19 พ.ค. 2020 เวลา 02:17 • ธุรกิจ
new normal กับตำราเศรษฐศาสตร์เล่มใหม่ เศรษฐศาสตร์แห่งการพิมพ์เงิน
welcome to QE economy
ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ที่เฟดเริ่มประกาศ QE มาเรื่อย ๆ 1-2-3-4 จนกระทั่งในปีนี้กลายเป็น QE infinity นั้น
1
ภาพจาก pixabay เศรษฐศาสตร์การพิมพ์เงิน
ทำให้ตำราเศรษฐศาสตร์แบบเดิม ที่เคยเรียนมาได้ถูกฉีกทิ้งแบบไม่เหลือซาก
จากหลักการเดิม money supply จะคงที่ และรัฐบาลจะไม่ยุ่งกับระบบเศรษฐกิจ ปล่อยตามธรรมชาติ demand and supply ของตลาด
แบบนั้นมันจะเกิดวัฏจักรเศรษฐกิจ มี boom and bust มีเกิด มีตาย ตามธรรมชาติของทุนนิยมและเสรีนิยม
การที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศพยายามเข้าไปแทรกแซงเศรษฐกิจ โดยการพิมพ์เงินมาอุ้มนั้น ก็จะทำให้วัฏจักรเกิดผิดเพี้ยน
พวกทรัพย์สินต่าง ๆ อย่างที่ดิน หุ้น ทองคำ ก็ไม่ยอมลงราคาทำให้ PE สูงขึ้นไปเรื่อยไป
สมัยก่อนถ้าดอกเบี้ย 10% PE ตลาดหุ้น =10 ถือว่าสมเหตุสมผล ถ้า PE=20 ถือว่าเริ่มแพง PE =30 ถือว่าแพงมาก PE จะวิ่งอยู่แถว 5-30 จุด
ปัจจุบันดอกเบี้ยต่ำกว่า 1% ดังนั้น ต่อไป PE ที่เหมาะสมกับตลาดหุ้น จะกลายเป็น 100 แทน
ดังนั้น PE จะไปวิ่งอยู่แถว 50-300 จุดแทน
นั่นแปลว่าระบบจะเปลี่ยนจากทุนนิยม กลายเป็นสังคมนิยม แบบที่เราไม่รู้ตัว
ภาพแสดงมูลค่าของเงินที่ลดลงเรื่อยๆ ตามปริมาณที่พิมพ์ออกมา แสดงถึงการไล่มสลายของทุนนิยม
ดังนั้นต่อไปรัฐบาลจะต้องมีเบี้ยยังชีพให้แก่ประชาชนทุกคน ทรัพย์สินจะเป็นสิ่งที่ไม่มีโอกาสครอบครอง เพราะแพงมาก ทำงานสัก 100 ปีก็ซื้อไม่ได้ และใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์มากขึ้น ต่ำแหน่งงานก็ถูกแย่งไปหมด
การทำงานเพื่อหาเงินในอนาคตก็จะเป็นสิ่งล้าสมัย เพราะไม่รู้จะหาไปทำไม หาได้ก็ไม่พอซื้อทรัพย์สิน เหมือนที่เริ่มเกิดขึ้นกับพวกอสังหาริมทรัพย์ และที่ดิน
ทุกวันนี้ปล่อยเช่าก็ผลตอบแทนต่ำมาก ไม่ถึง 1% ต่อปี 100 ปีถึงจะคืนทุน ซื้อมาก็ไม่คุ้มค่า แถมอีกหน่อยเก็บภาษีที่ดินอีกต่างหาก ไม่รู้ค่าเช่าจะพอจ่ายภาษีหรือเปล่า
ทรัพย์สินแทบทั้งหมดก็จะตกเป็นของรัฐบาล เพราะพิมพ์เงินมาซื้อได้ รัฐบาลจะควบคุมทุกอย่าง ตลาดหุ้น ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรม ผ่านกลไกของเอไอและหุ่นยนต์
1
แต่ถ้ามองโลกในแง่ดี ก็เป็นเรื่องดี ที่ไม่ต้องทำงานกันมาก ๆ อีก บ้าหาเงิน บ้าสะสมทรัพย์สิน เก็บเงินกันมาก ๆ มีเวลาไปทำสิ่งที่ชอบมากขึ้น
อนาคตคงเหลือสิ่งให้มนุษย์ทำน้อยลง อีกหน่อยคงนั่งดูหนัง ดูทีวี เล่นมือถือ เล่นเกมส์ อยู่บ้านกันทั้งวันและบางพวกก็อาจจะหนีไปปฏิบัติธรรม
อนาคตคงจะมีคนบรรลุธรรมกันมาก เพราะเวลาว่างเยอะ ไม่ต้องทำงาน
แต่ถือครองทรัพย์สินเช่น ทองคำ หรือหุ้น ในตอนนี้ ก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับคนชอบท่องเที่ยว เพราะจะได้เอาทรัพย์สินไปขายให้รัฐบาล ตอนที่แพงกว่านี้มาก จะได้มีเงินใช้ท่องเที่ยวได้
ภาพจาก pixabay การท่องเที่ยวจะแพงขึ้นมาก
การท่องเที่ยวก็สิ่งที่มีราคาแพงมาก ค่าใช้จ่ายจะแพงขึ้นมาก ถ้าเอาแค่เบี้ยยังชีพ คงไม่พอท่องเที่ยวแน่นอน
ที่ดินถ้าเก็บไว้บ้าง อีกหน่อยจะได้มีที่ไว้เดินเล่น ปลูกต้นไม้ จะได้ไม่อุดอู้มาก คนที่ไม่มีที่ดิน ก็คงต้องไปอยู่ในเมือง อยู่ห้องเล็ก ๆ น่าเบื่อมาก
นี่เป็นอนาคตในอีก 10-20 ปีข้างหน้าจากการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน
ในบทความตอนต่อไปจะพูด การคำนวนราคาหุ้นและทอง ต่อไป อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมไลค์ กดแชร์ ก็ติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป
โฆษณา