ยอดการผลิตของโรงงานในสหรัฐฯ ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 100 ปี และยอดคนตกงานพุ่งเกือบ 40 ล้านคน ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติเงินอัดฉีดกว่า 3 ล้านล้านเหรียญฯ กระตุ้นเศรษฐกิจและรับมือผลกระทบจาก COVID-19 !!! / โดย คลินิกการลงทุน
ยอดการผลิตของโรงงานในสหรัฐฯ ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 100 ปี และยอดคนตกงานพุ่งเกือบ 40 ล้านคน ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติเงินอัดฉีดกว่า 3 ล้านล้านเหรียญฯ กระตุ้นเศรษฐกิจและรับมือผลกระทบจาก COVID-19 !!! / โดย คลินิกการลงทุน
เมื่อคืนนี้ ดัชนี Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 60.08 จุด หรือบวกไป 0.25% ดัชนี S&P 500 บวกไป 0.39% และดัชนี Nasdaq บวกไป 0.79% ขณะที่ ดัชนี VIX ปรับตัวลงเล็กน้อยกว่า 2.21% บ่งชี้ถึงระดับความกลัวและความผันผวนในตลาดที่ลดลง โดยหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Apple (-0.59%), Amazon.com (+0.88%), Microsoft (+1.46%), Tesla (-0.52%) และ NVIDIA (+5.73%)
Source: investing.com
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเกือบทั้งภูมิภาค นำโดย ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 1.01% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปรับตัวขึ้น 1.24% แต่ตลาดหุ้นสเปน ปรับตัวลง 1.08% ส่วนทางฝั่งของตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดตลาดทรงตัวทั้งแดนบวกและแดนลบ ขณะที่ เมื่อวานนี้ ดัชนี SET index ตลาดหุ้นไทยปิดตลาด ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.36 จุด หรือบวกไป 0.03%
Source: investing.com
ล่าสุด เมื่อคืนนี้ มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำเดือนเมษายน หลายตัว ได้แก่ US Manufacturing Production หรือยอดการผลิตของโรงงานในสหรัฐฯ พบว่าลดลง 13.7% นับว่าเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1919 หรือในรอบกว่า 100 ปี ส่วนตัวเลข US Retail Sales หรือยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ ลดลง 16.4% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้อยู่ที่ -12% ขณะที่ Motor vehicle production หรือยอดการผลิตยานยนต์ ร่วงลงหนักอยู่ที่ 70,000 หน่วยต่อปี จากเดิมที่เคยผลิตได้มากถึงกว่า 11 ล้านหน่วยต่อปี
Bloomberg
ขณะที่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ (US Initial Jobless Claim) สัปดาห์ล่าสุด พุ่งขึ้นอีกกว่า 2.98 ล้านคน มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5 ล้านคน โดยรวมยอดทั้งหมด 8 สัปดาห์ สูงถึงเกือบ 40 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 15.7% แม้สหรัฐฯ จะกลับมาเปิดเมืองเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว
Cr. CNBC
โดยหลักๆ แล้วการร่วงลงอย่างหนักของตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวนั้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้โรงงานของสหรัฐฯ หลายแห่งต้องปิดตัวลงจากมาตรการปิดเมือง Lockdown ซึ่งเจ้าของกิจการจำนวนมากได้พยายามออกมาเรียกร้องให้รัฐต่างๆ กลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง เพราะหากการปิดเมืองยังยืดเยื้อต่อไป จะต้องสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับทั้งประชาชน ภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากขึ้นไปอีก
ล่าสุด ทางรัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้ามาในระบบเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านเหรียญฯ หรือเกือบ 100 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือทั้งภาคธุรกิจ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงการจ่ายเงิน Paycheck ให้กับประชาชนสหรัฐฯ อีกรอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้อัดฉีดเม็ดเงินไปแล้วมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านเหรียญฯ เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ และรับมือผลกระทบของโควิด-19
Cr. thehill
ขณะที่ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาบอกว่า เขาต้องการจะตัดความสัมพันธ์กับ สี จิ้นผิงและประเทศจีน เพราะจะทำให้สหรัฐฯ ประหยัดเงินไปได้ถึงกว่า 5 แสนล้านเหรียญฯ อีกทั้งยังบอกอีกว่าเขาจะลงโทษพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่เข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทำผิดกฎของตลาด ทำให้ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหากสหรัฐฯ ตัดความความสัมพันธ์การค้ากับจีนจริง และสงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เศรษฐกิจโลกต้องเสียหายหนักอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ได้ออกมาโจมตีจีนว่าเป็นอยู่เบื้องหลังการปล่อยไวรัสให้มาระบาดในสหรัฐฯ จนสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ประเทศ เพื่อทำให้เขาเสียที่นั่งประธานาธิบดีสมัยหน้า ทำให้ปธน.ทรัมป์ ได้ส่งหน่วยงานของสหรัฐฯ หลายแห่งเข้าไปตรวจสอบหาความจริงเกี่ยวกับไวรัส
JON BENEDICT FOR FOREIGN POLICY/GETTY IMAGES
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดปิดตลาดอยู่ที่ราคา 1743.02 เหรียญฯ ต่อออนซ์ ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า มีแนวโน้มสูงมากที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1,800 เหรียญฯ ต่อออนซ์ โดยในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำพึ่งขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดในรอบกว่า 8 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2012
โดยปัจจัยหลักๆ ที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นนั้น เนื่องจากการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาของหลายๆ ประเทศ จนสภาพคล่องล้นระบบ ทำให้ค่าเงินต่างๆ เริ่มมีมูลค่าลดลง (Devalue) ขณะที่ ทองคำนั้นมี Supply ที่จำกัด ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
Bloomberg | Getty Images
ทางด้านตลาดน้ำมัน เมื่อวันก่อน กลุ่ม OPEC ได้ออกมาประกาศว่า จุดต่ำสุดของตลาดน้ำมันได้ผ่านผ้นไปแล้ว โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบทั้ง Brent และ WTI ทยอยปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
โดยทางด้าน Mohammed Barkindo เลขาธิการ OPEC ได้ออกมาบอกว่า ทางกลุ่ม OPEC มองว่า วิกฤตน้ำมันล้นโลกนั้นได้ผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว จาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันตามสัญญารวมกว่า 17.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และสัญญาณความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่มีแนวโน้ทฟื้นตัวขึ้น จากการกลับมาเปิดเมืองในหลายๆ ประเทศ
Bloomberg
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด (16 พ.ค.) พุ่งสูงขึ้นทะลุ 4.6 ล้านรายแล้ว มีจำนวนผู้เสียชีวิตทะลุ 3 แสนราย และมีจำนวนผู้ที่รักษาหายแล้วกว่า 1.7 ล้านคน โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ, สเปน, รัสเซีย, อังกฤษ และอิตาลี ตามลำดับ
Source: worldometers
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ล่าสุด พุ่งขึ้นทะลุ 1.48 ล้านรายแล้ว มียอดผู้เสียชีวิตรวมกว่า 8.8 หมื่นราย และมียอดรักษาหายแล้วกว่า 3.2 แสนราย โดยรัฐนิวยอร์คมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ที่กว่า 3.5 แสนราย และเสียชีวิตกว่า 2.7 แสนราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน (Daily new cases) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา พุ่งสูงขึ้นอีกครั้งอยู่ที่ 26,692 ราย
Source: worldometers
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย ล่าสุด (15 พ.ค.) มียอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 3,025 ราย Active cases 115 ราย มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 56 ราย และรักษาหายแล้ว 2,854 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน (Daily new cases) มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หลายฝ่ายกังวลว่าการกลับมาเปิดเมืองและเปิดดำเนินการธุรกิจต่างๆ อีกครั้งในหลายจังหวัดทั่วประเทศ อาจเกิดการระบาดในเฟสที่ 2 ตามมาอีก จนทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวฟที่ 2 อีกครั้ง ซึ่งหลังจากกลับมาเปิดเมืองแล้ว ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญคือ การ์ดอย่าตกเด็ดขาดครับ สู้ๆ 🇹🇭✌️
Source: worldometers
💰💎📌 สนใจเปิดพอร์ตลงทุนกับ "หลักทรัพย์หยวนต้า (Yuanta Securities)" ติดต่อได้ที่ Inbox เพจ "คลินิกการลงทุน" คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี่ได้เลยครับ 👇👇👇
ยอดการผลิตของโรงงานในสหรัฐฯ ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 100 ปี และยอดคนตกงานพุ่งเกือบ 40 ล้านคน ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติเงินอัดฉีดกว่า 3 ล้านล้านเหรียญฯ กระตุ้นเศรษฐกิจและรับมือผลกระทบจาก COVID-19 !!! / โดย คลินิกการลงทุน
ช่องทางติดตาม "คลินิกการลงทุน"
#คลินิกการลงทุน
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
