16 พ.ค. 2020 เวลา 04:39 • ไลฟ์สไตล์
รีวิวหนังสือ คืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย
Living the simple
จุดมุ่งหมายของชีวิตคืออะไร หน้าที่การงานอันยุ่งเหยิงวุ่นวาย หรือเงินทองมากมายมหาศาล หรือชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม ทุกคนมีคำตอบอยู่ในใจ ไม่ว่าคำตอบของคุณคืออะไร หนังสือคืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย อาจเป็นจุดเริ่มต้นพื้นฐานในการลดละเลิกหรือเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เรียบง่ายขึ้น ตัดสิ่งที่ไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิตออกไป มีเวลาพักผ่อนและหาความรื่นรมย์ในชีวิตมากขึ้น
ชื่อเรื่อง คืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย
แปลจาก living the simple life
ผู้เขียน เอเลน เซนต์ เจมส์
ผู้แปล นุชจรี ชลคุป
สำนักพิมพ์ มูลนิธิโกมลคีมทอง
พิมพ์ครั้งที่ 2 กุมภาพันธ์ 2543
จำนวนหน้า 264 หน้า
ราคา 180 บาท
ผู้เขียนหนังสือกล่าวว่า การทำชีวิตให้เรียบง่าย ไม่ใช่การกำจัดสิ่งต่าง ๆ ออกจากชีวิต แต่เป็นการเลือกใช้ เลือกทำ อย่างชาญฉลาดต่างหาก ทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น มีเวลาชื่นชมสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม มีเวลาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า มีเวลาฟังเสียงนกร้องเพลง มีเวลาชื่นชมดอกไม้ผลิบาน ไปเริ่มต้นลงมือทำกันเลย
อย่างแรก ลองถามตัวเองว่า คุณจะมีเวลาว่างเพิ่มขึ้นได้ยังไงบ้าง
อย่างที่สอง ถามตัวเองว่า อะไรบ้างที่มีความหมายสำหรับชีวิตจริง ๆ
อย่างที่สาม ตรวจสอบเป้าหมายให้ชัดเจนว่า คุณอยากทำอะไรบ้าง เช่น เรียนวาดรูป ทำสวนไม้ประดับ เขียนหนังสือ เรียนภาษาสเปน จัดดอกไม้ ทำหนังสั้น ทำแมกกาซีน ฯลฯ
คุณมีสิ่งที่อยากทำมากมายก่ายกอง แต่ไม่ได้ทำเสียที เพราะอะไร เพราะคุณไม่มีเวลาน่ะสิ ดังนั้น คุณคงได้คำตอบแล้วว่า เราจำเป็นต้อง คืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย เพื่อให้มีเวลาเหลือมากขึ้น จะได้นำเวลาที่เหลือไปทำกิจกรรมที่อยากทำ อาจจะทำเป็นงานอดิเรก หรืออาจจะกลายเป็นงานหลักในอนาคตก็ได้
อ่านมาถึงตรงนี้ ของคั่นรายการ ด้วยการเล่าประสบการณ์ของ ChicDaily เมื่อก่อนเราเองใช้ชีวิตแบบยุ่งเหยิงมาก ทั้งเรื่องงาน งานบ้าน งานสังคม ฯลฯ เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ เราก็ฉุกคิดได้ว่า เราต้องจัดสรรเวลาให้ดีกว่านี้ เรียบง่ายกว่านี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ลด ละ ไปบ้าง เช่น เมื่อก่อนนั่งแช่หน้าทีวีนาน ๆ เหมือนถูกดูดวิญญาณ ตอนหลังเปลี่ยนมาดูคลิปวีดีโอจาก YouTube ตามเวลาที่เราว่าง กิจกรรมสังสรรค์ลดลงไป ไปเท่าที่จำเป็น ลดงานที่ไม่ตรงกับเป้าหมายหลักออกไป ทำให้มีเวลาโฟกัสกับงานหลักมากกว่าเดิม
ตัวอย่างที่ผู้เขียนหนังสือแนะนำ อะไรที่ไม่ใช้ก็ทิ้งไป เพราะเก็บไว้ก็รกบ้าน เปลืองพื้นที่จัดเก็บ ต้องคอยปัดฝุ่น ทำความสะอาด แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร เหมือนใช้ชีวิตอยู่ในห้องเก็บของ [ข้อนี้โดนมาก ตัดใจเก็บของทิ้งบ้าง บริจาคบ้าง บ้านว่างขึ้นเยอะเลย] เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ เช่น ซื้อหนังสือมากองเต็มบ้าน แต่อ่านครั้งเดียว แล้ววางไว้บนชั้นให้ฝุ่นจับ เสียเวลาเช็ดฝุ่นอีกแล้ว ผู้เขียนแนะนำว่า ไปอ่านที่ห้องสมุดประชาชน หรือห้องสมุดมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน อ่านแล้วจดบันทึกสาระสำคัญไว้ เท่านี้ก็แก้ปัญหาหนังสือล้นบ้านได้แล้ว นอกจากนั้น ถ้าจะซื้อของเพิ่ม ให้เลื่อนเวลาซื้อออกไปก่อน อย่าซื้อทันที เพื่อรอให้แน่ใจว่าอยากได้จริง ๆ แล้วค่อยซื้อ
จัดการการซักรีดเสื้อผ้าแบบง่าย ๆ เช่น เลือกซื้อเสื้อผ้าแบบไม่ต้องรีด จะได้ไม่ต้องเสียเวลารีดเสื้อผ้า เลือกซื้อถุงเท้าแบบเดียวกันสีเดียวกัน 7 คู่ไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่ถุงเท้า หยิบอันไหนออกมาก็ใส่ได้หมด หาถุงผ้ามา 2 ใบ ใบหนึ่งใส่ถุงเท้าสะอาด อีกใบใส่ถุงเท้าที่ใช้แล้ว เวลาเอาไปซักก็เอาไปซักทั้งถุงผ้า ตอนเก็บก็เก็บถุงเท้าใส่ถุงผ้า แขวนถุงผ้าไว้หยิบใช้ได้เลย ประหยัดเวลาดีเหมือนกัน
ถ้ามีลูก สอนลูกมีส่วนร่วมในงานบ้าน ช่วยให้ลูกเรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน กำหนดขอบเขตการใช้เงิน เช่น ไปตลาด หรือไปห้างสรรพสินค้า ตั้งงบประมาณให้เขาตัดสินใจเองว่าจะซื้ออะไรก็ได้ ด้วยงบที่กำหนดให้ เช่น 500 บาท หรือ 1,000 บาท [chidaily นำวิธีการนี้ไปใช้กับลูกสองคน ได้ผลดี ทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้การตัดสินใจ ในขอบเขตที่กำหนด ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ เด็ก ๆ จะรู้สึกว่า จะขอพ่อแม่ซื้ออะไรก็ได้ เป็นจำนวนเงินเท่าไรก็ได้ ไม่มีลิมิต]
สิ่งที่เราได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ การคิดอย่างมีเหตุผลว่า ทำไมเราควร คืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย เราได้อะไรบ้างจากการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย พร้อมเสนอแนะวิธีการใช้ชีวิตให้เรียบง่าย ที่เรานำไปประยุกต์ใช้ได้เลยทันที อ่านเถอะ แล้วจะอิ่มเอมใจ สุขใจจากภายใน มีเวลาทำตามใจฝันมากขึ้น
หนังสือมีขายตามร้านขายหนังสือมือสอง หรือยืมอ่านจากห้องสมุดประชาชน หรือห้องสมุดมหาวิทยาลัยใกล้บ้านนะคะ
ติดตามผลงานของ ChicDaily ได้ที่
YouTube : PintoDaily ชวนมือใหม่หัดทำอาหารกินเองที่บ้าน ปลุกผักสวนครัวไว้กินเอง
Facebook : PintoDaily
Twitter : @pintodaily
Nirutt & Lux ChicDaily
ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน
โฆษณา