15 พ.ค. 2020 เวลา 10:43 • บันเทิง
“นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มพบหญิงสาว แต่คุณควรรู้ไว้ก่อนนะ ว่านี่ไม่ใช่หนังรัก”
การเริ่มต้นหนังที่เหมือนจะเป็น ‘คำใบ้’ ให้เราได้คาดเดากับบทสรุปของความสัมพันธ์นี้
วันนี้ขอชวนทุกคนมาย้อนนึกถึงเรื่อง 500 Days of Summer (2009) ที่เป็นหนังเรื่องโปรดของหลาย ๆ คน เรื่องราวเล่าผ่านในมุมมองของทอม แฮนเซ่น ที่โตมาพร้อมกับความเชื่อที่ว่า เขาคงไม่มีความสุขที่แท้จริงจนกว่าจะได้เจอ ‘คนที่ใช่’ และ ซัมเมอร์ ฟินน์ หญิงสาวผู้ไม่เชื่อในความรักและพรหมลิขิต ทอมกับซัมเมอร์ได้พบกัน และเค้านั้นรู้เกือบจะทันทีว่าเธอคือคนที่เค้าตามหามาตลอด เรื่องราวได้ติดตามความสัมพันธ์ของทั้งสอง สู่บทสรุปที่สุดแสนจะกินใจ และเชื่อว่าตรงกับชีวิตของใครหลายคนแน่นอน
เรื่องย่อที่เหมือนกับหนังรักธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา หนังพาเราไปสำรวจ 500 วันของความสัมพันธ์ ความน่าสนใจคือการเล่าเรื่องสลับวันเวลา เหมือนกับความทรงจำของเราต่อใครซักคนที่แยกเป็นชิ้น ๆ โดยหนังตัดสลับเพื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่างช่วงแรก - ท้ายได้อย่างชัดเจน ชอบกิมมิคของฉากที่ใช้แสดงวันเวลาของความสัมพันธ์ ซึ่งเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของทอมในวันนั้น ๆ ในวันที่ความสัมพันธ์อยู่ในช่วงที่ดี พื้นหลังก็จะสีสดใส ในวันที่แย่ สีพื้นหลังก็จะหม่นตามไปด้วย
การที่เรากลับมาดูเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง อาจจะไม่ต่างอะไรกับการมองหาสัญญาณแห่งจุดจบของความสัมพันธ์ เพื่อหวังในท้ายที่สุดแล้ว เราอาจจะเข้าใจความรักมากขึ้นกว่าเดิม อย่างที่คำโปรยบอกไว้ว่า ‘นี่ไม่ใช่หนังรัก (love story) แต่เป็นหนังเกี่ยวกับความรัก (story about love)’
ภาพจาก : 500 Days of Summer (2009)
ก่อนที่หนังเริ่มจะมีข้อความตลกร้ายจากผู้เขียนว่า ‘เหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น หากเหมือนกับเรื่องของใคร ให้ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเธอ.. เจนนี่ เบคแมน... นังตัวแสบ’ นั่นก็เป็นเพราะบทของหนังเรื่องนี้อิงจากประสบการณ์ตรงของคนเขียนบท ที่ดั๊นนมาเลิกกับแฟนระหว่างที่อยู่ในช่วงเขียนบทเรื่องนี้พอดี ตัวละครของซัมเมอร์ก็เลยได้แรงบันดาลใจมาจากแฟนเก่าคนนั้นนั่นเอง หลังจากที่บทของเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่หนังจะเข้าฉาย เค้าก็ได้ส่งบทเรื่องนี้ให้แฟนเก่าอ่านและถามความคิดเห็น ปรากฎว่าคุณแฟนเก่าดันตอบมาว่า เธอรู้สึกว่าเธอเหมือนทอมมากกว่าซัมเมอร์ซะงั้น!!
จริง ๆ แล้วเราทุกคนที่คิดว่าตัวเองเหมือนกับ ‘ทอม’ ก็อาจจะเคยเป็น ‘ซัมเมอร์’ สำหรับใครบางคนก็ได้...
ภาพจาก : 500 Days of Summer (2009)
สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูก็ขอแนะนำเรื่องนี้มาก ๆ ส่วนคนที่เคยดูแล้วหนังเรื่องนี้ก็ยังคุ้มค่าสำหรับการดูซ้ำอยู่เสมอ ไม่แน่ว่าคราวนี้เราอาจจะเข้าใจ ‘ความรัก’ มากขึ้นกว่าครั้งที่แล้วก็ได้ค่ะ :)
โฆษณา