ เชื่อว่าความรุ้ที่ถุกต้อง จะนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง
2. ผู้คนไม่ทำ physical distancing
อันนี้สำคัญ เพราะการรวมกลุ่มกัน ยังก่อความพินาจได้เสมอ เห็นของเกาหลีแล้วใช่มั้ยคะ ไปเที่ยวผับแล้วก็มีการกระจายขึ้นมา story ยังคง classic เหมือนเดิม ตอนนี้ที่ตัวเลขน้อยๆ คนก็ถามน้อยจริงมั้ย หมดแล้วใช่มั้ย เราเอาอยู่แล้วเนอะ
- น้อยอาจจะน้อยจริง แต่หมดแล้วมั้ย ขอตอบว่าไม่หมด!!!! แล้วทำไมตรวจไม่เจอ ก็เพราะตอนนี้ มันไม่ได้ตรวจทุกคนไง ก็ยังใช้เกณฑ์ความเสี่ยง อาการ เข้าเกณฑ์การตรวจ เป็นหลักอยู่ ดังนั้น โอกาสที่คนไม่มีอาการ จะไม่รู้ตัว จะแพร่เชื้อได้ ก็ยังมีอยู่ ซึ่งพวกนี้แหล่ะ ทำให้ COVID-19 ต่างกับ SARS, MER-CoV ที่ผ่านมา
- มีตัวเลขจากอเมริกา บอกว่า วันที่เจอผู้ติดเชื้อ 26 คน วันนั้นน่าจะมีผู้ติดเชื้อจริง 28,000 คนไปแล้ว แต่อย่าคูณกัน โต้งๆ ไม่ใช่ 1 คน represent 1000 คน แต่มันเป็น exponential คือ ยิ่งมีตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อย ก็จะมีคนแอบแฝงน้อง เช่น อย่างไทย กะเคร่าวๆว่า ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ 1 คน “อาจจะ” มีผู้ติดเชื้อจริงๆในชุมชนประมาณ 6-10 คน เอาง่ายๆคือ ตัวเลขที่เราเจอ มันแสดงถึงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เราเจอน้อย ภูเขาเราก็ลูกเล็ก เราเจอเยอะ ภูเขาที่จมใต้น้ำก็มหึมา แต่ให้รู้ว่า มันแค่ tip of the iceberg น่ะ
- เลิก lock down แต่ไม่ได้เลิก physical distancing แยกกันให้ออกนะคะ
lock down คือ การปิดพื้นที่ เพื่อจำกัดการรวมตัว เป็นกฏหมาย เป็นนโยบาย
- physical distancing คือ การสร้างพื้นที่ทางกายภาพระหว่างคน 2 คนและหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เป็นเชิงปฏิบัติ
การทำ physical distancing คงต้องทำไปตลอด จนกว่าเราจะมี Herd immunity หรือ Vaccine ดังนั้นเรายังควรออกไปที่ชุมชน "น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น"
จาก clip แสดงให้เห็นชัดเจนมาก ว่าทำไม physical distancing ทำให้ลดการระบาดได้
ถ้าย้อนไปดูโพสต์ก่อนๆ มีพูดถึง R0 ก็คือ คนคนนึงเป็นโรค จะแพร่ได้กี่คน ใน COVID คือประมาณ 2.6-2.8 คน แต่พอทำ physical distancing ทำให้ R0 ลดเหลือ 1.x ซึ่งเป็นวิธีเดียว ที่ลดการกระจายเชื้อได้ชัดเจนมาก
3. พวกไม่มีอาการ หรือที่เรียกว่าพาหะ น่ากลัวยังไง
น่ากลัวเพราะเค้าไม่รู้ว่าเค้าเป็น จึงไม่ระวังตัว ใช้ชีวิตปกติคนใกล้ตัวเค้า ก็ไม่คิดว่าเค้าจะเป็น เดินผ่านจุดวัดอุณหภูมิได้สบาย แล้วไงล่าาา ก็กระจายสิ มองอีกด้าน อาจจะเป็นเรา ก็ได้ที่เป็นพาหะ!!
การกระจายที่เสี่ยงสุดก็คนในครอบครัว คนใกล้ชิดเราเนี่ยแหละ พ่อแม่ อากงอาม่าเราที่เราห้ามเค้าออกจากบ้าน แต่เราออกเอง แล้วทำตัวประมาท ระวังตัวว่าเราจะเป็นคนนำเชื้อมาให้เค้าโดยไม่รู้ตัว
4. ดังนั้นโดยสรุป ถ้าคิดจะออกจากบ้าน ไปเจอผู้คน กฏเหล็ก
ใส่หน้ากาก กันเรา กันเค้า
ล้างมือ
กินร้อนช้อนกู จานใครจานมัน
ไม่เอามือสกปรก มาจับหน้า
เหมือนเดิม!!! กับเมื่อวันที่เราเพิ่งรู้จัก COVID-19 ไม่มีอะไรใหม่ แต่ใจเราชาชิน ใจเราเริ่มอ่อนล้า เบื่อหน่าย และเราประมาท
5. เอาจริงๆ ไม่รู้จะเขียนอะไรเพิ่ม เพราะมันเหมือนเดิม ที่ต่างคือ สังเกตได้เลยว่าประมาทกันมากๆๆ ซึ่งตรงนี้แหละ ที่เป็นหนทางสู่ second wave