15 พ.ค. 2020 เวลา 18:01 • ไลฟ์สไตล์
A backhanded compliment
คำชมเป็นเรื่องดี
คนชมก็สุขใจ คนถูกชมยิ่งสุขกว่า
เรื่องราวมันก็น่าจะจบแบบ happy ending อยู่แล้ว
แต่ทำไมฉันไม่แฮปปี้กับเรื่องนี้เลยวะ!
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
หม่อมแม่ของดิฉันซึ่งอยู่กันคนละจังหวัดได้โทรมาหา
น้ำเสียงของนางดูอิ่มสุขชนิดที่คนฟังก็รู้สึกได้
ฉันรับโทรศัพท์แล้วยิ้มรู้ทันทีว่านางอารมณ์ดีมากๆ
ต้องมีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นกับนางแน่นอน
หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันพอหอมปากหอมคอ
แม่ก็เปิดประเด็นแห่งความสุขโดยที่ไม่ต้องรอให้ฉันถาม
ได้ความมาคร่าวๆว่าวันนี้มีญาติ(ห่างๆ)มาเยี่ยมบ้าน
แล้วเค้าก็แวะมาเยี่ยมนางด้วย
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าหม่อมแม่ของดิฉันแกเป็นคนค่อนข้างขาด...
ขาดในเรื่องการได้รับความสำคัญและการได้รับการยอมรับจากคนอื่น
จะด้วยปมในวัยเด็กหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
เราซึ่งเป็นลูกก็พอจะดูออกแหละว่านางดีใจขนาดไหนที่เค้าแวะมาหา
ว่าด้วยเรื่องญาติห่างๆที่มาเยี่ยมแม่
เป็นสองสามีภรรยาที่แม่ไม่ได้เจอมาประมาณ 5-6 ปีแล้ว
ส่วนฉัน เจอกันตัวเป็นๆครั้งสุดท้ายก็น่าจะเกิน 10 ปีมาแล้ว
แต่บังเอิญเป็นเพื่อนกันทางโซเชี่ยลได้ประมาณ 3 ปีกว่า
ตอนฉันเป็นวัยรุ่นเรียนอยู่ ม. ต้น
เด็กต่างจังหวัดอย่างฉันก็จะไปทำงานหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอมใน กทม
ฉันเคยได้ไปอาศัยนอนบ้านเค้าตอนอายุ 14-15 ปีอยู่ครั้งนึง
ซึ่งตอนนั้นฉันน่าจะมีแววว่าจะสวยในอนาคต
ได้เจอเค้าอีกที(ครั้งสุดท้าย)ตอนอายุประมาณ 18-19 ปีมั้ง
แล้วตอนนั้นก็น่าจะสวยตามที่(เค้า)คาดหวังกันเอาไว้แล้วด้วย
วกกลับมาที่เรื่องของหม่อมแม่
ฉันรู้ว่าฉันเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น
ทั้งเรื่องหน้าตาท่าทางทั้งเรื่องความสวย
และที่สำคัญที่สุดคือความบ้ายอ!
โดยเฉพาะเวลามีคนยอว่า”สวย”
และเหตุผลที่คุณแม่ปริ่มๆจะโอเวอร์โดสความสุข
ก็เดาได้ไม่ยากว่านางโดนตัวไหนมา
นางโดน 2 เด้งในวันเดียวกัน
คือมีคนมาให้ความสำคัญ และมีคนมาชมว่าสวย
นางดีใจจนเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ไหว
เลยต้องรีบโทรมาแชร์ความสุขกับลูกสาว
มันมาหาแม่ : แม่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
มันซื้อทุเรียนมาฝากแม่ลูกหนึ่ง แม่เลยทำข้าวเหนียวทุเรียนแล้วให้มันเอาไปกินในรถขากลับ มันบอกว่าฝีมือแม่ยังอร่อยเหมือนเดิม : นี่แหละอิแม่ของข่อย
เตือนน่ะ (เมียของญาติ) แกจำมันได้ใช่ไหม มันน่ารักมากเลยนะ พูดจาดี๊ดี มีสัมมาคารวะดีด้วย : แม่ชมไม่ขาดปาก
มันบอกว่ามันเป็นเพื่อนกับแกในเฟสด้วยนี่ : แม่ว่า
ใช่ๆเป็นได้สักพักแล้วล่ะ : ฉันพูดบ้าง
มันถามถึงแกว่าแกเป็นไงบ้างแม่ก็บอกว่าแกสบายดี ตอนนี้ทำงานที่ภูเก็ต : แม่เว้นระยะหายใจนิดหนึ่งแล้วค่อยสาธยายต่อว่า : มันถามแม่ว่าแกสุขภาพแข็งแรงดีใช่ไหม แม่ก็บอกมันไปว่าก็งั้นๆแหละ แกทำงานหนักไม่ค่อยได้พักผ่อนแล้วแกก็มีโรคประจำตัวด้วย
มาถึงตรงนี้ ฉันว่าฉันเริ่มได้กลิ่นไม่ค่อยดีจากน้าเตือนซะแล้ว
เขาคิดว่าหนูเป็นโรคอะไรหรือเปล่า? เป็นเพื่อนกันในเฟสก็ไม่เห็นทักอะไรมา คุยก็ไม่เคยคุย เป็นเพื่อนกันไว้ดูรูปเฉยๆมั้ง : ฉันแอบค่อนแคะ ซึ่งแม่ก็น่าจะรู้ทัน
ไม่หรอก เค้าก็แค่ถามด้วยความเป็นห่วง คงจะหาเรื่องชวนคุยกับแม่นั่นแหละ : แม่ออกโรงปกป้องน้าเตือน
ก่อนที่ฉันจะทำให้บทสนทนากร่อย
แล้วแม่ก็จะยังไม่มีโอกาสได้บอกความในใจกับฉัน
แกเลยต้องรีบชิงบอกเรื่องดีๆของแกให้ฉันฟังอย่างกระตือรือร้น
มันบอกว่าแม่ยังดูเหมือนเดิมเลย : แม่ตั้งใจเว้นคำว่า”สวย” ให้เติมเอาเอง
มันบอกว่าท่าทางก็ยังดูกระฉับกระเฉงแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ผมก็ยังไม่หงอก ฝีมือการทำอาหารอร่อยยังไงก็ยังอร่อยอยู่อย่างนั้น : แม่โอ่ด้วยความภาคภูมิใจ
ก็จริงอย่างที่น้าเตือนเค้าว่านั่นแหละ แม่ก็ยังสวยเหมือนเดิม : ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่น้ำกำลังเชี่ยวจะเอาเรือเข้าไปขวาง
ที่สำคัญนะ! : แม่เว้นวรรคนิดนึง คิดว่าคงอยากให้ฉันรู้ว่ามันสำคัญจริงๆ
เตือนมันถามเคล็ดลับกับแม่ว่าแม่ทำยังไงถึงไม่แก่ขึ้นเลย
มันว่าอายุขนาดนี้(50+++) ยังดูสาวอยู่มาก : แม่น่าจะยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงตรงนี้
มันบอกว่าแม่ดูสาวกว่าแกอีก : นั่นไง!
มันคิดว่าแกน่าจะไม่ค่อยสบายแหละหน้าตาแกเลยแก่ไปไกลกว่าแม่ซะเยอะ : แม่หัวเราะอย่างเอ็นดู ซึ่งนาทีนี้ฉันไม่รู้ว่าแม่เอ็นดูใคร
แต่ที่แน่ๆ แม่กับน้าเตือนนี่แหละจะน่าดู!
แม่คงมีความสุขมากสินะที่เค้าด่าลูกตัวเองว่าหน้าแก่ : ฉันเปิดเสียงเย็น
แม่หยุดหัวเราะทันทีแล้วถามกลับแก้เก้อว่าฉันว่าอะไรไปเมื่อกี้ แม่ไม่ทันได้ยิน
แต่ฉันรู้ว่าแม่ได้ยินทุกคำ มันเลยยิ่งทำให้ฉันน้อยอกน้อยใจเข้าไปอีก
แล้วฉันก็พรั่งพรูออกมา
น้าเตือนเค้าไม่ได้จะชมแม่หรอก เค้าแค่อยากจะบอกว่าหนูหน้าแก่ก็เท่านั้น เค้าแค่ใช้แม่เป็นเครื่องมือแล้วแม่ก็ดันไม่รู้ซะนี่ เค้าไม่ได้เจอหนูตั้งเป็น 10 ปีมาแล้วจะไม่ให้หนูแก่ขึ้นเลยหรือไง แล้วหนูไปแก่อยู่บนคอหอยพอกแกเหรอ : ฉันพูดอย่างคับข้องหมองใจ
ใครๆก็แก่ขึ้นทั้งนั้น หรือตัวแกเองไม่แก่ขึ้นเลย : น้ำเสียงฉันเริ่มเกรี้ยวกราด
มันก็แก่ขึ้นอยู่นะ : แม่พูดเสียงอ่อยอย่างรู้ว่าฉันกำลังโกรธจัดแล้วแกก็พยายามจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่ก็เหมือนเอาน้ำมันราดเข้าใส่กองไฟ ฉันที่เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่ายอยู่แล้ว
ก็เดินเครื่องต่อทันที
แม่ก็เหมือนกันนั่นแหละ เค้าด่าลูกตัวเองยังจะไปคิดว่าเค้าชมอีก
ถ้าเค้าจะชมเค้าก็ชมดีๆ ชมให้มันจริงใจสิ จะเอาคนคราวลูกมาเปรียบเทียบกับคนคราวแม่ได้ยังไง คนรุ่นราวคราวเดียวกันกับแม่ก็มีเยอะแยะทำไมไม่เอามาเปรียบ : ฉันพูดไปหอบไป
แบบนี้มันหลอกด่าลูกแต่หลอกชมแม่นี่นา หลอกสองเด้งเลย แม่ก็หลงดีใจที่เค้าชมแล้วยังจะโทรมาอวดลูกอีก น้าเตือนนี่ร้ายจริงๆ : ฉันยังไปต่อได้เรื่อยๆ
แต่ก่อนที่อะไรๆมันจะบานปลายไปกว่านี้
แม่ก็เริ่มด่าน้าเตือนผสมโรงกับฉัน
แม่ก็ว่าอยู่ว่ามันแปลกๆ ถามซอกแซกเรื่องของแกอยู่นั่นแหละ
แม่บอกว่าอยากรู้อะไรก็ให้ถามกันในเฟสเอาเอง แม่จะให้เบอร์โทรแกมันก็ไม่เอา
มันบอกว่าเกรงใจ : แม่พูดยืดยาว
ทีหลังมันมาแม่จะไม่ให้มันเข้าบ้าน แถมจะด่าให้เจ็บเลย มาว่าลูกชั้นได้ยังไง : แม่พูดเอาใจ
คอยดูนะ จะไม่ทำข้าวเหนียวทุเรียนให้กินอีกเลย : แม่เล่นใหญ่ไปอีก
แม่พูดแค่นั้นก็เกินพอแล้วสำหรับหัวอกลูกที่หน้ากว่าแม่อย่างฉัน
ฉันบอกแม่ว่าฉันเจ็บ แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ็บอะไรหรือเจ็บตรงไหน
มันแสบๆคันๆในหัวใจและความรู้สึกมันก็ปนๆกันกันไปหมด
ทั้งยินดีที่แม่มีความสุขที่แม่ถูกชม
ทั้งเสียใจที่มารู้ทีหลังว่าแม่โดนหลอก
เสียใจที่ถูกว่า ว่าตัวเองหน้าแก่กว่าแม่
แต่เสียใจกว่าที่แม่ดันดีใจที่เราหน้าแก่กว่าแก
และที่เสียใจที่สุดคือฉันเองที่เป็นคนทำลายความสุขของแม่
ด้วยการอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้แม่ฟัง
เราสองคนสรุปกันเอาเองว่า
ปัญหาทั้งหมดน่าจะมาจากคำชมเคลือบยาพิษของน้าเตือน
ที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า backhanded compliment
หรือพูดง่ายๆว่า “หลอกด่าด้วยคำชม” นั่นเอง
ซึ่งบรรดาผู้ถูกชมก็จะมีอาการจุกๆที่ลิ้นปี่ทุกครั้ง
ที่ได้รับคำชมประเภทนี้
เหมือนถูกมัดมือชกแถมชกกลับไม่ได้
เพราะเค้ากำลัง “ชม” เราอยู่
ฉันขอแนะนำว่าถ้ารู้แล้วว่าเค้าหลอกชมและคิดว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ให้รีบหนีหายไปจากคนพรรณนี้ซะ
อยู่ไปก็มีแต่จะเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ
แต่ถ้ามีเวลาและคิดว่าเอาอยู่
ก็ถามกลับไปเลยตรงๆ ว่าตกลงจะ “ชม” หรือจะ “ด่า” กันแน่
พูดเสร็จก็ปล่อยให้เค้ามีเวลาพิจารณาตัวเองไป
อย่างน้อยเค้าก็อาจจะรู้ว่าเรา “รู้ทัน”
กลับมาที่ฉันกับแม่ หลังจากที่เราปรับความเข้าใจกันแล้ว
แม่บอกว่าถึงน้าเตือนจะไม่มาออเซาะชมแกว่าแกไม่แก่
แกก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ว่าแกยังดูสาวกว่าคนรุ่นเดียวกันมาก
แต่ไหนๆแกก็จะต้องทำข้าวเหนียวทุเรียนให้น้าเตือนกินอยู่แล้ว
หลอกให้น้าเตือนชมแกสักนิดสักหน่อย ก็ถือเป็นสินจ้างรางวัลของแกไม่ใช่เหรอ
แม่กลับลำอย่างรวดเร็ว พร้อมสร้างเครดิตให้ตัวเองไปพร้อมๆกัน
ตกลงในความร้ายของน้าเตือน คนที่เจ็บสุดคือฉัน แต่คนที่ร้ายสุด...น่าจะเป็นแม่!
ขอบคุณและสวัสดีดีค่ะ
รูปภาพ Cr BorGor Jaidee
โฆษณา