- ชีวิตสัมพันธ์ (3) -
หากว่าท่านไหนได้อ่านตอนที่ 2 มาแล้วนั้น ก็จะพออธิบายได้ว่า ทำไมเห็ดระโงกถึงมักจะขึ้นใต้ต้นยางนา?..
กระบวนการ Exudate หรือการปั๊มสารอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงของต้นไม้นั้น ไม่ได้มีเฉพาะส่วนของรากเท่านั้น ยังพบว่าต้นไม้ได้ทำเช่นเดียวกันนี้กับส่วนที่อยู่บนผิวดินด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าทุกอย่างทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ในดินมีแบคทีเรีย รา จุลชีพเล็กๆ อื่นๆ ที่พร้อมทำงานเมื่อพืชต้องการ พืชก็จะได้สารอาหารครบ แข็งแรง รากก็จะถูกป้องกันโดยแบคทีเรีย และราที่พืชเลี้ยงไว้ ไม่มีช่องว่างให้เชื้อที่เป็นสาเหตุโรคพืชเข้าทำลาย ทุกส่วนของกิ่งก้านใบ ก็จะถูกเคลือบคลุมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ส่วนบนพืชก็จะถูกป้องป้องจากโรค และแมลงเช่นกัน นอกจากนี้ต้นไม้เมื่อต้องการออกดอก ก็ยังใช้วิธีนี้ในการปั๊มเค๊กกับคุกกี้ไปไว้ที่เกษร เพื่อล่อแมลง และสัตว์ต่างๆ มาช่วยผสมเกษรอีกด้วย...
แล้วถ้าต้นไม้นั้นเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุนับสิบนับร้อยปี แถวนั้นก็จะมีแต่แบคทีเรีย รา ที่พืชนั้นเลี้ยงเอาไว้เต็มไปหมดสิ?..
มาดูว่าแม่ธรณีแก้ปัญหาอย่างไร?..แม่ธรณีก็จะให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่นอะมีบา โปรโตซัว ไส้เดือนฝอย (ที่มีประโยชน์) ไร ไส้เดือนดิน แมงมุม และสัตว์เล็กต่างๆ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ที่เป็นผู้ล่าตามลำดับขั้นต่อมา คอยควบคุมปริมาณของกันและกัน แบคทีเรีย รา และจุลชีพอื่นๆ ก็จะถูกสิ่งมีชีวิตในขั้นลำดับถัดไปกินเป็นอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณรอบๆ รากพืช และในขณะเดียวกันก็จะปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาในรูปฟอร์มที่พืชพร้อมใช้อีกเช่นกัน...
แบคทีเรียและราต่างๆ จะช่วยกันสร้างโครงสร้างดิน...
แบคทีเรียจะสร้างสารเหนียวๆ คล้ายกาวเพื่อยึดเกาะตัวเองไว้กับรากพืช และรวมเอาอินทรีย์วัตถุรอบๆ ตัวมันมารวมกันเป็นก้อนเล็กๆ (micro-aggregate) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและป้องกันไม่ให้ถูกชะล้างออกไป จากนั้นรา ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นสาย ก็จะรวมก้อนเล็กๆ เหล่านี้ไว้ด้วยกัน เหมือนกับการสร้างบ้าน ที่เราต้องมีอิฐ หิน ทราย ซึ่งเราจะต้องหาวิธียึดติดเข้าด้วยกันไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง (เปรียบเหมือนแบคทีเรียที่ทำหน้าที่นี้) แล้วจะเป็นบ้านได้ก็ต้องมี เสา ประตู หน้าต่าง หลังคา ซึ่งราชนิดต่างๆ จะทำหน้าที่สร้าง และยึดสิ่งเหล่านี้รวมกันไว้ และเมื่อกลายเป็นโครงสร้างดินที่ดีแล้ว มันจะคอยดูดซับธาตุอาหารต่างๆ อากาศ และน้ำ เก็บเอาไว้ในดิน รากพืชก็จะยิ่งสามารถชอนไชลงไปในดินได้ลึกมากขึ้น และราบางชนิดเช่นรา mycorrhiza ก็จะประสานรวมกันกับรากพืช (symbiotic) รากพืชให้อาหารกับเชื้อรา เชื้อราก็จะตอบแทนโดยการดึงน้ำ และผลิตเอ็นไซม์ไปย่อยธาตุอาหารต่างๆ (N, P, K, Mg, B, Zn, I, Mo และอื่นๆ รวมแล้วมากกว่า 42 ชนิด) ในเม็ดดินร่วน ดินทราย ดินเหนียว หิน อินทรีย์ว้ตถุ ให้กับพืช ตามปริมาณ สัดส่วน และรูปแบบที่พืชต้องการ ซึ่งถ้ามองผ่านเข้าไปในป่าสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ก็จะพบคำตอบที่ว่านี้ หน้าดินจะไม่ถูกชะล้างออก น้ำที่ซึมมาจากป่าธรรมชาตินั้นจะใสสะอาด จนสามารถดื่มได้เลย นี่คือความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ทำมานานมากก่อนที่จะมีมนุษย์เราบนโลกนี้เสียอีก...ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ต้องพ่นฮอร์โมน ไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง ไม่ต้องใช้ยาฆ่าหญ้า ไม่ต้องใช้สารกำจัดเชื่อรา...
ยังงัยเสียเราเองคือผู้ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร...ดังนั้นจะเห็นว่าถ้าดินดี มีชีวิต ดินที่ดีนั้นก็จะทำให้ต้นไม้แข็งแรง มีธาตุอาหารครบ เมื่อนำไปเลี้ยงสัตว์ หรือบริโภค พืชที่มาจากวิถีธรรมชาตินี้ก็จะให้สารอาหารครบถ้วน สัตว์และคนก็จะแข็งแรง ไม่ต้องกินวิตมิน อาหารเสริม ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "อาหารคือยา" นั่นเอง...
ตอนหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าการใช้สารเคมีสังเคราะห์ และวิธีการบางอย่างนั้น ทำไมยิ่งทำยิ่งแย่...ไว้ติดตามตอนต่อไปนะครับ...
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
