16 พ.ค. 2020 เวลา 09:25 • ไลฟ์สไตล์
สวัสดีครับทุกคน
วันนี้ผมอยากจะแนะนำตัวเองเพราะผมพึ่งเคยเข้ามาเล่นในแอปนี้เป็นครั้งแรกยังไม่รู้อะไรเท่าไรเลยอยากจะแนะนำตัวเอง
เล่าเอาเรื่อง เป็นเพจที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่ออยากจะเล่าอะไรก็ตามที่ผมอยากเล่าออกมาเพราะบางครั้งเราไม่กล้าที่จะเล่าให้ใครฟังต่อหน้าเลยต้องหาที่ระบาย จะว่าอย่างงั้นก็ได้
ผมพึ่งเรียนจบมาครับจากมหาวิทยาลัยดังของภาคอีสาน จากคณะนิติศาสตร์ ซึ่งในตอนเรียนนั้นผมขอบอกตรงๆจากความรู้สึกเลยว่าเป็นคณะที่ยากมากสำหรับผมทั้งอ่านทั้งท่องทั้งจำทั้งต้องนำมันไปใช้ให้เป็นด้วย
วันที่จบเป็นวันที่ผมดีใจมากเพราะจะได้ไม่ต้องเครียดอ่านหนังสือหนักๆ แต่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้นหลังจากจบมาผมกลับยิ่งอ่านหนังสือมากกว่าตอนเรียนซะอีกไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
ตอนจบมาผมไม่มีแผนในหัวเลยตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปไงต่อหลังจากจบเพราะปกติผมแค่ตื่นมาไปเรียน เที่ยว แต่พอเรียนจบมันเหมือนทุกอย่างเริ่มนับหนึ่งอีกครั้งเลยก็ว่าได้เพราะเราจะไม่ชินกับการตื่นมาแล้วไม่ต้องไปเรียนสำหรับผมมันเป็นอะไรที่ไม่ชินเลย
แล้วมาวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะด้วยความที่ว่างจัดแผนในหัวก็ไม่มีผมเลยตัดสินใจแบบไม่คิดไรมากเลยตอนนั้นคือไปเป็นเด็กยกเตาร้านหมูกระทะของเพื่อนตอนนั้นคือไม่สนเรื่องค่าจ้าง เพราะในหัวตอนนั้นผมแค่อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วผมก็ทำได้เดือนหนึ่งผมก็ได้เงินมาไม่มากหรอกผมเลยตัดสินใจออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียวกับกระเป๋าใบหนึ่งคิดไว้ว่าถ้าเงินหมดก็จะหางานทำไปด้วยตอนไปเที่ยว
แต่ก็ไปได้แค่อาทิตย์เดียวเงินหายเลยกลับมาห้องพักแล้วหางานทำ รอบนี่ผมตัดสินใจไปทำร้านชาบูชิเพราะเห็นเปิดใหม่เลยอยากลองไปทำดู ผมทำทุกอย่างในร้านชาบูแบบจริงจังเหมือนเป็นเจ้าของร้านเองเลยเอาตั้งแต่เปิดร้านจัดโต๊ะโทรตามคนมาทำงานรายงานว่าวันนี้ขายได้เยอะไหมผมทำแบบนี้อยู่สามสี่เดือน จนผมรู้สึกพอกับงานแบบนี้
จากนั้นผมก็ลาออกไปสมัครร้านอาหารญี่ปุ่นไปทำหน้าที่เหมือนกับผู้ช่วยเซฟ คอยหยิบนั้นหยิบนี้แล้วก็ศึกษาวิธีทำอาหารญี่ปุ่นทำอยู่สองสามเดือนพอรู้เคล็ดลับ
แล้ววันหนึ่งพ่อผมก็โทรมาถามว่าจะเอาไงต่อ คือตอนนั้นผมก็ยังไม่มีเป้าหมายอะไรอยู่ดีผมก็ตอบพ่อไปว่าจะไปสมัครตำรวจจะลองสอบดู
ผมก็เลยลาออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วก็ไปสมัครสอบตำรวจ ผมก็ไม่ได้คิดไรมากนะครับตอนนั้นแค่ลองสอบดูแต่หลังจากสมัครสอบแล้วผมก็ไม่ได้อ่านหนังสือเลยเพราะหลังจากลาออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น ผมก็ออกไปเที่ยวเหมือนเดิม
ผมจำได้ว่าผมเที่ยวในจังหวัดตัวเองทุกที่และจังหวัดใกล้เคียงอีกทุกที่ จนก่อนสอบสามวันผมกลับบ้านมาจัดของเตรียมไปสอบตำรวจผมก็บอกพ่อแค่ว่าดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงผมนอนอยู่บ้านหนึ่งคือก็เก็บของเดินทางไปสอบเพราะจะต้องหาที่พักก่อนสอบด้วย
ผมมาถึงสนามสอบผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเครียดกับการสอบทุกครั้งที่สอบผมจะทำตัวสบายๆ ต่อให้ไม่ได้อ่านอะไรมาก็ตาม แล้วผมก็สอบแบบไม่ได้อ่านหนังสือผลออกมาคือผมสอบติดแบบที่ตัวเองก็กำลังวางแผนที่เที่ยวผมเลยต้องมารายงานตัว
ผมก็รายงานตัวทำเรื่องแล้วจากนั้นก็ทดสอบร่างกายก็ผ่านไปได้สัมภาษณ์ก็ผ่านไปได้ทำให้ผมได้ไปเรียนตำรวจแบบไม่คิดมาก่อนในหัวเลยว่าจะได้มาเรียน
พอเข้ามาเรียนผมก็ได้รู้ว่านิติศาสตร์ที่ผมเรียนมามันสามารถต่อยอดทางสายตำรวจได้
ตอนเรียนตำรวจผมก็คิดแค่ว่าหาประสบการณ์ใหม่ๆ ผมก็เรียนบ้างหลับบ้าง จนจบตำรวจออกมา
ตอนนี้ก็ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน และใช้ชีวิตช่วงเรียนมหาวิทยาลัยจนจบมาแล้วเที่ยวอย่างพอใจแล้ว
ผมคิดไว้เสมอถ้าสิ่งไหนที่เราไม่เคยทำและสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายไม่ผิดกฎหมายไม่ทำให้ใครเดือดร้อนลงมือทำมันเถอะครับ แล้วสิ่งที่ได้มานั้นรับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนครับเพราะผมเรียกมันว่า"ประสบการณ์"
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ผมก็ขอขอบคุณมากครับต่อให้ไม่มีคนอ่านอย่างน้อยผมก็ได้เล่ามัน ผมก็สบายใจแล้วหวังว่ามันจะพอเป็นแรงให้วัยรุ่นกล้าลองกล้าลุย
ขอบคุณครับ
โฆษณา